ผู้เขียน หัวข้อ: 5 สิ่งที่คนที่ประสบความสำเร็จทำกันทุกเช้า  (อ่าน 1564 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Master

  • [color=Turquoise][i]"อาจจะเหนื่อยล้าและมีผิดหวัง แต่ยังมีพรุ่งนี้ให้เราได้เริ่มกันใหม่ ทุกชีวิตที่อยู่ในเมืองนี้ สักวันก็คงได้สมดังใจ ... "[/i][/color]
  • Global Moderator
  • Sr. Member
  • *****
  • กระทู้: 487
  • พอยท์: 0
    • ดูรายละเอียด

ลองปลุกตัวเองให้ตื่นขึ้นมาเพื่อรับความสำเร็จในแต่ละวันโดยการนำนิสัยที่จะทำให้คุณเป็นคนมีประสิทธิภาพสูงเหล่านี้ไปใช้

จากรายงานของ Inc.Magazine พบว่าคนที่ตื่นเช้าจะเป็นคนที่มีความมั่นใจมากกว่าและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า แต่จริง ๆ แล้วพวกเขาทำอะไรถึงทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จ? ต่อไปนี้เป็นนิสัย 5 อย่างที่คนที่ประสบความสำเร็จใช้พัฒนาตนเองเพื่อเริ่มต้นแต่ละวันไปในแนวทางที่ถูกต้อง

1.ตื่นแต่เช้าตรู่

คนในอาชีพต่าง ๆ และนักการเมืองที่ประสบความสำเร็จจำนวนมาก นับตั้งแต่แจ็ค ดอร์ซีย์ (Jack Dorsey) ซีอีโอของบริษัทสแควร์ (Square Inc.) ไปจนถึงมาร์กาเรต แทชเชอร์ (Margaret Thatcher) อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศอังกฤษต่างก็เชื่อในการเริ่มต้นวันใหม่ตอนเช้าตรู่

แต่ถ้าคุณเป็นคนที่อ้างตัวเองว่าเป็นพวกนกฮูกกลางคืน ลองทำตามคำท้าเรื่องความท้าทายในเจ็ดวัน ที่คิดขึ้นมาโดยราเชล กิลเลต (Rachel Gillett)แห่งบริษัทฟาสต์ (Fast Company)ดู โดยคลิกลิ้งค์ที่ตามมานี้เพื่อลองดูว่า จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อราเชลและผู้อ่านของเธอตื่นขึ้นมาตอน “เช้าตรู่อย่างบ้าคลั่ง” เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์

2.หาเวลาออกกำลังกาย

ออกกำลังกาย แม้จะเป็นเวลาเล็กน้อยแค่ 30 นาทีทุก ๆ เช้า ก็สามารถทำให้เกิดความแตกต่างขึ้นได้ในโลกของการทำงานตลอดทั้งวันของคุณ ความจริงแล้ว เมื่อคุณออกกำลังกายในตอนเช้า ระบบเผาผลาญของคุณจะเริ่มทำงาน และจะยังคงทำงานต่ออีกหลายชั่วโมง ซึ่งช่วยทำให้คุณรู้สึกมีพลังในการทำสิ่งต่าง ๆ ตลอดทั้งวัน พยายามหาเวลาในตอนเช้าเพื่อออกกำลังกาย ก่อนที่วันทำงานของคุณจะเริ่มขึ้น แต่ถ้าหากคุณไม่สามารถอดทนกับการเข้าฟิตเนสได้ใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นลองเช็ควิดีโอสำหรับ การออกกำลังกาย 30 นาที จากเว็บไซต์ Health.com นี้ดู

3.ทานอาหารเช้าเพื่อสุขภาพ

ข้อนี้คงเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายมากตั้งแต่ตอนนี้เลยเพราะเป็นเวลาหลายสิบปีแล้วที่ทั้งนักวิทยาศาสตร์และคนที่ประสบความสำเร็จในสายอาชีพต่าง ๆ ต่างก็เห็นประโยชน์ที่ได้จากการทานอาหารเช้าดี ๆเนื่องจากอาหารเช้าให้สารอาหารและพลังงานที่จำเป็นในการกระโดดออกไปเริ่มต้นวันใหม่หลังจากอดอาหารมาเป็นเวลาหกถึงสิบชั่วโมงในตอนกลางคืนนอกจากนี้ คุณจะมีความมุ่งมั่นตั้งใจสูงที่สุดในตอนเช้าด้วยเช่นกัน ดังนั้นการเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพจะมีผลต่ออารมณ์การตัดสินใจทำเรื่องต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในระหว่างวันที่เหลือ คุณมีเวลาในตอนเช้าไม่มากนักใช่ไหม? ถ้างั้นก็ควรเตรียมมื้อเช้าของคุณเอาไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ตอนกลางคืน และลองหนึ่งใน 34 เมนูอาหารเช้าเพื่อสุขภาพสำหรับตอนเช้าที่ยุ่งเหยิงเหล่านี้ดู

4.นั่งสมาธิ

จากรายงานของหนังสือพิมพ์ออนไลน์อย่าง HuffingtonPost กล่าวว่า การนั่งสมาธิจะช่วยลดระดับความเครียด ปรับปรุงการทำหน้าที่ของประสาทการรับรู้ให้ดีขึ้น ช่วยทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และเกิดประสิทธิผลในการทำงานได้ นอกจากนี้ยังช่วยแม้กระทั่งเรื่องการปรับสภาพร่างกายภายนอกของคุณให้ดีขึ้นได้ด้วย ด้วยเหตุนี้ ผู้นำองค์กรหลายคนจึงค้นพบว่า การนั่งสมาธิช่วยทำให้พวกเขาสามารถจัดการกับความเครียด และก้าวเดินไปในหน้าที่ที่ต้องแบกรับความกดดันสูงได้เป็นอย่างดี แพดมาสรี วอริเออร์ (Padmasree Warrior)ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านเทคโนโลยีและกลยุทธ์ของบริษัทซิสโก้ซิสเตม (Cisco System, Inc.)เคยให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ไว้ว่า การนั่งสมาธิ “เป็นเหมือนการรีสตาร์ทสมองและจิตวิญญานของคุณขึ้นมาใหม่” การใช้เวลาสองสามนาทีเพื่อนั่งสมาธิในทุก ๆ เช้าสามารถทำให้จิตใจของคุณมีสติและร่างกายของคุณมีพลังในการทำสิ่งต่าง ๆ ให้สำเร็จได้ในช่วงเวลาที่เหลือของวัน ลองเช็คลิสต์รายการ แอพพลิเคชั่นเพื่อการนั่งสมาธิอันดับต้น ๆ สำหรับไอโฟนหรือแอนดรอยส์ นี้ดูเพื่อเรียนรู้วิธีในการเริ่มต้นนั่งสมาธิ

5.จินตนาการภาพที่จะเกิดขึ้นในแต่ละวัน

เบนจามิน แฟรงคลินพูดถูกที่ว่า: “ถ้าคุณวางแผนไม่เป็นล่ะก็ คุณก็กำลังวางแผนที่จะล้มเหลวแล้วล่ะ” คนที่ประสบความสำเร็จมีแนวโน้มว่าจะเป็นคนที่ชอบจดลิสต์รายการสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน และเป็นนักวางแผนที่มีชื่อเสียง คุณจึงควรแบ่งเวลาสักสองสามนาทีในตอนเช้าเพื่อวางแผนสิ่งที่จะทำในช่วงเวลาที่เหลือของวันนั้น ๆ ออกมา และคิดด้วยว่างานไหนสำคัญที่สุดที่ควรต้องทำให้เสร็จก่อนคุณควรจัดลำดับความสำคัญของเรื่องต่าง ๆ และทำให้เสร็จตั้งแต่ช่วงเช้าของวันในตอนที่คุณยังมีความมุ่งมั่นตั้งใจสูงอยู่ ลองคิดดูว่าสิ่งที่คุณทำในวันนี้ช่วยส่งเสริมเป้าหมายที่ใหญ่กว่าในชีวิตของคุณได้อย่างไร และพยายามมองภาพให้ออกว่ามันจะเป็นอย่างไรถ้าคุณไปถึงจุดนั้นแล้ว การตระหนักถึงเป้าหมายที่ใหญ่กว่าสิ่งที่เป็นอยู่ในชีวิตปัจจุบันของคุณจะช่วยทำให้คุณมีแรงจูงใจเป็นอย่างสูงในตอนที่คุณต้องทำงานที่ตัวเองชอบน้อยที่สุดอยู่

 
Reference: http://info.theladders.com
ที่มา: http://www.centralsmartjobs.com/th/Home/KnowledgeDetail/102_%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87%205%20%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%B2
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 ตุลาคม 2016, 15:56:39 โดย Master »