ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีแก้เว็บที่ google แจ้งเตือนว่ามีมัลแวร์ ภาค 1  (อ่าน 1614 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ smf

  • [color=green][i]"ถ้าคุณไม่สามารถอธิบายอย่างง่ายๆ ให้คนอื่นเข้าใจได้แล้วล่ะก็ แสดงว่าคุณยังเข้าใจมันไม่ดีพอ"[/i][/color]
  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,368
  • พอยท์: 5
    • ดูรายละเอียด
    • pordoo.com
    • อีเมล์
ฝันร้านของคนทำเว็บไซต์หลายๆคนที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองก็คือ ไม่อยากให้เว็บไซต์อันเป็นที่รักของตัวเอง โดน google แจ้งเตือนว่าเป็นเว็บไซต์อันตรายนั้นเอง จากประสบการณ์ของตัวเองที่ผมเพิ่งเจอมามาดๆทำให้รู้ว่าเวลาเข้าเว็บไซต์ของ เราเองแล้วพบว่า google แจ้งเตือนว่าเว็บเราเป็นเว็บที่อันตรายมันรู้สึกยังไง….เชื่อว่าเหตุการณ์ นี้คงเกิดขึ้นกับหลายๆคนและบางคนอาจจะยังไม่รู้มาก่อนเลยว่า มันมีแบบนี้ด้วยหรอ ดังนั้นผมจึงเขียนบทความนี้ขึ้นมายังไงละครับ เมื่อเว็บโดน Google ฟ้องเป็นเว็บอันตราย



ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาพบกันบ่อยมาก เมื่อค้นหาเว็บไซต์บางแห่งแล้วมีข้อความแจ้งเตือนจาก Google ว่าเว็บไซต์นี้อาจเป็นอันตรายต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่าน (พวกเราชอบเรียกเว็บหน้าแดง) ผ่านมานานแล้วแต่ก็ยังมีคนถามมาที่ผมบ่อยๆ ตอบไปแล้วหลายรายนึกว่าจะหมดแล้ว แต่เมื่อสองสามวันก่อนก็ยังมีถามมาอีก เลยขอยกยอดมาตอบในนี้เลยก็แล้วกัน
หลายเว็บโดน hacker วางสคริปต์ไม่พึ่งประสงค์บนหน้าเว็บ ซึ่งบางครั้งก็อาจะโดนจากเว็บที่ใช้ CMS แล้วไม่อัพเดตเวอร์ชั่น แต่หลังๆ จะโดนจาก การขโมย User และ Password ของ FTP กันมากกว่า แล้วโดนมาจากอะไร ต้องทำความเข้าใจกันเสียก่อน

สำหรับท่านที่ใช้ Google เป็นเครื่องมือในการค้นหาข้อมูล เชื่อว่าหลายท่านคงจะเคยเห็นว่าบางครั้ง ในรายการผลลัพธ์ของการค้นหานั้น จะมีข้อความเตือนจากGoogle ทำนองว่า เว็บไซต์นี้อาจเป็นอันตรายกับคอมพิวเตอร์ของคุณ ซึ่ง ถือว่าเป็นความอัจฉริยะของระบบมากๆ แต่สำหรับเจ้าของเว็บไซต์แล้ว ถือว่าเป็นเรื่องฝันร้าย และต้องบอกว่าเป็นฝันร้ายที่หลอกหลอนแม้กระทั่งยามตื่นเลยทีเดียว เพราะผลจากการเตือนดังกล่าวของ Google จะทำให้ยอดผู้เข้าชมของเว็บไซต์เราหายวูบลงไปในพริบตา เนื่องจาก Google เองจะไม่ส่งผลของการคลิกไปยังเว็บไซต์ให้ แต่จะแสดงหน้าเตือนแบบเต็มๆ ขึ้นมาแทนเพื่อเป็นการยืนยันถึงความอันตราย (ดังรูปบน)

ต้องบอกตามตรงว่า ถ้าเป็นเราเมื่อเจอแบบนี้ก็คงไม่กล้าที่จะเสี่ยงคลิกเข้าไปที่เว็บไซต์นั้น อย่างแน่นอน นอกเสียจากว่าเราเป็นเจ้าของเว็บไซต์นั้นเอง และรู้ดีว่าเว็บไซต์ของเราไม่ได้อันตราย น่ากลัวอย่างที่ Google แจ้งไว้

สาเหตุที่ทาง Google จำเป็นต้องขึ้นเตือนมาแบบนั้นก็ เพราะว่า Server หรือ โฮสต์ที่เราฝากเว็บไซต์เอาไว้ หรืออาจจะเป็นที่เว็บไซต์ของเราเอง มีปัญหาบางอย่าง ทำให้เกิดมี Script แบบ iFrame มาฝังไว้ ซึ่งหากมีการเปิดเว็บไซต์นั้นขึ้นมา Script ที่ฝังอยู่ใน iFrame ก็จะไปเรียก หรือดาวน์โหลด อะไรบางอย่างลงมาที่เครื่องของผู้ชมที่เปิดดูเว็บไซต์นั้น เช่น Malware, ไวรัส ฯลฯ จากประสบการณ์ Script เหล่านี้ส่วนนึงจะมาจากพวก Hacker จากประเทศในแถบเอเซียด้วยกัน เช่น จีน ใต้หวัน และประเทศแถบตะวันออกกลาง

สาเหตุ เว็บไซต์ติดไวรัส, เว็บไซต์อันตราย, เว็บถูกบล๊อค
1. เครื่องที่คุณใช้ในการอัพโหลดไฟล์ขึ้นบน server มีไวรัสอยู่
2. โปรแกรมเว็บไซต์ของคุณมีช่องโหว่ ทำให้ hacker มีช่องทางในการเจาะ
3. ในเว็บไซต์ของคุณมีการใช้ script บางอย่างซึ่งเป็นอันตรายต่อเว็บไซต์ เช่น script เกี่ยวกับสถิติ
4. โปรแกรม FTP Client ที่ใช้ ไม่อัพเดท หรือใช้ของเถื่อน
5.ใช้ Antivirus โปรแกรม เกม ที่เป็นของเถื่อน อันตรายมากๆถ้าใครใช้อยู่หาตัวของแท้มาติดตั้วเถอะครับ คุ้มกว่าเยอะ ปลอดภัยกว่า เพราะพวก Antivirus เถื่อน คนที่เขา crack มาให้คุณเขาไม่คิด crack ให้คุณแบบฟรีๆหรอก

หลักการทำงาน


วิธีการของแฮกเกอร์ คือ หาเว็บที่มีช่องโหว่ที่สามารถเล็ดรอดเข้าไปได้ หรืออาจจะหาเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ผู้ใช้งานนิยมชมชอบไปยังเว็บไซต์อโคจร (xxx) หรือชอบดาวน์โหลดซอฟท์แวร์ทั้งที่ฟรีและไม่ฟรี แล้วติดไวรัสจากไซต์นั้นหรือโทรจันหรือของฝากของเขา ส่วนใหญ่ที่พบมักจะมาจากไฟล์ crack หรือ keygen หรือไฟล์ game trainer ไฟล์พวกนี้มีไวรัส 99% หรือเสี่ยงต่อการมีสิ่งแอบแฝงโจมตีอยู่มากเท่าที่ได้ลองมา เมื่อได้ไฟล์มาไว้ในเครื่องแล้วมีการคลิกใช้งานไฟล์เหล่านี้ มันจะฝังสคริปต์ที่เป็น Trojan Horse หรือ ม้าโทรจันลงมาที่เครื่่องเรา ถ้าหากเราเป็นคนทำเว็บมันก็จะพยายามดักจับเอา User และ Password FTP ของเว็บเราส่งไปให้คนเขียนโปรแกรมนั้น

เมื่อได้ความลับไปแล้ว จากนั้นพวกแฮกเกอร์เหล่านี้ก็จะเข้าไปวาง code Iframe ในไฟล์ index.php ทำลิ้งก์เชื่อมต่อกลับไปยังเว็บของเขาเอง เพื่ออะไร? เพื่อให้ได้ Google rankings สูงๆ หรือไม่ก็ลิ้งก์ไปยังไฟล์ Trojan Horse เพื่อให้คนที่เปิดเว็บเราได้รับเชื้อติดต่อกันไปเรื่อยๆ หรือบางทีก็จะเป็นโปรแกรมเล็กๆ ที่ไปช่วยคลิ๊ก Google Ads ให้เข้าได้ค่าตอบแทนสูงๆ

 ใครบ้างที่เสี่ยง
  • หากคุณคือเจ้าของเว็บไซต์ โปรดตรวจสอบว่าคุณใช้สคริปต์ php รุ่นปัจจุบันหรือล่าสุดแล้วหรือยัง ผู้ให้บริการ hosting ของเรามีระบบติดตั้งสคริปต์ joomla, mambo, wordpress, magento ให้หรือไม่ ถ้าไม่ควรอัพเดทเองให้เร็วที่สุด
  • หากคุณใช้โปรแกรมที่ crack มา และคุณเป็นคนทำเว็บที่ใช้ ftp ควรระมัดระวังและหมั่นตรวจสอบไวรัส สปายแวร์ภายในเครื่องอย่างสม่ำเสมอ
  เว็บคุณโดนหรือยังตรวจสอบได้
  • หากใช้บราวเซอร์ Firefox กด Ctrl+U
  • หากใช้บราวเซอร์ IE 6 (ควรเปลี่ยนได้แล้ว อันตราย) คลิีก view >> view source
  • หากใช้บราวเซอร์ IE8 คลิ๊ก page >> view source ดูว่า ล่างสุดของเว็บมี code … หรือไม่ ถ้ามีก็โดนละครับ
วิธีแก้ไข
  • หาไฟล์ที่ Hacker เขียนสคริปต์ไว้ ส่วนใหญ่จะฝังอยู่ในไฟล์ชื่อ index.php แล้วลบ code สคริปต์ทิ้ง ทางที่ดีควรโหลดไฟล์บนเซิร์ฟเวอร์ลงมาทั้งหมดแล้วใช้โปรแกรมช่วยเขียนเว็บ ค้นหาและลบทิ้งให้หมด จากนั้นส่งกลับขึ้นไปทับไฟล์เดิม
  • เปลี่ยนรหัสผ่าน ของ FTP โดยให้ใช้ ตัวอักษร ตัวเลข และตัวพิเศษ เช่น ^%$@^#% ประกอบกันเป็น รหัสผ่าน
  • สแกนไวรัสบนเครื่องของเราให้หมด ถ้าใช้โปรแกรม Antivirus ที่ Hack มา ก็ถอนออกซะ แล้วใช้ระบบ Scan Online เช่น http://www.eset.com/onlinescan/ หรือ http://www.kaspersky.com/virusscanner
  • ติดตั้งตัวกันไวรัสใหม่ที่ไม่เสียเงินหรือซื้อ เพราะไม่แพงไม่ถึงพันบาท หรือ ดู Antivirus free ได้ที่นี่  http://www.freeware.in.th/category/security/antivirus แต่ส่วนตัวผมใช้ Avast Antivirus เพราะมันเยี่ยมมากๆ
  • ถ้าเป็นไปได้อย่าบันทึกรหัสผ่าน FTP ไว้ที่โปรแกรม
  • หากคุณใช้โปรแกรม FTP ที่ Crack มา เลิกซะเถอะ ให้ใช้โปรแกรมฟรีๆ ดีๆ แทนเช่น FileZilla หรือ Winscp
ในส่วนของผู้ดูแลหรือเจ้าของเว็บไซต์เอง ก็ไม่ต้องตกใจ (แต่ต้องรีบแก้ไข) เพราะจริงๆ แล้วมันมีวิธีการที่จะทำให้ Google เอาคำเตือนดังกล่าวออกไปจากหน้าค้นหา และทำให้ผู้ชมสามารถคลิกเข้าไปยังเว็บไซต์ของเราได้ตามปกติ ในการที่จะให้ Google เอาข้อความเตือนดังกล่าวออก ก่อนอื่นเราต้องทำให้ Google รู้จักเราให้มากยิ่งขึ้นก่อน โดยการสมัครใช้บริการ Google Webmaster Tools ซึ่ง เป็นบริการฟรี (มีเครื่องมือดีๆ ให้ใช้เพียบ) ในที่นี้ผมขอข้ามเรื่องวิธีการสมัครไปก่อนนะครับ เพราะต้องการจะบอกให้รู้ว่าเรามีวิธีการแก้ไขอย่างไร?

เมื่อสมัครใช้บริการ Google Web Master Tools และ Add ชื่อเว็บไซต์เข้าสู่ระบบ พร้อมทั้งยืนยัน (Verified) เรียบร้อย พอเราคลิกเข้าสู่ Dash Board ในส่วนการจัดการของโดเมนเรา ก็จะเห็นแถบสีแดงเตือนเลยว่า เว็บไซต์ของเรามีปัญหา พร้อมทั้งจะมีลิงค์ให้เราคลิก เพื่อยืนยันว่า เว็บไซต์ของเรา Clear แล้ว ไม่มีปัญหาตามที่แจ้งไว้ – ให้เราคลิกตรงนั้นเลย จากนั้นก็รอสัก 2-3 วัน ก็จะหาย แต่ต้องแน่ใจจริงๆ นะครับว่า เว็บไซต์เรา Clear จริงๆ ไม่งั้น แถบสีแดงก็จะเตือนอยู่อย่างนั้นไม่หายไปไหน

ส่วนวิธีการป้องกันไม่ให้เว็บไซต์ของเราโดนยิง Script ดังกล่าวนั้น ก็ต้องไล่กันไปถึงระบบการพัฒนา หรือการ Coding เลยครับ ต้องมีการป้องกัน หรือกรองค่าของตัวแปรก่อนที่จะส่งค่าตัวแปรไปใช้งาน สำหรับผู้ชมธรรมดาทั่วไป หากต้องการจะให้รอดพ้นจากไวรัสต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาทางเว็บไซต์โดยที่เราไม่รู้ตัว ก็พยายามหลีกเลี่ยงเว็บไซต์ประเภท เว็บโป๊, เว็บฝากไฟล์ และให้ดาวน์โหลดไฟล์ เพราะเว็บไซต์เหล่านี้ 99% มักจะมีการฝัง Script เพื่อให้ระบบบางอย่างทำงานโดยที่เราไม่รู้ตัว ถือว่าเป็นของแถมมาให้ เช่น วันดีคืนดี (หลังจากที่ไปเว็บโป๊,ไปดาวน์โหลดไฟล์ฟรีมา) เครื่องของเราก็มีโฆษณาเข้ามา ให้ดูแบบฟรีๆ โดยที่ไม่ได้ร้องขอ และมาเป็นระยะๆ แถมหาก็ไม่เจอ ถึงเจอก็ลบไม่ได้ ….

ถ้าแบบนี้ก็อย่าไปโทษเว็บไซต์นั้นเลยนะครับ โทษตัวเองดีกว่าที่ชอบของฟรี จนไม่ดูหน้าดูหลัง…คลิกดะ… กรอบหน้าต่างป็อบอัพนั้น ไม่ว่าจะมีปุ่ม Yes/NoOK/Cancel ทุกปุ่มผลลัพธ์คือ Yes ทั้งหมด จงปิดมันที่ปุ่มกากบาทขวามือบนเท่านั้น

ถ้าสังเกตและหมั่นปรับปรุงบ่อยๆ จะไม่พบปัญหา ใช้ Firefox หรือ Google Chrome ดูเว็บแทน IE ดีกว่าจะได้รู้ว่าเว็บเราโดนหรือยัง? ไปอ่านเพิ่มเติมที่นี่นะครับ ถ้าแก้แล้ว Google ยังไม่ปลดเว็บไซต์อันตรายออกไป

สำหรับบทความนี้เป็นวิธีการแก้ใขแบบทั่วๆไป หลายคนทำตามนี้ก็ได้ผลดี แต่ถ้าใครทำตามแล้วไม่ได้ผลหรือหมดปัญญาที่จะหาไฟล์ code สคริปต์ที่ติดไวรัสไม่เจอ เพราะถ้าคุณลบ code สคริปต์เจ้าปัญหาไม่ได้เว็บคุณยังยังติดไวรัสอยู่ ถ้าใครหาไม่เจอ บทความหน้าผมมีวิธีอีก 1 วิธีที่อาจจะช่วยได้ติดตามกันได้ใน วิธีแก้เว็บที่ google แจ้งเตือนว่ามีมัลแวร์ ภาค 2




ที่มา: https://www.nampheung.com/2101/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-google.html