ตัวเวิร์ดเพรสนั้น จะมีระบบบันทึกอัตโนมัติ ในแต่ละครั้งที่ทำการบันทึก เวิร์ดเพรสจะสร้างเรคคอร์ดใหม่ขึ้นมาในฐานข้อมูล ไม่ได้เก็บซ้ำลงไปในเร็คคอร์ดเดิม สาเหตุที่ทำอย่างนั้นก็เพื่อให้ท่านสามารถเรียกคืนบทความของท่านได้ ฉะนั้นเมื่อนานๆไปในฐานข้อมูลก็จะเต็มไปด้วยเรคคอร์ดที่ไม่ได้ใช้งาน การดึงข้อมูลจากฐานข้อมูลก็จะช้า ทำให้ระบบโดยรวมช้าไปด้วย
wp-optimize เป็นปลักอินที่ใช้สำหรับจูนฐานข้อมูลให้เร็วขึ้น โดยมันจะทำการลบเร็คคอร์ดที่ไม่จำเป็นในฐานข้อมูลทิ้ง และ optimize ฐานข้อมูล
หลังจากทำการ Activate ปลักอิน wp-optimize จะมีเมนูเพิ่มขึ้นมาใต้ Dashboard ชื่อ WP-Optimize
ภาพรวม
เมื่อมองผ่านๆที่หน้านี้ จะเห็นว่ามีที่หมด 3 เซ็กชั่น
1. Database Optimization Options ตรงนี้แหละที่เราจะใช้จูนฐานข้อมูล
2. Security Tools ตรงนี้เป็นของแถม อนุญาติให้เราเปลี่ยนชื่อ ผู้ดูแลระบบ หลัก , ก่อนหน้าเวอร์ชั่น 3.0 เวิร์ดเพรสจะกำหนดแอคเค้าที่ใช้สำหรับดูแลระบบ ชื่อว่า admin มาให้ และเปลี่ยนตอนติดตั้งไม่ได้เสียด้วย เพราะฉะนั้นพวกสแปมเมอร์ก็จะทราบว่า เว็บไหนก็ตามที่ใช้เวิร์ดเพรส มันจะต้องมีแอคเค้าตัวหนึ่งชื่อ admin แน่นอน ส่วนรหัสผ่านนั้นก็ต้องแฮ้กกัน ตัว wp-optimize จึงแถมเครื่องมือตัวนี้มาให้ด้วย เพื่อว่าท่านจะได้เปลี่ยนแอคเค้า admin เป็นชื่ออื่นเสีย เพื่อความปลอดภัยของระบบ
แต่เมื่อมาถึงเวอร์ชั่น 3.0 ตอนติดตั้งเวิร์ดเพรส เวิร์ดเพรสจะอนุญาติให้ท่านตั้งชื่อแอคเค้าหลักด้วยตัวท่านเอง จะตั้งเป็นอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้อง admin เซ็กชั่น Security Tools นี้จึงน่าจะสำคัญน้อยลง
3. Database Tables Report แสดงรายงานว่าเทบิลในฐานข้อมูลของท่านตัวไหน จำเป็นจะต้องได้รับการ optimize บ้าง
วิธีการใช้งาน ติ๊กครื่องหมายถูกให้หมด แล้วกดปุ่ม Process เท่านั้น ง่ายๆ ไม่ต้องคิดมาก
Remove all Post revisions : ลบบทความที่เวิร์ดเพรสบันทึกอัตโนมัติทั้งหมด บทความเหล่านี้ใช้ประโยชน์ในการกู้คืนบทความเท่านั้น แต่ทั้งปีทั้งชาติก็ไม่เห็นจะได้กู้เก้ออะไร ลบเสียให้หมด
Clean marked Spam comments : ลบคอมเม้นท์ที่เป็นสแปมทั้งหมด
Clean Unapproved comments : ลบคอมเม้นท์ที่ไม่ได้รับการอนุมัติทั้งหมด
Optimize database tables : optimize ฐานข้อมูล
ที่มา:
http://www.select2web.com/wordpress/wp-optimize.html