ผู้เขียน หัวข้อ: ทำเว็บอย่างไร ให้คน “หนี”  (อ่าน 1442 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ smf

  • [color=green][i]"ถ้าคุณไม่สามารถอธิบายอย่างง่ายๆ ให้คนอื่นเข้าใจได้แล้วล่ะก็ แสดงว่าคุณยังเข้าใจมันไม่ดีพอ"[/i][/color]
  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,368
  • พอยท์: 5
    • ดูรายละเอียด
    • pordoo.com
    • อีเมล์
ทำเว็บอย่างไร ให้คน “หนี”
« เมื่อ: 11 กันยายน 2016, 14:16:30 »
จริงๆแล้วการมีเว็บไซต์แล้วไม่มีคนเข้าดู มันน่าหดหู่หัวใจจริงๆนะครับ แต่การที่มีเว็บแล้วมีคนเข้ามาดู แต่พอเห็นเว็บเรา ก็ดันรีบปิด นี่มันยิ่งโคตรน่าหดหู่แทบมอดม้วยชีวาเสียนี่กระไร วันนี้เรามาดูกันว่าเรื่องเหล่านี้ที่ผมจะมาเล่าสู่กันฟัง มันทำให้คนดูรีบหนีออกจากเว็บเราทันทีเลยครับ

เล่นเพลง/วีดีโออัตโนมัติ

ด้วยความสัตย์จริง เวลาที่ผมเปิดเจอเว็บไหนที่อยู่ๆก็มีเสียงเพลงดังขึ้นอัตโนมัต มันทำให้ผมรุ้สึกหงุดหงิดจริงๆครับ และมากต่อมากผมก็ต้องรีบปิดเว็บนั้นทิ้งไปทันที ผมเคยเจอบางเว็บไซต์ที่ในหน้านั้นเป็นหน้ารวมวีดีโอ แล้วจินตนาการดูสิครับว่า ทุกวีดีโอ เล่นพร้อมกันหมด! มันน่าสะพรึงกลัวมาก ข้อแนะนำของผมคือ หลีกเลี่ยงการยัดเยียดเสียงเพลงหรือสื่อพวกนี้ให้มันเล่นอัตโนมัต แต่ควรสร้างทางเลือกให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมได้เองจะดีกว่าครับ ถ้าเค้าอยากดูก็ให้เค้าคลิกเล่นเอง

เต็มไปด้วยป๊อบอัพ
ปัญหาเก่าแก่แต่สมัยบรรพกาล และก็ยังเป็นปัญหาระดับชาติของการทำเว็บครับ บางเว็บกระหน่ำแสดงป๊อบอัพประหนึ่งโกรธแค้นใครมาจากไหน ไล่ปิดกันแทบไม่ทัน นี่ก็เป็นอีกวิธีที่จะทำให้คนออกจากเว็บไซต์ เพราะมันดูกวนใจมากๆ สมัยนี้มีเทคนิคเยอะแยะในการสร้างความน่าสนใจในโปรโมชั่น หรือข้อเสนอภายในเว็บ โดยไม่ต้องยิงป๊อบอัพใส่คนดูครับ ตัวที่ได้ผลดีมากๆตัวหนึ่งคือการสร้าง TOP BAR บนเว็บไซต์ แล้วเขียนข้อความอธิบาย และมีปุ่มกดไปยังเนื้อหานั้นๆ จะดีกว่าการสร้างป๊อบอัพครับ เพราะนอกจากจะดูโปรกว่าแล้ว ยังเฟรนลี่กับคนดูด้วยนะฮับ

โฆษณามหาโหด
เว็บไซต์หลายเว็บที่ต้องการจะหารายได้จากการแปะโฆษณา ก็ไม่ผิดหรอกครับ แต่มันควรจะสร้าง section ที่แน่นอนว่าตรงนี้คือส่วนของโฆษณานะ ตรงนี้คือส่วนของเนื้อหาในเว็บจริงๆนะ ไม่ใช่เอาทั้งโฆษณามาผสมปนเปกับเนื้อหาที่จะนำเสนอ มั่วไปหมด บางทีก็ทำเนียนๆ เพื่อเพิ่มยอดคลิก สร้างเป็นลิงค์ไว้ ไอ้เราก็นึกว่าลิงค์นี้มันจะเกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่อ่าน ที่ไหนได้ คลิกปุ๊บ วิ่งไปหน้าโฆษณาซะงั้น แบบนี้ก็ไม่เวิร์คนะคร้าบ

โหลดช้า
ข้อนี้ก็ตรงไปตรงมาครับ เว็บไหนโหลดช้ามากๆ คนก็ไม่ค่อยรอดูหรอกครับ อย่าลืมนะครับว่า คนสมัยนี้ใจร้อน ทำอะไรรวดเร็ว ต้องทันใจเสมอ ถ้าเว็บเรามัวแต่หมุนติ้วๆ กว่าเนื้อหาจะโหลดเสร็จ คนดูก็ปิดเว็บไปหาเว็บใหม่แล้วละครับ  ปกติแล้วเว็บที่โหลดช้าๆ ก็มักจะเป็นเว็บจำพวกแฟลช เว็บที่ใช้ภาพในเว็บไซต์แบบขนาดใหญ่มหึมา หรือเว็บที่แปะวีดีโอเยอะๆครับ  หากเว็บของคุณเข้าข่ายแนวนี้แล้วละก็ อย่าลืมที่จะปรับแต่งเว็บนะครับ พวกรูปก็ทำการ Optimise  สำหรับเว็บดีกว่าครับ

เมนูนำทางไม่ค่อยดี
เมนูนำทางหรือในศัพท์ทางเทคนิคเรียกว่า Navigator ถ้าหากว่าเราออกแบบไม่ดี หายาก หรือดูแล้วไม่เคลียร์ ก็เป็นอีกปัจจัยที่จะทำให้คนหนีจากเว็บไซต์ของเราได้ พวกเมนูนำทางนี่ในฐานะที่ผมคลุกคลีกับวงการออกแบบเว็บ ผมมีข้อแนะนำว่า สร้างให้มันเห็นชัด เจอปุ๊บ รู้ปั๊บว่าใช้งานอย่างไรดีกว่าครับ บางคนเอาไปซ่อนไว้ตรงนั้นตรงนี้ แหม คนดูเว็บไม่ได้มาเล่นซ่อนหานะครับคุณ บางคนเค้าก็ไม่รู้ว่าต้องคลิกตรงนี้นะเมนูถึงจะโผล่ ถ้าหาไม่เจอ ก็จะพาลออกจากเว็บไปเหมือนกัน ^^

เลือกโทนสีทำร้ายสายตา
ไม่น่าเชื่อว่าจะมีเว็บที่เลือกโทนสีพื้นหลังสีน้ำเงินตัวอักษรสีแดง หรือพื้นหลังที่สีแป้ด สะท้อนแสงรุนแรงเข้าเรตินาคุณผู้ชม การใช้สีเป็นศาสตร์ที่ต้องศึกษาให้ดีครับ เวลาเราดูเว็บ เรานั่งติดกับหน้าจอมากนะครับ หลักๆแล้วก็ห่างราวๆสองฟุตจากหน้าจอ ถ้าเว็บของคุณใช้สีที่ทำร้ายสายตามาก คนอ่านก็จะล้า หรือบางเว็บก็สีกลมกลืนกันจริงๆ นึกว่าจิ้งจกกลับชาติมาเกิด สีพื้นกับสีเนื้อหาแทบจะเป็นสีเดียวกัน แบบนี้ก็ไม่ไหว

โครงสร้างเว็บสันสน
หลักๆแล้ว การที่เราเข้ามาดูเว็บ เราเข้าเพื่อต้องการ “หาคำตอบ” ในสิ่งที่เราต้องการครับ เช่นเว็บขายของ คนก็ต้องการหาสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของเค้า  เข้าเว็บข่าว ก็เพื่อต้องการรู้ข่าวคราวต่างๆ ดังนั้นในฐานะที่เราทำเว็บ เราจำเป็นต้องทำให้คนเข้าชมสามารถหาคำตอบที่เค้าต้องการได้อย่างรวดเร็ว ตรงประเด็น ทันทีทันใด แน่นอนครับว่า การจะทำให้ได้อย่างนี้เราก็ต้องรู้จักวางแผน วางโครงสร้างของเว็บว่าจะจัดอย่างไร แบ่งเนื้อหาเป็นหมวดหมู่ประเภทไหน ถ้าไม่อย่างนั้น คนก็จะงงงวยกับเว็บของเรา

เนื้อหาเก๊าเก่า
เว็บไซต์ที่ดีควรจะมีการอัพเดทข้อมูลอยู่เป็นประจำครับ ยกตัวอย่างง่ายๆ สมมติว่าผมกำลังค้นหาข้อมูลสักอย่าง แล้วเปิดเว็บเจอเนื้อหานั้นเขียนในปี 2002 ทั้งที่ตอนนี้มันผ่านไปสิบกว่าปีแล้ว ผมก็คงไม่อยากจะเสียเวลาอ่าน เพราะเอาเวลานั้นไปหาข้อมูลที่ทันสมัยมากกว่าดีกว่า

มีแต่แฟลช
เว็บที่ทำด้วยแฟลช ส่วนมากเป็นเว็บที่หรูหรา อลังการ เห็นแล้วร้องว้าว อยากกระทืบไลค์ให้ทันที แต่ช้าก่อน เดี๋ยวนี้อัตราการท่องเว็บส่วนใหญ่แล้วคนที่เข้าเว็บ จะเข้าผ่านพวกมือถือหรือแท็บบลิตกันมากกว่าเข้าผ่านคอมพิวเตอร์โน๊ตบุคกัน แล้วนะครับ ดังนั้นเว็บแฟลชล้วนๆก็จะไม่แสดงผล แฮะๆ บ๊ายบายนะจ๊ะเว็บแฟลช

ฟอนต์อ่านยาก

สมัยก่อนเว็บไซต์ต้องใช้ฟอนต์ได้ไม่กี่ฟอนต์ครับ เพราะมีข้อจำกัดเรื่องของเทคโนโลยี แต่สมัยนี้เราสามารถฝังฟอนต์ในเว็บของเราได้ ไม่ว่าจะเป็นวิธี @Font-face หรือวิธีอื่นๆ ความสามารถนี้ดีครับ เพราะว่าทำให้เราสามารถใช้ฟอนต์ที่ต้องการได้มากขึ้น ทำให้เว็บดูน่าสนใจมากขึ้น แต่ก็อย่าลืมนะครับว่า เวลาเลือกใช้ฟอนต์ อย่าดูแค่ว่า เห้ย มันสวย แต่ต้องดูด้วยว่า มันง่ายต่อการอ่านหรือเปล่า โอเค ถ้าคุณจะใช้ฟอนต์ตัวเขียนติดๆกัน เป็นแบนเนอร์ก็ไม่ว่ากัน แต่คุณลองจินตนาการดูนะครับว่า ถ้าหากใช้ตัวหนังสือตัวเขียนติดกันพรืดๆ เป็นฟอนต์สำหรับแสดงเนื้อหาทั้งหมดในเว็บไซต์ มันจะอ่านยากขนาดไหน … ผมว่าเว็บไหนอ่านยาก คนก็ไม่อยากจะเสียเวลาแกะรหัสลับพวกนั้นหรอกครับ

ครับผม และนี่ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้คนหนีจากเว็บของเราครับ เมื่อเรารุ้แล้วก็พยายามหลีกเลี่ยงและนำไปปรับปรุงเว็บของเราให้ดีขึ้นนะ ครับ หากคุณมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติม สามารถที่จะร่วมพูดคุยกันได้ผ่านคอมเมนท์ได้เลยครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับผม


ที่มา: https://www.buksohn.com/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3-%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%84%E0%B8%99-%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B5.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 กันยายน 2016, 14:18:49 โดย smf »