หลายๆ คนยังสับสนอยู่ว่าไม้แบบก่อสร้างคืออะไร และกล่าวถึงการ ต่อเรือบ้านช่องห้องหับสร้างอาคาร หรือที่เป็นการสร้างอื่นๆหรือไม่ ตามแบบฉบับแล้วค่าคบไม้ทำนองคลองธรรมก็คือ ไม้อัดที่ใช้ ด้วยว่าการงานถกล ที่ทำออกมาโดยเฉพาะของงานแบบพื้น ไม่ว่าจะเป็นแบบเสา งานรากฐาน หรือ งานฉลองสร้างถ้วนทั่วซึ่งการใช้งานของไม้แบบนี้มีไว้สำหรับ การงานก่อ งานหล่อแบบคาน หมวดเสาหลักงานรากฐาน ใช้ในการปูพื้น ,สำหรับทำป้ายโฆษณา และยังใช้ในงานเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่เน้นความสวยงามอย่างการทำชั้น วางสินค้า หรือโครงในเฟอร์นิเจอร์ ไม่ว่าจะเป็นโซฟา หรือ เตียง และใช้สำหรับผลงานใส่ภัณฑ์
ปัจจุบันมีร้านบริการไม้แบบก่อสร้าง ที่อยู่ในงานก่อสร้างแบบครบวงจรมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่จะมีการจำหน่ายไม้แบบที่เป็นงานแปรรูปซึ่งทำมาจากไม้อัด ไม้ยูคา ไม้จ๊อยท์ ไม้ไผ่ และยังมีเครื่องมือประดิษฐ์อื่นๆอีกไม่ว่าจะเป็นอิฐมวลเบา อิฐมอญ ไวท์เมท อิฐบล็อก เหล็กและสังกะสี ฯลฯ หากเป็นร้านใหญ่ๆ ยังมีบริการรับสร้างบ้านและต่อเติมบ้านหรือ อาคารพาณิชย์ โรงงาน ตามแบบและงบประมาณ เรียกว่าเปิดกันทีครบวงจรเพื่อตอบสนอง ความต้องการของลูกค้าเพื่อให้ได้ความหลาก หลายวัตถุประสงค์มากที่สุดบวกกับบริการหลังการขาย ที่แต่ละร้านต่างก็พากันเสนอราคาเพื่อให้เกิดความประทับใจต่อลูกค้ามากที่สุด เรียกว่าใครที่ต้องการอุปกรณ์ก่อสร้างที่นอกเหนือจากไม้แบบ ก็สามารถเลือกของอื่นๆ ที่จำเป็นต้องใช้ได้เช่นกัน ซึ่งนอกเหนือจากพวกช่างรับเหมาแล้ว ใครที่ชอบต่อเติมบ้านหรือตกแต่งเรือนเองได้ ก็ยังสามารถมาซื้อหาไม้แบบและอุปกรณ์ก่อสร้างได้เช่นกัน
ช่างหลายคนที่ชอบตัดไม้แบบก่อสร้าง ซึ่งหากมีเหตุจำเป็นก็ทำเป็นตัดได้ แต่หากมีการตัดเมื่อตัดแล้วอีกท่อนหนึ่งก็จะ ต้องใช้ประโยชน์ให้ได้ เพราะไม่ควรให้ไม้แบบกลายเป็นเศษไม้ที่ยาวแค่ 20 ถึง 30 เซนติเมตรเท่านั้น เพราะสิ่งยิ่งใหญ่ที่สุดของการใช้งานไม้แบบก็คือจะต้องให้คนงานพยายามใช้ไม้เก่าที่มีอยู่ให้มากที่สุด แต่หากไม่พอแล้วจึงใช้ไม้ใหม่ และการใช้ไม้ใหม่ก็ไม่ควรตัด อาจแก้ไขคำถามด้วยการเลือกไม้เก่ามาต่อให้ได้ขนาดเสียก่อน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วกรณีแปลกแยกของงานไม้แบบกับงานไม้โครงสร้างจะมีความแตกต่างกันตรงที่ไม้แบบจะต้องสั่งให้สั้นกว่าความยาวที่จะต้องใช้ เช่นหากมีแบบคาน 4.00 เมตร จำเป็นที่จะต้องใช้ไม้แบบ 2.00เมตร ถึง 3.00 เมตร เพื่อต่อกับเศษไม้ ส่วนไม้ต้นฉบับหากมีความยาว 4.00 เมตรอาจต้องสั่ง 4.50 เมตร และยังต้องทำเผื่อหัวไม้สำหรับการตัดต่อรวมถึงเผื่อความกว้างของเสาอีกด้วย การเลือกไม้แบบแปลนจะต้องมองภาพโดยรวมเพราะหากยิ่งยาวยิ่งประหยัดไม้ทำให้ยิ่งแข็งแรง
สาเหตุที่ไม้แบบก่อสร้าง ต้องใช้ไม้สั้นกว่าช่วงใช้งานซึ่งเหตุผลที่ สำคัญมุทธาคือ เพื่อความสะดวก และความรวดเร็ว เพื่อป้องกันไม้แบบฉีกเสียหายขณะแกะแบบ เพราะหากต้องตัดไม้ก็จะทำให้เสียไม้เปล่าๆ หรือแม้แต่หลังจากเข้าแบบเพื่อเทคอนกรีตเสร็จจะทำให้แรงดันคอนกรีตดันแบบให้แน่นเข้าไปอีก ส่งผลทำให้หัวดันท้ายดัน การจะงัดไม้แบบออกมีวิธีเดียว คือแกะออกแยกชิ้นส่วนเป็นแผ่นๆ แต่ก็ถือว่าผิดหลักหลักที่การตีแบบจะต้องให้ใช้กับชั้นบนๆได้อีก ซึ่งหากงัดกลางไม้แผ่นอาจจะเอาไม้ออกมาได้ แต่ถ้าไม่ออกก็อาจจะทำให้เสียไม้แบบไปอีกแน่ซึ่งไม้แบบแผ่นหนึ่งต้องใช้ให้ได้อย่างน้อย 3 ครั้ง แต่หากแบบของคุณใช้แบบ 2.00เมตร ต่อกับแบบ 1.70 เมตร ต่อให้มีแรงอัดคอนกรีตรับรองว่าแกะแบบออกไม่ยาก และที่สำคัญแบบก็จะไม่พัง และยังศักยยกขึ้นไปใช้กับชั้นบนได้อีกแม้จะมีอีก 10 ชั้น แบบก็ยังไม่พัง
การเข้าแบบด้วยการใช้
ไม้แบบก่อสร้าง และการรื้อแบบ ควรคิดให้เหมือนการต่อจิ๊กซอว์ โดยการยกเป็นชิ้นๆ แกะเป็นชิ้นๆ อย่าให้เสียหนทางที่ทำไว้ตั้งแต่แรกและจัดเก็บกองตามขนาด ทั้งไม้แบบค้ำยันและตุ๊กตา หรือ ตะปูยึดแบบที่ไม่ต้องการให้ถอนออกไปกองประชุมกั้น คนงานต้องมีฆ้อนไว้ถอนตะปูทุกคน ว่างจากงานหิ้วปูน ผสมปูนก็สามารถมานั่งถอนตะปูไม้โครงได้ และจัดเก็บให้กองเก็บเป็นระเบียบเรียบร้อยเพื่อที่จะหยิบใช้ได้ง่าย ทำให้ประหยัดเวลา ประหยัดค่าแรงได้อีก ในการเลือกไม้แบบที่เป็นพลาสติกก็เพื่อที่จะเสริมเหล็กเพิ่ม กรณีบึกบึนเป็นไม้แบบใช้สำหรับหล่อคอนกรีต คาน เสา ซึ่งไม้แบบพลาสติกก็คือ ไม้แบบที่ทำจากพลาสติก โพลีเอทิลีน ที่มีความเหนียว ทนทาน ด้านหน้าเรียบ ส่วนด้านหลังเป็นครีบเสริมเหล็กกล่องเพื่อสร้างความห้าวหาญ ที่ช่างก่อสร้างหันมาใช้ไม้แบบพลาสติก ก็เพราะมีความเหนียว น้ำหนักเบา ดูแลรักษาง่าย สามารถตั้งแบบและรื้อง่าย ไม่ต้องทาน้ำยาแบบซึ่งจะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลามากขึ้น แถมยังอาจปรับใช้ใช้งานได้ทุกแบบทำให้ ประ หยัดโครงคร่าว โดยมีขนาดเท่ากับไม้กระดาน และสามารถต่อควไม้แบบก่อสร้าง