ผู้เขียน หัวข้อ: เปลี่ยนตัวเองไม่ได้ ปัญหาไม่ใช่ ‘เป้าหมาย’ แต่อยู่ที่ ‘วิธีการ’ !!  (อ่าน 974 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Master

  • [color=Turquoise][i]"อาจจะเหนื่อยล้าและมีผิดหวัง แต่ยังมีพรุ่งนี้ให้เราได้เริ่มกันใหม่ ทุกชีวิตที่อยู่ในเมืองนี้ สักวันก็คงได้สมดังใจ ... "[/i][/color]
  • Global Moderator
  • Sr. Member
  • *****
  • กระทู้: 487
  • พอยท์: 0
    • ดูรายละเอียด
เชื่อเลยว่า First Jobber หลายๆคนมักมีปัญหากับการตั้งเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงตัวเองไว้เช่นการลด น้ำหนัก หรือการเก็บเงินให้มากขึ้น แต่สุดท้ายก็ลดไม่ได้แถมขึ้นอีก หรือบางทีก็ล้มละลายก่อนท้ายเดือนก็มี ไม่ต่างอะไรกับวลีเด็ดสมัยเรียนที่ว่า ‘เทอมนี้ชั้นจะตั้งใจเรียน’ สุดท้ายก็มาจมกองหนังสือสอบตอนปลายภาคจนได้
ถ้าอย่างนั้นแล้วทำไมเราถึงเปลี่ยนตัวเองกันไม่ได้เลยล่ะ??
Harvard Business Review บอกเอาไว้ว่าปัญหาอาจจะไม่ได้อยู่ที่เป้าหมาย (goal) ของคุณ แต่อยู่ที่วิธีการ (tactic) ของเราที่เราตั้งมั่นว่าจะทำต่างหาก การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตัวเราต้องใช้วินัย การฝึดฝน และความอดทนอยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องไม่รู้สึกว่าเรากำลังบังคับตัวเองให้ทำในสิ่งที่เราไม่อยากทำอยู่ตลอดเวลา ในการที่จะทำให้พฤติกรรมที่พึงปราถนาอยู่ติดตัวเราตลอดไป มันควรที่จะ sync กับตัวตนที่แท้จริงของเรา
อย่ากระนั้นเลย HBR ก็ได้แนะนำวิธีที่จะช่วยให้เราเปลี่ยนแปลงตัวเองได้อย่างยั่งยืนและมั่นคงดังนี้ค่ะ

1. ดูว่าอุปสรรคมันอยู่ตรงไหน (determining where you’re stuck): ลองสำรวจตัวเองดูว่าพฤติกรรมไหนที่เราทำแล้วเรารู้สึกว่าทำแล้วมันเห็นผล น้อยหรือไม่เห็นผลเลยกับตัวเราบ้าง เช่นการออกกำลังกายในตอนเช้าเพื่อลดน้ำหนัก (แต่ไม่ลงสักกิโล) หรือการปิดโทรศัพท์มือถือสามชั่วโมงเพื่อเคลียร์งาน (แต่งานก็ไม่เสร็จอยู่ดี) แล้วลองถอยออกมามองดูว่าทำไมเราถึงเลือกที่จะทำแบบนี้ เราอยากที่จะมีสุขภาพที่ดีขึ้น น้ำหนักที่ลดลง หรือเราอยากที่จะรู้สึกว่าได้เคลียร์งานที่ยากออกไปอย่างรวดเร็วใช่มั้ยล่ะ

2. สำรวจหาวิธีอื่น (brainstorming other tactics): แล้วทีนี้ลองมาดูต่อว่าแล้วอะไรที่ทำให้เราไม่เคยได้ออกกำลังกายในตอนเช้า เลย เป็นเพราะเราเป็นคนชอบนอนดึกใช่ไหม เราไม่ชอบตื่นเช้า หรือหมาแถวบ้านชอบวิ่งไล่คนตอนเช้าทำให้เราไม่ได้วิ่งเลย งั้นลองหาวิธีอื่นที่จะทำให้เรารู้สึกว่าทำแล้วได้ออกกำลังกายหรือช่วยให้มี น้ำหนักที่ลดลงแทนดูมั้ยเช่นการขี่จักรยานตอนเย็น หรือเดินชอปปิ้งหนึ่งรอบสยามเรียกเหงื่อดู ลองหากิจกรรมอื่นที่จะเข้ากับตารางชีวิตของเราและความชอบของเราดู

3. ทดลองสมมติฐานของคุณดู (test one of your hypothesis each week): หลังจากลองคิดวิธีที่หลากหลายมาแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะทดลองใช้จริงดูว่าอันไหนที่ได้ผล เช่นอาทิตย์นี้อาจจะลองวิ่งตอนเย็นหนึ่งอาทิตย์ แล้วอาทิตย์หน้าชั้นจะลองขี่จักรยานกลับบ้านดู แล้วเอามาเทียบกันว่าอันไหนที่เรามีความสุขจะทำและช่วยบรรลุเป้าหมายของเรา ได้มากกว่ากัน เมื่อเจอแล้วก็เก็บเอาไว้ในใจว่าช่วงเวลานี้กันไว้สำหรับกิจกรรมนี้และจะไม่ ให้อะไรมารบกวนให้ได้
และถ้าเราอยากให้มีคนช่วยก็ย่อมได้ ไม่ใช่เรื่องน่าอายในการที่จะให้คนที่รู้ลึกรู้จริงในปัญหาที่เรากำลังเผชิญ มาช่วยแก้ปัญหานั้นๆ แต่ถ้ามีอะไรที่เราประสบปัญหาและทำไม่ได้จริงๆก็โบ้ยอย่างสวยงามไปให้คนอื่น ทำซะ ไม่ก็ outsource มันซะเลย เก็บแรงเอาไว้สำหรับสิ่งที่เราให้คนอื่นทำแทนเราไม่ได้ดีกว่า อาจจะเป็นคนหรือ application ก็ย่อมได้
ฝากไว้ให้ชุ่มใจกันนะคะว่าการเดินทางไปสู่เป้าหมายที่เราหวังไว้มันอาจจะ สมบุกสมบัน ต้องพานพบอุปสรรคมากมาย ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องยอมแพ้และเลิกเดิน เราสามารถหาเส้นทางที่เราพอใจที่จะเดินไปอย่างสบายๆและถึงจุดหมายเหมือนคนอื่นได้เหมือนกันค่ะ เพราะฉะนั้นการลดน้ำหนัก 10 กิโลหรือเก็บเงินให้ครบล้านก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ First Jobber อย่างพวกเราเลยค่ะ! :)
credit: http://fjsk.in.th/think-of-goal-not-tactic/