ผู้เขียน หัวข้อ: เคล็ดไม่ลับสำหรับลูกจ้างมืออาชีพ  (อ่าน 1444 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Master

  • [color=Turquoise][i]"อาจจะเหนื่อยล้าและมีผิดหวัง แต่ยังมีพรุ่งนี้ให้เราได้เริ่มกันใหม่ ทุกชีวิตที่อยู่ในเมืองนี้ สักวันก็คงได้สมดังใจ ... "[/i][/color]
  • Global Moderator
  • Sr. Member
  • *****
  • กระทู้: 487
  • พอยท์: 0
    • ดูรายละเอียด
เคล็ดไม่ลับสำหรับลูกจ้างมืออาชีพ
« เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2016, 21:08:17 »
 ในตอนนี้ขอเสนอข้อคิดสำหรับลูกจ้างมืออาชีพทั้งหลาย เพื่อให้คุณประสบความสำเร็จ ไม่หลงไปติดกับดักหรือหลุมพราง ของการเป็นลูกจ้างหรือมนุษย์เงินเดือน และสามารถสร้างสมดุลระหว่างการทำงาน และมิติด้านอื่นๆของชีวิตได้


 
 1 รายรับที่ได้มา หักลบ ด้วย รายจ่ายที่จ่ายไป
= ความมั่งคั่งจากการออม

 คน ทำงานทุกๆคนล้วนต้องการความมั่นคงและความมั่งคั่ง การรักษาวินัยในการใช้เงินจึงเป็นเรื่องสำคัญ หลายๆคนมีข้อคิดที่น่าสนใจว่า ตัวเลขเงินเดือนที่ได้ ไม่ใช่เรื่องน่าสนใจ ที่น่าสนใจกว่า คือ แต่ละเดือนเหลือเงินเท่าไหร่ ซึ่งจะบ่งบอกถึง ความสามารถในการบริหารรายรับรายจ่าย ของแต่ละคนนั่นเอง เพราะถ้าไม่สามารถปฏิบัติตามวินัยข้อนี้ได้ ต่อให้ได้งานที่เงินดีแค่ไหน ก็ไม่ทำให้คุณพ้นจากกับดักนี้ไปได้ อย่าลืมว่าการเพิ่มตัวเลขฝั่งรายรับนั้นไม่ง่ายและอาจต้องใช้เวลามาก แต่การลดลงของฝั่งรายจ่ายนั้น คุณสามารถทำได้ทันที จึงสรุปอีกครั้งว่า ความรวยไม่ได้วัดกันที่รายได้ แต่วัดกันที่เงินออม



 2 อย่าสะสมสินทรัพย์ที่เสื่อมค่าเร็วไว้มากเกินไป
 รถ ยนต์ อุปกรณ์สื่อสาร คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เพื่อความบันเทิงในโลกดิจิตอลทั้งหลาย พึงระลึกไว้ว่า สินค้าเหล่านี้ สามารถทำให้คุณดูเป็นคนทันสมัย  ดูดี มีรสนิยมก็จริง แต่อีกมุมหนึ่งก็ทำให้ความมั่งคั่งของคุณลดลงอย่าน่าใจหายได้เลยทีเดียว เพราะคุณจะพบว่า ทันทีที่ตัดสินใจซื้อสินค้าเหล่านี้ มันก็จะตกรุ่น ล้าสมัย และมีมูลค่าลดลงอย่างมากทันที ยิ่งไปกว่านั้นหลายๆคนไปนำเงินในอนาคตมาชื้อสินค้าเหล่านี้ ทำให้เป็นหนี้สิน ต้องจ่ายดอกเบี้ยมากมาย ดังนั้น จงพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ หรือใช้เท่าที่จำเป็นจะดีกว่า


 
 3 อาชีพการงานไม่ควรมีเกียร์ถอยหลัง คน ทำงานส่วนมากมองว่า การเปลี่ยนงานไปเรื่อยๆ เพื่อให้ได้รายได้ที่สูงขึ้น เป็นสิ่งที่ท้าทาย และใครๆก็ทำกัน ทำให้มีคนทำงานจำนวนไม่น้อยที่ต้องทนทำงานที่ตัวเองไม่ชอบ หรือผจญกับความกดดัน และความเครียด เพียงเพราะติดกับตัวเลขค่าตอบแทน การจะเปลี่ยนใจมาทำงานที่ถูกตรงกับความสนใจมากกว่า แต่ค่าตอบแทนต่ำลง เป็นสิ่งที่ทำใจได้ยากแล้ว เพราะเมื่อใดที่มีตัวเลขรายได้สูงขึ้น ค่าใช้จ่ายประจำต่างๆในการดำรงชีวิตก็มักจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย อีกทั้งต้องคอยตอบคำถามของบุคคลในครอบครัวหรือคนใกล้ตัวเกี่ยวกับเหตุผลการ เปลี่ยนงานของเราอีกด้วย  สำหรับเรื่องนี้แล้ว เป็นสิ่งที่ต้องใช้ความอดทนอดกลั้น ก้าวไปข้างหน้าแต่ละขั้นอย่างระมัดระวัง



 4 อย่าทำงานจนเจ็บป่วย
 เป็น เรื่องที่ดีในช่วงต้นของชีวิตการทำงาน ที่หลายๆคนทุ่มเทเวลาให้กับเรื่องงานอย่างเต็มที่เพื่อพิสูจน์ความสามารถของ ตัวเอง และเพื่อความก้าวหน้าในอนาคต แต่คุณก็ไม่ควรใช้หลักการนี้มาเป็นเหตุให้ต้องละเลยการดูแลตัวเองไป ความเครียดจากงาน การพักผ่อนไม่พียงพอ การละเลยการออกกำลังกาย ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ เที่ยวกลางคืน  การทานอาหารจานด่วน มีไขมันสูง ขาดคุณค่าทางโภชนาการ ล้วนนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพ ปัจจุบันโรคภัยอันสืบเนื่องจากการทำงานได้มีพัฒนาการหลากหลายมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้สิ้นเปลืองทั้งเวลา ค่าใช้จ่าย และต้นทุนทางจิตใจในการรักษาโรคอย่างมาก การสร้างสมดุลระหว่างชีวิตการงานและสุขภาพ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพในระยะยาวได้ คำพระที่ว่า ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ ยังคงใช้ได้ดีอยู่ทุกยุคทุกสมัย



 5 ปัญหาเรื่องคน มีอยู่ทุกที่
 การ อยู่ในสังคมที่ทำงานอย่างเป็นสุขได้นั้น ไม่ได้หมายความว่า เราจะต้องได้อยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ทุกคนรอบข้างล้วนทำดีกับเรา เพราะถ้าคุณแสวงหาที่แบบนั้น อาจจะใช้เวลาทั้งชีวิตจนถึงวัยเกษียณ ก็อาจยังไม่พบ เป็นความจริงที่ว่า เมื่อมีคนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปอยู่รวมกัน ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ต่างๆ ย่อมตามมา เช่น การสื่อสารไม่เข้าใจกัน การนินทาว่าร้าย แม้กระทั่งการทะเลาะเบาะแว้งกัน หลักสำคัญ คือ จงใช้ความสุขุม อย่าวู่วาม ตัดสินใจด้วยอารมณ์ หรือใช้ความรุนแรงตัดสิน เพราะ ผลที่ตามมาจะไม่เป็นผลดีกับฝ่ายใด ปัญหาใดที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง ก็ชี้แจงให้หัวหน้า หรือผู้ใหญ่ทราบ แต่ทางออกที่ดีกว่า คือ ฝึกการให้อภัย เพราะเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ และสามารถจบปัญหาความขัดแย้งต่างๆได้โดยมีผลกระทบทางลบน้อยที่สุด   



 6 หลีกเลี่ยงการมีปัญหากับเจ้านาย
 เหตุผล อันดับต้นๆที่ทำให้คนลาออกจากงาน คือ ปัญหากับผู้บังคับบัญชา แต่ความจริง คือ  ในสถานการณ์ส่วนใหญ่เราไม่อาจเลือกได้ว่า ต้องการเจ้านายแบบไหน มีคุณสมบัติ นิสัยใจคออย่างไร ทางเลือกที่ดีที่สุดที่ทำได้ คือการปรับตัว ปรับความคิด มองในแง่ดีของเขา เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันได้ หลักการสำคัญของลูกจ้างมืออาชีพ คือ การทำงานเพื่อสนับสนุนความสำเร็จของหัวหน้าให้ดีที่สุด เพราะนั่นจะเป็นสิ่งที่ประกันความมั่นคงในอาชีพการงาน รวมถึง ความเติบโตก้าวหน้าในการทำงาน และตัวเลขรายได้ของคุณด้วย การทะเลาะ ขัดคอกับหัวหน้า นำมาซึ่งหายนะในด้านการงานของคนมานักต่อนักแล้ว
 

 7 หากไม่ได้ทำในสิ่งที่รัก ก็จงรักในสิ่งที่ทำ
 ฝึก มองในแง่บวก ของงานที่ตัวเองทำ เพื่อเพิ่มแรงจูงใจในการทำงาน ในแง่ของมนุษย์เงินเดือน ข้อดี คือ ไม่ต้องลงทุนเป็นตัวเงินก่อน ก็สามารถมีรายได้ที่มั่งคง มีเงินเดือน ได้รับการปรับเพิ่มเงินเดือนทุกๆปี มีสวัสดิการต่าง ๆ ยามเจ็บป่วย ยามเกษียณ ก็ได้รับการดูแล หากแม้บริษัทขาดทุน เราก็ไม่ได้ติดหนี้สิน หรือเสียหายไปมากมายเท่ากับผู้ที่เป็นเจ้าของ ในส่วนของตัวงานที่ทำ หรือขอบเขตความรับผิดชอบ โดยมากก็เป็นสิ่งที่พอทำได้ หรือทำได้ดีอยู่แล้ว การตัดสินใจเลือกหนทางดำรงชีวิตแบบอื่น อาจมีความเสี่ยงสูงที่จะล้มเหลว หน้าที่ของเราคือ ทำงานที่รับผิดชอบให้ดีที่สุด สร้างความมั่นคงด้านฐานะ และมองหาความก้าวหน้าในสายอาชีพด้วยการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง


ที่มา: http://jobmarket.co.th/mustKnow/content_detail.php?dd=2881
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 พฤศจิกายน 2016, 21:10:24 โดย Master »