ผู้เขียน หัวข้อ: บุคลิกภาพแห่งความสำเร็จในการหางาน  (อ่าน 1480 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Master

  • [color=Turquoise][i]"อาจจะเหนื่อยล้าและมีผิดหวัง แต่ยังมีพรุ่งนี้ให้เราได้เริ่มกันใหม่ ทุกชีวิตที่อยู่ในเมืองนี้ สักวันก็คงได้สมดังใจ ... "[/i][/color]
  • Global Moderator
  • Sr. Member
  • *****
  • กระทู้: 487
  • พอยท์: 0
    • ดูรายละเอียด
บุคลิกภาพแห่งความสำเร็จในการหางาน
« เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2016, 10:54:35 »
 นอกเหนือจากความรู้ความสามารถในงาน แล้ว ความดูดีของบุคลากร ก็เป็นสิ่งที่องค์กรชั้นนำหลายแห่งปรารถนา เพราะถือเป็นหน้าตาขององค์กร เสริมสร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ขององค์กรได้อีกทางหนึ่ง ความดูดีในที่นี้ไม่ได้หมายความถึงการที่มีรูปร่างหน้าตาที่ดี แต่เป็นการดูถึงองค์ประกอบโดยรวมของบุคลิกภาพที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถปรับปรุงพัฒนา หรือสร้างให้เกิดมีขึ้นได้ในทุกๆคน ในที่นี้จึงขอรวบรวมเกร็ดเล็กๆน้อยเกี่ยวกับการเสริมสร้างบุคลิกภาพโดยเฉพาะ ผู้ที่ต้องการความสำเร็จในการหางาน โดยจะพูดถึงประเด็นต่างๆ ดังนี้
 
  • การ แต่งกาย  ไม่จำเป็นต้องแต่งด้วยเครื่องแต่งกายหรูหรา หรือใช้เครื่องประดับราคาแพง แต่ควรแต่งกายให้ดูสุภาพตามหลักสากล ดูน่าเชื่อถือ และเหมาะสมกับลักษณะงานที่ไปสมัคร ข้อพึงระวังในเรื่องนี้ คือ งดเว้นการแต่งกายที่ล่อแหลม หรือเปิดเผยส่วนต่างๆของร่างกายมากจนเกินไป ชุดทำงานในรูปแบบเชิ้ตแขนยาวสีอ่อนติดกระดุม ผูกเน็คไท หรืออาจมีสูท สำหรับผู้ชาย หรือเสื้อแจ็คเก็ตสีเข้ม และกระโปรงหรือกางเกงขายาว สำหรับผู้หญิง สีสุภาพคือ เทา ดำ เป็นสีกลางๆสามารถนำมาใช้ได้อย่างดีในหลายๆโอกาส รวมถึงการสมัครงานด้วย
  • การ ฟัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเข้าไปติดต่อกับหน่วยงานที่เราจะไปสมัครเข้าทำงาน หรือกรรมการผู้คัดเลือก การฟังอย่างกระตือรือร้น (Active Listening) จำเป็นอย่างมาก เพื่อทำให้เรารับทราบข้อเท็จจริงต่างๆอย่างถูกต้อง ทำให้รู้ถึงความหมายที่แท้จริงของข้อความที่สื่อออกมา รวมถึงสามารถรับรู้ได้ถึงอารมณ์และความรู้สึกของผู้พูด หากมีข้อสงสัยก็หาจังหวะสอบถามเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจได้ถ่องแท้ขึ้น ทำให้สามารถตั้งคำถามและตอบคำถามได้อย่างถูกต้องตรงประเด็น
  • การ พูด เป็นหัวใจสำคัญและสอดคล้องเกี่ยวเนื่องกับการฟังเป็นอย่างยิ่ง การพูดที่มีประสิทธิภาพจะสามารถสะท้อนสติปัญญา และปฏิภาณไหวพริบที่มีอยู่ในตัวผู้พูดได้ โดยเฉพาะในการนำเสนอตัวเอง การพูดในจังหวะที่เหมาะสม อาจจะปรับระดับเสียงสูง ต่ำ เร็ว หรือช้า ไปตามเนื้อเรื่อง แต่ระวังไม่ให้เร็วจนรัว หรือช้าจนยืด มีการเน้นคำ หรือประโยคใจความ เว้นวรรคตอนให้ชวนฟัง และรื่นไหล ออกเสียงคำควบกล้ำ หรืออักขระที่ชัดเจน เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งในการใช้ภาษาไทย หากใช้ภาษาอังกฤษก็ให้เน้นความถูกต้องในการออกเสียง เน้นเสียงในพยางค์ของแต่ละคำที่ตรงตามข้อกำหนดของหลักภาษา น้ำเสียงที่ชวนฟังจะสามารถคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียดจากหนักเป็นเบา หลีกเลี่ยงคำหยาบคาย คำสบถต่างๆ คำที่ไม่จำเป็น ไม่เกิดประโยชน์ที่จะพูด เช่น “แบบว่า”“คือว่า”“มันเป็นอะไรที่”“เอ่ออ่า”เพื่อที่จะสะท้อนถึงวุฒิภาวะทาง อารมณ์ที่ดีในตัวผู้พูด
  • การ ยืน เดิน และการนั่ง หลักสำคัญคือ ให้มีความสง่าผ่าเผย แสดงถึงความเชื่อมั่น ด้วยแนวลำตัวที่ตรง อกผายไหล่ผึ่ง ดูกระฉับกระเฉง เป็นธรรมชาติ ไม่แข็งทื่อ หรือดูห่อเ*่ยวขาดชีวิตชีวา หมั่นสังเกต บุคลิกภาพของผู้นำที่มีชื่อเสียงทั้งในระดับประเทศและของโลก ดึงจุดเด่นของแต่ละท่านมาปรับใช้ให้เหมาะสม การยืนควรให้เท้าสองข้างรับน้ำหนักเท่ากัน เลี่ยงการงอเข่า การเดินให้มีจังหวะเหมาะสม ไม่ช้าจนเฉื่อย หรือเร็วจนเหมือนรีบร้อน แกว่งมือได้ตามสบาย ในระดับที่เหมาะสม การนั่งให้บั้นท้ายชิดพนักเก้าอี้ หลังตรง ควรระวังพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมระหว่างที่ยืน เดิน และนั่ง คือการ ล้วง แคะ แกะ เกา หรือพยายามให้มีน้อยที่สุด เพราะทำให้เสียหายต่อบุคลิกโดยรวมอย่างมาก
  • การ แสดงออกทางสีหน้า และอารมณ์ การยิ้มนิด ๆระหว่างที่สื่อสาร ในทางจิตวิทยาจะสามารถสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในตนเอง ความมั่นคงทางอารมณ์  ความจริงใจ และความเป็นมิตร ระมัดระวังการแสดงออกทางอารมณ์ เมื่อถูกยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ไม่ควรแสดงอาการดีใจ เสียใจ ตกใจ หรือกลัวจนเกินกว่าเหตุ
  • การ แสดงออกทางสายตา หลักสำคัญคือการสบตาผู้ฟัง (Eye Contact)  อย่างทั่วถึงและเป็นมิตร ไม่ควรมองในลักษณะเพ่งจ้องที่คนใดคนหนึ่งนานเกินไป ไม่ควรละสายตา หรือไม่สนใจมองผู้ฟังเป็นเวลานานๆ หรือการจ้องมองเพดาน มองโต๊ะ หรือที่ใดที่หนึ่งนานๆ เพราะจะกลายเป็นกิริยาที่ไม่สุภาพในทันที หลีกเลี่ยงการยักคิ้ว หลิ่วตา เหล่ตา หรือมองผู้อื่นด้วยหางตา  เพราะจะทำให้ดูขาดความน่าเชื่อถือ เคล็ดไม่ลับ คือการพักผ่อนให้เพียงพอ เลี่ยงการนอนดึก จะทำให้คุณมีดวงตาที่สดใส และมีชีวิตชีวา
  • การ แสดงออกด้วยกิริยา ท่าทาง หลักปฏิบัติ คือการคงความเป็นตัวของตัวเอง กล้าแสดงออก มีพลัง มีชีวิตชีวา แต่คงอยู่ในกรอบของความสุภาพ ให้เกียรติคู่สนทนา และสถานที่ หลีกเลี่ยงการแสดงท่าทางหรือกิริยาที่ไม่จำเป็น ซ้ำๆ เช่นการเคาะโต๊ะ ทุบโต๊ะ หมุนเก้าอี้ไปมา สั่นขา หมุนมือ หักข้อนิ้ว ดีดนิ้ว เป็นต้น
  • การ รู้จักบุคคล เวลา และสถานที่ การรู้จักทำตัวให้เข้ากับบุคคลที่เราต้องติดต่อ หลักสำคัญคือการมีสัมมาคารวะ นอบน้อม จากนั้นคือเรื่องของการรักษาเวลา เมื่อมีนัดหมายควรไปถึงก่อนเวลาเล็กน้อย เพื่อทำความคุ้นเคยกับสถานที่ เพื่อการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม และกฎระเบียบของสถานที่นั้นๆ อย่าละเลยมารยาทที่ดีงาม เล็กๆน้อยๆ เช่น การกล่าวคำทักทายและยกมือไหว้ การ การเดินสวนผู้ใหญ่ การให้ทางเมื่อเดินสวนทางกันในที่แคบ การหลีกทางให้ผู้โดยสารในลิฟท์ การเคาะประตูก่อนเข้าห้องผู้ใหญ่ เป็นต้น

 ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของข้อควรปฏิบัติเพื่อเพิ่มโอกาสของการได้เข้าไปเป็น ส่วนหนึ่งขององค์กรนั้น การได้เป็นพนักงานที่มีคุณภาพ และมีบุคลิกภาพที่เหมาะสม ย่อมช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ขององค์กร ต่อสายตาลูกค้า และผู้ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทได้และเป็นสิ่งที่นายจ้างพิจารณาควบคู่ไปกับ ความสามารถในการทำงานอยู่ตลอดเวลา


ที่มา: http://jobmarket.co.th/mustKnow/content_detail.php?dd=4910
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 พฤศจิกายน 2016, 11:02:21 โดย Master »