ผู้เขียน หัวข้อ: ระวัง !! อย่าลืมล็อคประตูรถ . อันตรายชั่วพริบตา.  (อ่าน 1454 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anastasia

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 107
  • พอยท์: 0
    • ดูรายละเอียด
เหตุการที่ 1
  ผมเคยประสบเหตุนี้แล้วกับตัวเอง ที่ถนนมเหศักดิ์ ซึ่งเชื่อม ถนนสาธรกับถนนสีลมเป็นเวลากลางวันระหว่างที่รถผมหยุดรอไฟเขียว มีชาย 2 คนเดินมาข้างหลัง ทั้งคู่กระตุกประตูหลัง คนละข้าง โชคดีที่ประตูล๊อกอยู่....1 ใน 2 คนนั้นพยายามดึงแรงขึ้นอีก แล้วทั้งคู่ก็เดินเร็วผ่านรถผม แล้วปนไปในฝูงชน เดี๋ยวนี้ เหตุร้ายเกิดได้ตลอด ไม่ว่ามืดหรือสว่าง เราคงต้องระวังอย่าเผลอเชียวละ

เหตุการณ์ที่ 2
ภรรยาผม จะมีนิสัยเมื่อขึ้นรถแล้วต้องกดเซนทรัลล๊อคทั้งก่อนสตาร์ทเครื่อง และก่อนดับเครื่องมีรถเก๋งคันหนึ่งสีเงิน  มีคนสองคนเดินลงมาจากรถแล้วก็เดินมาที่รถของเราอย่างสุภาพขณะที่ภรรยาผมกำลังเล่นกับลูกอยู่ เพลินๆ   ก็ได้ยิน เสียงตึ๊กจากข้างหลัง ภรรยาผมก็ตกใจรู้สึกตัวว่ามีคนพยายามเปิดประตูหลังของรถเรา แต่เพราะรถล๊อคพวกเขาก็เดินกลับ ไปขึ้นรถเหมือนไม่มีอะไรเกิด ขึ้น ตอนที่ภรรยาผมเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟัง   ผมคิดว่าเหลือเชื่อจริงๆ กลางวัน แสกๆ แท้ๆ ถ้าหากบังเอิญรถไม่ได้ ล๊อค   ผมไม่กล้าคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น อยากจะให้ทุกคนมีนิสัย ขึ้นรถต้องล๊อครถพวกผู้ร้ายมักจะลงมือจากเบาะหลัง    เพราะจะ ควบคุมสถานการณ์ได้ง่าย

เหตุการณ์ที่ 3
หลังจากที่พ่อ กับแม่ จ่ายเงินค่าจอดรถเสร็จ  ตอนเลี้ยวรถออกจากโรงพยาบาล  ต้องจอดติดไฟแดง...
ขณะนั้น  ( ยังไม่ ถึง 3 นาที ระบบล๊อคอัตโนมัติคงยังไม่ทำ งาน )
ชายหนุ่ม สองคนก็เข้ามานั่งที่เบาะหลังของรถ โชคดีที่พ่อแม่ของผมไหวตัวเร็วมาก รีบถอดเข็มขัดนิรภัย    ดับเครื่อง  ดึงกุญแจออกแล้วออกมายืนนอกรถโดยเร็ว คนทั้งสองคนนั้นก็ยังนั่งอยู่ในรถหน้าตาเฉย จนกระทั่งคุณแม่ของผมตะโกนใส่พวกเขาว่า  พวกเรายังมีเพื่อนฝูงอยู่ในโรงพยาบาลอีกเยอะนะ
จะให้ เรียกพวกเขาลงมาคุยกับพวกแกไหม ?
พวกมันจึงออกมาจากรถแล้วบอกว่า  'ขอโทษ ขึ้นผิดคัน'    ( นี่มันปล้นกันชัดๆ ) จากนั้นรถคันที่จอดต่อท้าย ( มีคนอยู่ในรถสองคน )  ก็ขับมารับพวกมันจากไป.... น่ากลัวที่สุด


เหตุการณ์ที่ 4 
ตอนจอดติดไฟแดง รถของผมอยู่ห่างจากทางแยกประมาณคันที่สามหรือสี่  สักครู่ หนึ่ง จู่ ๆ ก็มีชายหนุ่มอายุ ประมาณ 20 กว่าๆ 2 คน ขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดอยู่ท้ายรถผม มีอาการน่าสงสัย คือ พวกเขาพยายามมองสอดส่ายสายตาเข้ามาในรถของผม ผมจึงจ้องพวกเขา....ครู่หนึ่ง พอไฟเขียวก็ออกรถพร้อมมัน ผมบังเอิญได้ยินหนึ่งในนั้นพูดขึ้นว่า "รถมันล๊อคหมด" แล้วก็ขับเลยไป



ผมเคยเจอคล้ายๆ แบบนี้ 2 ครั้งละ

1. ลักษณะเหมือนขอทาน เดินเข้ามาเปิดประตูรถเลย โชคดีที่ล็อกประตูก่อนแล้ว

2. ผมอยู่ในรถ แต่มีคนมายืนคุยหลังรถผม สักพัก ก็เดินมาเปิดประตูรถผม พอเปิดไม่ได้ก็มองเข้ามาในรถแทน



อ่านไว้จะได้ระวังตัว คัดลอกจาก ตามล่ามาเล่า : ประไพพัตร โขมพัตร นิตยสารดิฉันภัยมืด
ผู้หญิงคนหนึ่งนั่ง อยู่บนสถานีตำรวจก้มหน้านิ่งตลอดเวลา
ใบหน้าเธอซีดขาว บางครั้งก็เหม่อลอย แววตาหมดหวัง และบางครั้งหมดอาลัยตายอยากในชีวิต
ขณะนั้นเป็นเวลาเกือบตี 2 แล้ว ท่าทางของเธอสะดุดในผู้หญิงอีกคนซึ่งอยู่ที่นั่นด้วย
จนอดไม่ได้ที่จะหา โอกาสเข้าไปพูดคุยด้วยความสงสัย ผู้หญิงทั้งคู่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน
แต่เหตุที่ต้องมาอยู่บนสถานีตำรวจในเวลาเดียวกัน ก็เนื่องจากอุบัติเหตุรถชนกัน!
เป็นการเฉี่ยวชนแล้วพยายามขับหนี แต่ไม่พ้นการจับกุมของเจ้าหน้า ที่ที่อยู่บริเวณดังกล่าวได้
เธอซึ่งเป็นผู้เสียหายให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จนเมื่อถึงเวลาสอบปากคำอีกฝ่าย เธอพยายามเข้าไปพูดคุยกับผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้วยความสงสัย
ตอนแรกคิดว่าอาจจะกลัวหรือตกใจที่แฟนตัวเองพยายามหลบหนี หรือกังวลกับคดีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
จึงบอกว่า ถ้าชดใช้ค่าเสียหาย ก็จะไม่เอาความใดๆ แต่ยังไม่ทันที่จะพูดอะไรไปกว่านั้น
ผู้หญิงคนนั้นก็ร้องไห้ออกมาอย่างน่าตกใจ พร้อมทั้งเล่าให้ฟังว่า ไม่ได้เป็นอะไรกับผู้ชายคนนั้น
ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเลย อากัปกริยาเช่นนี้ยิ่งทำให้น่าสงสัยมากขึ้นกว่าเดิม
และยิ่งทำให้ต้องปลอบโยน เพื่อหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นแน่
ด้วยความเป็นผู้หญิงด้วยกัน ทำให้ใช้เวลาไม่นาน
เรื่องราวทั้งหมดก็ถูกถ่ายทอดออกมา เธอบอกว่ากำลังถูกผู้ชายคนนั้นจับตัวไว้
เธอกลัวมากและอายมาก และกำลังช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้น กับสิ่งที่เกิดขึ้นจนทำอะไรไม่ถูก
เมื่อเธอเล่าจบ ทำให้ผู้ฟังรีบเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจให้จับกุมชายคนนั้นไว้ทันที
ผู้หญิงคนนี้เป็นผู้โชคร้าย ความจริงบ้านของเธออยู่ที่จังหวัดนครปฐม
ในขณะที่เธอกำลังขับรถกลับบ้าน เป็นเวลา 3 ทุ่ม ก็มีรถจักรยานยนต์คันหนึ่งขับมาชนท้าย
ผู้ขี่จักรยานยนต์เป็นผู้ชายคนหนึ่ง รีบจอดรถลงมาดูความเสียหาย และขอโทษขอโพยเธอเป็นการใหญ่
พร้อมทั้งบอกว่า ไม่ต้องกังวล จะชดใช้ค่าเสียหายให้
และพร้อมจะไปตกลงที่สถานีตำรวจด้วยท่าทางที่สุภาพนอบน้อม
ทำให้เธอไม่รู้สึกกลัว และยินดีที่จะไม่เอาเรื่อง หากชดใช้ค่าซ่อมรถที่มีรอยบุบเพียงเล็กน้อย
ชายคนนั้นบอกให้เธอขับรถตามเข้าไปยังอู่ซ่อมรถที่อยู่ไม่ไกล เพื่อให้ช่างตีราคาและตกลงค่าซ่อม
แต่ระหว่างทาง ขอนำรถมอเตอร์ไซด์เข้าไปเก็บที่บ้านก่อน เพราะรู้สึกว่าเครื่องยนต์เริ่มมีปัญหา
เธอก็ขับรถตามไปจนถึงปากทางเข้าบ้าน และนั่งคอยอยู่ที่รถ
ชายคนนั้นกลับออกมาพร้อมชายคนหนึ่ง เปิดประตูและขึ้นนั่งประกบทันที
ดันตัวเธอไปนั่งตรงกลาง ใช้มีดบังคับให้นั่งเฉ ยๆ และขับรถเข้ามากรุงเทพฯ
ถึงธนาคารแห่งหนึ่งบริเวณงามวงศ์วาน ก็จี้ตัวเธอลงไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม

ได้เงินจำนวนที่ธนาคารกำหนดให้กดจากตู้ในวงเงินเท่านั้น
แต่เมื่อเห็นเงินในบัญชียังมีเหลืออีกมาก จึงยังไม่ปล่อยตัวไปง่ายๆ
กันตัวไว้ รอเวลาให้เลยเที่ยงคืน แล้วจะกดเงินจากตู้เอทีเอ็มอีกครั้ง
ในช่วงการรอคอยเวลา ก็ขับรถมาแถวถนนลาดพร้าว เลี้ยวเข้าไปในโรงแรมม่านรูด
และผลัดกันข่มขืนเธอหลายครั้ง แล้วก็สั่งอาหารรวมทั้งเบียร์มาดื่มกินในห้อง
จนมีอาการมึนเมา แล้วก็ข่มขืนอีก จนกระทั่งตี 2
ชายคนหนึ่งจึงขับรถพาเธอมา บังคับให้กดเงินให้อีก
โดยให้สัญญาจะปล่อยตัวไป หากได้เงินที่ต้องการแล้ว
ยังไม่ทันที่จะถึงธนาคาร ชายคนนั้นก็ขับรถชนท้ายรถคันหนึ่งที่อยู่ข้างหน้าเสียก่อน
แล้วพยายามหลบหนี จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจพาไปจับเพื่อนร่วมแก๊งอีกคนที่นอนคอยอยู่ในโรงแรมได้ และพาตัวมาสอบสวน
ทั้งคู่รับสารภาพว่า ทำอย่างนี้กับผู้หญิงมาแล้วหลายครั้ง
ส่วนใหญ่จะตระเวนมองหารถที่มีผู้หญิงขับเพียงคนเดียว
และมักจะหาเหยื่อตามจังหวัดที่อยู่รอบๆกรุงเทพฯ
ผู้หญิงส่วนใหญ่อาย ไม่กล้าแจ้งความ กลัวเสียชื่อเลย ทำให้ยิ่งได้ใจ


ที่มา: http://www.hondacitythailand.com/club/thread-10395-1-2.html
http://www.thaiseoboard.com/index.php?topic=222185.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 เมษายน 2017, 12:38:19 โดย anastasia »