แจกของฟรี

หลายคนใช้แล้วมีปัญหาจริงๆ
โดยเฉพาะติดแบบหัวฉีด ต้องสตาร์ทน้ำมันก่อน ร้อนแล้วค่อยเปลี่ยนเป็นขับแก๊ส
และต้องคอยดูแลอย่างดี ล้างอุปกรณ์บ่อยๆ ขนาดนั้นแล้วหลายคนก็เจอปัญหาคาดไม่ถึงบ่อยๆ
เช่นตื่นเช้ามาดีๆดันสตาร์ทไม่ติด ขึ้นเขาติดๆดับๆ

ติดแก๊สตั้งแต่ซื้อใหม่ๆเลยค๊าาา สองหมื่นกว่าๆ ถูกกว่านี้ก็มี...
ต้องร้านใหญ่ทำบ่อยๆนะเฮีย...ร้านเล็กไม่ค่อยรับผิดชอบ
อีกอย่างอย่าติดแบบหัวฉีด เอาแบบต่อตรง(ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน)
หัวฉีดมีปัญหาทั้งนั้น แต่แบบตรงนี้เข้าร้านใหนเขาก็ทำได้ แก้ไขไม่ยาก
ปัญหาน้อยมาก" (เธอเร่งเครื่องให้ดู...อย่างเมามันส์)

ความปลอดภัย CNG จะปลอดภัยกว่า ต้องนำรถกลับไปตรวจที่บริษัทที่ติดตั้ง หรือบริษัทที่ได้รับอนุญาติ ทุกปี (ต่างจากตรวจสภาพ ตรอ.)
ด้านความประหยัด ผมมองว่าพอกัน
เพราะ เทียบกับการเสียเวลาที่ต้องมาเติมก๊าซ CNG เพราะถังนึงบรรจุได้ 14 กิโล แถมถ้าแรงดันของสถานีไม่ดี ก็เติมได้น้อย เอาแน่เอานอนไม่ได้ ต่างจาก LPG ที่เติมได้จนเต็ม และเติมได้เต็มถังประมาณ 40 ลิตร

1 ถัง CNG รถผมวิ่งได้ 160-200 กิโลเมตร (ตอนติดตั้งใหม่ ๆ วิ่งได้ 120 กิโลเมตร เนื่องจาก ต้องค่อย ๆ ปรับจูน)
1 ถัง LPG รถคันเก่าผม วิ่งได้ 400-500 กิโลเมตร
ระบบจ่ายจะมี 2 ระบบ แบบดูด กับ หัวฉีด

ระบบดูด ที่ผมเคยติดตั้ง เมื่อก่อน นะครับ 17000 เอง
แต่ ระบบฉีดจะแพงกว่า

ระบบ ฉีด จะมีกล่อง ECU ไว้ควบคุมการจ่ายก๊าซ จะมีราคาแพงกว่า แต่ก็ มีข้อเสีย อย่างที่ rep บอก ว่าถ้าติดที่ไหน ต้องกลับไปที่นั่้น(เหมือนผม) เพราะ โปรแกรมที่ใช้กับกล่อง ECU แล้ว แต่บริษัท จะใช้หรือนำเข้ากล่อง ECU จาก บริษัทใด มาใช้ ก็ จะมีโปรแกรมที่แตกต่างกัน

ส่วนระบบดูดจะไม่มีกล่องควบคุม เวลามีปัญหาเร่งด่วน สามารถจูน อู่ที่ใกล้ที่สุดก่อนได้ หรือให้ช่างยนต์ทั่ว ๆ ไป จูนก็ยังพอไหวครับ



ที่มา: http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,191356.0.html