หลังจากที่ผมขอตัวขึ้นมาทำภาระบน
โต๊ะวางของของผมเรียบร้อย ผมก็เอนตัวข้างโต๊ะวางของเพื่อมาเช็คเมล์ อ่านไลน์ เปิดอินเตอร์เน็ตไปเรื่อยๆ แต่แล้วก็มีเสียงทุบประตูดังขึ้น ไม่รู้ว่าเหตุเพราะความมึนเมาหรือสะดุ้ง ระหว่างที่ผมกำลังจะลุกขึ้นเพื่อจะไปเปิดประตู ผมสะดุดตุ๊กตาฮิปโปสีขาวที่วางอยู่บนพื้นติดโต๊ะวางของ ซึ่งผมสนใจจะซื้อเป็นของฝากให้ลูกสาวมิตรสหายสถานที่ทำงาน พอเปิดประตูออกมาก็พบน้องฟ้า ม้าผมให้เธอขึ้นมาตามผมลงไปรับประทานข้าว ผมผงกศีรษะตอบรับแล้วรีบเก็บของที่แหมะระเกะระกะบนโต๊ะวางของทันที ก่อนลงมาส่วนล่างเพื่อทานข้าวพร้อมหน้า หลังจากทานข้าวเสร็จพ่อกับลุงมลชวนผมนั่งดื่มกันต่อส่วนตัวผมก็เป็นลูกนินะไม่สมควรจะขัดผู้ใหญ่ซะด้วยซิ พวกเราเลยออกมานั่งรับลมกันที่เทอเรซหน้าบ้านโดยมีโต๊ะวางของ 1 ตัวกับเก้าอีกเอนหลัง 3 ตัว ในเวลานั้นสายฝนก็ยังคงปรอยอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ส่วนคุณแม่กับน้องฟ้าเหยียบย่างทำกับแกล้มเพิ่ม ป้าแมวก็นั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาปรับระดับตัวโปรดของผม ม่าม้าเปล่งเสียงมาจากท้ายครัวว่าเจอขวดน้ำมันงาที่ฝากผมซื้อเก็บไว้ตรงไหน เกือบหลงไปแล้วนะเนี่ยมันอยู่ในกระเป๋ากันน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะวางของหน้าห้อง ขณะผมกำลังก้าวเดินไปหยิบมารดาก็ส่งเสียงบอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวให้น้องฟ้าออกไปหยิบ บอกน้องด้วยว่าอยู่ตรงไหน ผมจึงแจ้งให้ทราบน้องเค้าว่าอยู่บนโต๊ะวางของหน้าห้องหับพี่นะ ตอนที่น้องขึ้นไปหยิบของม้าของผมก็ถามว่ารู้สึกยังไงกับน้องเขา ซึ่งผมก็ตอบไปว่า ก็เหมือนคนรู้จักคนหนึ่ง ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรผมยังไม่อยากมีแฟน แล้วลูกไม่ลองศึกษากันดูก่อนเหรอ ผมเลยตอบท่านว่าอย่าให้น้องมาเสียเวลากับผมเลย ผมแลเห็นหน้าม่าม้าแล้วก็แอบนึกหัวเราะไม่ได้ ท่านคงจะหวังดีกับผมจริงๆ นั้นแหละ แต่ท่านก็รู้จักสันดานของผมดี ท่านก็อมยิ้มแล้วพูดกับผมขณะยืนพิงโต๊ะวางของก็พูดว่าขอบใจลูกมากนะที่วันนี้ทำตัวได้น่ารัก แต่อย่าดื่มเยอะนะลูกพรุ่งนี้มีอะไรต้องทำอีกเยอะ ผมยิ้มและกล่าวว่าขอบคุณครับ ผมรักแม่ที่สุดโต๊ะวางของ