ผู้เขียน หัวข้อ: กรดไหลย้อนโรคยอดของคนสมัยใหม่ที่มีความตึงเครียดสูงและไม่ในสุขภาพในตัวเองเท่ากับการโหมงานหนักเพื  (อ่าน 633 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ AnnaFraser22

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,132
  • พอยท์: 0
    • ดูรายละเอียด
ทำไมคนในกาลสมัยนี้ถึงทำหนักกันยิ่งนัก คำถามของผู้ใหญ่ที่มีแด่ลูกหลานในตอนนี้ ในสายตาของคนยุคเก๋ากึ๊กที่ทุกอย่างมิรีบและคนไม่ได้รับแข่งขันกันนี้และที่สำคัญหมายถึงคนไม่ได้ขึดติดกับวัตถุไม่เบาขนาดนี้นั้น ในยุคนั้นกล้าหาญจะยุคที่มีสงครามภัตลำบากลำบนหมากก็จริง คนในยุคนั้นก็ยังคงใช้ชีวิตได้ดีและมีบรรทัดโคนในการชีวิตที่ดีมากกว่าคนในสมัยนี้เป็นทำนองไม่เบา ยกตัวทำนองง่ายๆเช่น คนในยุคนี้เป็นกรดไหลย้อนกันค่อนขั้วมากเพราะโรคตรงนี้เป็นโรคของคนรีบที่ไม่ใส่ใจดูแลตัวเองให้ดี เนื่องจาก ในยุคนี้คนไม่นิยมทานข้าวเช้า ทั้งๆที่เป็นมื้อหลักวันแต่จะเอามื้อเพรางายพร้อมทั้งมื้อปานกลางวันเอาไว้ด้วยซ้ำกันแต่จะรับประทานกาแฟตอบสนองอาหารการกินเช้า ซึ่งกาแฟนั้นคือสิ่งที่ส่งผลชั่วช้าแก่กระเพาะที่ว่างอาหารเป็นอย่าง แล้วข้างหลังจากตื่นโครงกายเครื่องใช้เรานั้นท้องจะว่างมากเปล่าสามารถหรือดูดซับคาเฟอีนจำนวนมากเอาไว้ได้อย่างแน่หลับไหล แต่สมัยนิยมทำให้เราดื่มกาแฟเป็นหลักกับขนมปังที่มีน้ำอุจทำให้โครงกายไม่ได้รับสสารที่เพียงพอเพื่อมื้อเช้าที่จำเป็น แต่กลับไปทำร้ายด้วยกาแฟและตาลแทนของกินดี จึงทำสละกลายเป็นโรคกรดไหลย้อนตามสมัยการตั้งกฎเกณฑ์อีกกัน อย่างไรก็ตามถ้าเทียบเข้ากับคนในยุคก่อนแล้ว ถึงแม้ว่าร้ายจะอยู่ในกาลสมัยข้าวหมากมีสงครามเข้ากับเมืองต่างๆมากมาย คนกาลสมัยนั้นก็ไม่เคยยินมีใครที่จะคือโรคกรดไหลย้อนมากคนในยุคตรงนี้เลย เพราะคนในสมัยนั้นใส่ใจกับของกินในทุกๆมีและเลือกรับประทานขอสดสะอาดและมีประโยชน์ เช่น ในตอนเช้าก็จะหาอะไรง่ายๆ และมักจะเป็นต้นแบบอ่อนๆอาทิอาทิเช่น โจ้ก เกาเหลา ข้าวเคี่ยวพร้อมทั้งพืชผักผลไม้ต่างๆ เพราะหลีดเลี่ยงอาหารแหล่งมีรสจัด แต่จะทานอาหารให้ที่มากเท่าที่จะทำได้นั้นจึงเป็นสาเหตุแห่งเมื่อเปรียบเทียบอัตราการปรากฏโรคกรดไหลย้อนของคนในกาลสมัยนั้นกับคนในยุคนี้แล้วจึงมีจำนวนต่างกันมากเนื่องจากคนในกาลสมัยก่อนทานอาหารที่ถูกต้องตามหลักข้าวปลาอาหารการ และสมในแต่ละเพรา เช่นในช่วงเช้าจะทานอาหารอ่อนเน้นพืชผักผลไม้ เพราะกระเพาะอาหารยังคงว่างมากอีกทั้งพร้อมย่อยของรากเลือดๆ ตอนมัธยมวัน ก็จะกินหนักขึ้นเน้นเนื้อไม่มันและ เป็นอาหารที่ข้อนขั้วอยู่พุงอาจจะคือกะทิก็ได้เพราะแยะคนอาจจะเข้าใจผิดว่าแกงกะทิไม่ดีเพราะมันทำให้อ้วนและอาจจะทำมอบบังเกิดโรคกรดไหลย้อนขึ้นได้ แต่ที่แท้แล้วเปล่าใช่แกงกะทินั้นหมายถึงไขมันดีที่มีอยู่ในธรรมบ้านเมืองกายเชี่ยวชาญนำไปใช้เลย จึ่งเป็นไขมันส์ดีที่เราเก่งบริโภคได้อย่างไรก็ดีกล้าจะควรจำกัดการทานประเดี๋ยว เพราะอย่างไรสะก็ขึ้นว่าน้ำสนุกกะทิ จึ่งอาจจะส่งผลเปล่าดีร่างกายได้ อะไรที่กินไม่เบาเกินไปก็เปล่าดี จงบริโภคแต่พอดีจึงจะเหมาะสม เพราะมื้อกลางวันตรงนั้นสำคัญแพ้มื้อเพรางายเลยเพราะร่างกายจะนำงานนี้ไปใช้ตลอดช่วงเอี้ยวที่เราต้องนั่งทำงาน และนั่งศึกษาจึงต้องเป็นงานที่สมเพื่อให้ให้ร่างร่างนำเอาไปใช้ได้ทันที และลดอัตราความเสี่ยงในการที่จะเป็นโรคกรดไหลย้อนได้อื้อซ่ารุ่ง ในมื้อเย็นโดยปกติคนสยามในสมัยก่อนจะนิยมเครื่องใช้แหล่งไม่มันและลงคะแนนทาผักมากขึ้น จะไปทำงานได้ดีขึ้นในขณะหลับ ทั่วยังรับประทานเร็วกว่าคนในสมัยนี้อีกด้วย เพราะคนในยุคนั้นทานอาหารการกินเย็นย่อหน้าประมาณหกโมงและจะเสร็จตอนประมาณหนึ่งทุ่มตรง ไม่ใช่ว่าเพราะไม่มีไฟฟ้าพร้อมทั้งกลัวนินทาจะมองดูกับข้าวไม่เค้ามีความเชื่อว่าการทานข้าวเร็วไวจะทำให้ ดีต่อมากกว่าทั้งยังฉลุยมากกว่าคราวนอนด้วย เพราะกว่าจะนอนก็ประมาณตรีทุ่มซึ่งห่างจากมื้ออาหารมากหลังสุดประมาณสี่โมง ซึ่งคือช่วงที่สเก๊ตช์ร่างได้ย่อยอาหารส่วนบนไปบางส่วนทำสละอาหารหลับไหลท้องพร้อมด้วยไม่หมายถึงโรคกรดไหลย้อน ซึ่งงานใช้อย่างถูกต้องตรงนี้ทำคนในสมัยมีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขทิวภาพแห่งดีกว่าคนในยุค แต่ก็เป็นเรื่องน่าแหวกแนวที่คนในสมัยก่อนนั้นไม่ได้มีความรู้และได้เรียนทราบสาระอย่างง่ายดายเหมือนกับคนในปัจจุบัน ทั้งๆที่ในยุคนี้การเสพสื่อหาข้อมูลนั้นง่ายแสนง่ายทั่วๆที่ทั่วอยู่แค่บนฝ่ามือ แต่กลับมีการใช้ชีวิตที่ไม่ดีคนในยุคก่อนที่มิมีการตัวนำสารแหล่งดี และเปล่ามีเทคโนโลยีด้วยมาช่วยให้ความรู้เลย บางคนจะอ่านไม่ออกด้วยอีกครั้งแต่เค้าก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างดีพร้อมด้วยมีคุณมากกว่าคนในยุคมากจริงๆ นี้จึงเป็นเรื่องน่าว่าร้ายแห่งคนในสมัยเป็นโรคภัยกรดไหลย้อนนั้นอาจจะไม่ใช่เนื่องจากเครียดมากรุ่ง หรือได้ความรู้น้อยลงเพราะเครียดนั้นคนทุกยุคและมีความลำบากลำบากไม่แพ้กัน แต่ความรู้ตรงนั้นเชื่อในยุคนั้นย่อมจะหาได้กว่า อย่างไรก็ตามคนในยุคนี้อาจจะสวมใจแก่สุขทิวภาพบางตากว่าและใส่ใจในรายในการใช้ปากท้องน้อยกว่า จึงทำสละมีสุขภาพแห่งดีน้อยกว่า อย่างไรก็ดีเชื่อนินทาถ้าคนในยุคนกรดไหลย้อน