ว่าด้วด้วยว่ายเรื่องราวของการติด
สติกเกอร์รถยนต์ หลังจากที่เจ้าของรถหรือไม่ก็ตัวแทนของผู้ถือสิทธิ์รถยนต์ได้ทำการติดสติกเกอร์รถยนต์ไปแล้วผู้เอาประกันรถหรือตัวแทนขายจำเป็นจะต้องที่จะต้องบอกกล่าวบริษัทประกันภัย เพื่อให้ที่จะทำการการระบุในกรมธรรม์ว่ามีวัสดุชิ้นใดบ้างที่นอกเหนือจากตัวรถ ที่ร.ง.ผลิตมา ซึ่งในข้อกำหนดของสัญญาประกันภัยรถยนต์นั้น ได้ระบุไว้ว่า หากผู้เอาประกันภัยหรือทางคนแทนจัดจำหน่าย ติดตั้งเพิ่มเติมหรือแถมฟรี หรือได้จำหน่ายวัสดุอุปกรณ์เติมแต่งเพิ่ม (Accessory) นับว่าเป็นวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มทั้งหมดยกแบบอย่างเช่น ล้อแม็ก, สปอยเลอร์, เครื่องเสียง, ชุดกันขโมย, ฟิมล์กรองแสง, กรอบป้ายทะเบียน, สติกเกอร์รถยนต์ลายต่างๆ เป็นอาทิ ซึ่งโน่นเป็น ไม่ว่าจะทั้งเป็นการติดสติกเกอร์รถยนต์เช่นแค่ลวดลาย หรือการติดสติกเกอร์รถยนต์แบบอย่างพิมพ์อิงค์เจ็ท หรือไม่ก็ไม่ว่าจะเป็นการติดสติกเกอร์รถยนต์เพียงบางชิ้นหรือทั้งหมด จำเป็นจะต้องบอกกล่าวกับบริษัทประกันภัย ถ้าหากต้องการให้กรมธรรม์ครอบคลุมความเสียหายที่อุบัติขึ้นซึ่งประกันภัยรถยนต์ชั้น1 จะให้ความคุ้มครองเฉพาะอุปกรณ์มาตรฐานจากร.ง.แค่นั้น โดยบริษัทประกันภัยจะรับทราบได้จากค่ายรถที่ประกอบขึ้นในรุ่นต่างๆแค่นั้น (ตามหลักแล้วบริษัทประกันภัยจะมิรับผิดชอบความเสียหายในส่วนสติกเกอร์ติดรถยนต์) หากไม่ได้บอกเพิ่มไว้ล่วงหน้า การแต่งรถยนต์เพิ่มเติม จำต้องชำระค่าเบี้ยประกันเพิ่มหรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้จะมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นจากกรมธรรม์เดิมเป็นแน่…เบี้ยประกันภัยในส่วนนี้เพิ่มเติมแต่ไม่มากมายครับ แต่กลับจะเป็นประโยชน์สำหรับตัวผู้บริโภค เพราะครั้นเกิดความเสียหายกับสติกเกอร์รถยนต์หรือรถหายก็จะได้รับการชดใช้ค่าเสียหายในส่วนวัสดุอุปกรณ์และสติกเกอร์รถยนต์ที่กำหนดด้วย และจะได้ไม่เป็นประเด็นข้อโต้เถียงว่าทำไมบริษัทประกันภัยไม่ยอมรับผิดชอบทั้งสิ้น “ถ้าเราไม่บอกเขา บริษัทประกันภัยก็จะไม่สามารถรับรู้ได้ว่าเราไปติดตั้งสิ่งไร และมีมูลค่าเท่าไหร่”สติกเกอร์รถยนต์
