โรคไมเกรน มีสาเหตุเกิดจากการไหลเวียนไม่สม่ำเสมอของหลอดเลือดในสมองที่เคลื่อนที่เวียนเพิ่มมากขึ้นในเวลาสั้นๆ ในส่วนของสมอง เป็นผลผสานกับการหนุนของเส้นประสาทในสมองและเมื่อเส้นเลือดในสมองมีการไหลเวียนลดน้อยลงสลับกันไปเป็นเหตุให้เกิดอาการวิงเวียนตาลาย คลื่นไส้อาเจียนกับปวดศีรษะ ลักษณะโดยทั่วๆ ไป จะทำให้ปรากฏอาการปวดศีรษะแถบเดียว แต่ก็มีโอกาสปวดศีรษะไมเกรน 2 ข้างก็สามารถเป็นได้ การปวดศีรษะ อาจมีระยะเวลาสั้นๆ 3-4 ชั่วโมงและถ้าบังเกิดอย่างรุนแรงอาจปวดศีรษะต่อเนื่องยาวนาน 2-3 วันก็เป็นได้
ไมเกรนถือเป็นโรคปวดศีรษะเรื้อรัง ยากจะรักษาให้หายขาดได้ การแสดงอาการของไมเกรน บางครั้งอาจเกิดการตาลายก่อนแสดงอาการ แต่บางคราวก็จะเกิดการปวดก่อนเห็นแสงระยิบระยับ ซึ่งทางการแพทย์แบ่งเป็นขั้นตอนการเกิดเป็น 5 ระยะ คือ
1. อาการนำ จะพบคนป่วย รู้สึกหงุดหงิดง่าย ท้องเสีย ขาดสมาธิในการทำงาน หิวแต่ไม่ชอบกลิ่น
อาหาร และอ่อนเพลียแต่ก็มีผู้ป่วย ไม่น้อยที่มิได้แสดงอาการแบบนี้
2. อาการออร่า จะพบผู้ป่วย รู้สึกเห็นดาวระยิบระยับ ตาลาย
3. อาการปวดศีรษะ หลังเกิดสภาพดังกล่าวข้างต้นแล้ว ผู้ป่วย จะรู้สึกปวดศีรษะ ซึ่งอาจปวด
ศีรษะข้างเดียวหรือทั้งสองข้างก็ได้ ผู้ป่วย อาจเกิดปวดร้าวต้นคอ เบ้าตา คลื่นไส้อาเจียน
4. ระยะเวลาหายปวด หากมีการหยุดพักที่เพียงพอผ่อนคลายจิตใจ ระบบทางเดินเลือดจะกลับเป็นปกติ
ก็จะไม่ปวด
5. ระยะเวลาหลังจากหายปวด หากแต่จะมีผลสืบเนื่องคือ จะรู้สึกเหนื่อยอ่อน อ่อนเพลีย สมองไม่แล่น
เฉื่อยชา อาจต้องระมัดระวังหากขับรถยนต์
ปัจจัยและสาเหตุของผู้ป่วย
- อาการไมเกรนเกิดจากร่างกายขาดความสมดุลของระบบการควบคุม ซึ่งอาจเป็นมาจากอาหาร อากาศ
อุณหภูมิและสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวที่ทำให้เกิดอาการเครียด การหลั่งสารในร่างกายผิดปกติ ปริมาณโปรแตสเซี่ยมและกลูตาเมทไม่สมดุล ร่างกายไม่สามารถสร้างสารบางอย่างเพิ่อปรับสมดุลของเซลล์ต่างๆ ให้อยู่ในสภาวะปกติได้
- การกินอาหาร จะมีส่วนกระตุ้นให้เกิดอาการไมเกรน เช่น คาเฟอีน น้ำตาล หรืออาหารที่มีส่วน
ประกอบในการเพิ่มรสชาด เช่นโซเดียมไฮโดรเจนกลูทาเมต อาหารหมักดอง หรือผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว สารที่ให้ขบวนการแปรรูปอาหาร เช่น สารไนเตรท ในแหนม ไส้กรอก สารปรับระดับฮอร์โมน เช่น ยาคุมกำเนิด หรือระยะเวลาปวดประจำเดือน หรือช่วงตั้งครรภ์ ระดับของฮอร์โมนจะถูกปรับสูงขึ้น อาจมีผลให้เกิดปวดศรีษtได้
- การพักผ่อนไม่เพียงพอ ทานอาหารไม่พอ ทำงานหนักมากเกินกำลัง ร่างกายแต่ละคนจะรับได้
- อาการร้อนจัด หนาวจัด อยู่ในภาวะอากาศอับชื้น กลิ่นไม่พึงประสงค์ มีฝุ่นละอองมาก กลิ่นเหม็นไป
หอมรุนแรง แดดจัด แสบตา
วัตถุปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ล้วนแต่จะก่อให้เกิดความเครียดต่อร่างกาย กระตุ้นการหลั่งสารผิดปกติให้เกิดขึ้น เลือดสูบฉีดสมองอย่างรวดเร็ว เส้นเลือดในสมองขยายตัวเกินธรรมดา และเกิดแรงต่อต้านเพื่อให้เส้นเลือดยุบตัวลง
แนวทางการดูแลรักษาไมเกรน
การทานยาเพื่อรักษา
ไมเกรน จะเป็นลักษณะการทานเพื่อระงับการปวดศีรษะ ดังนั้นการทานยาจึงเป็นการระงับไม่ใช่การรักษา การทานยาต่อเนื่องจะมีผลต่อตับอ่อนอย่างร้ายแรง อาการอวัยวะภายในอาจเสียหายต่อเนื่องไปเรื่อยๆ บางครั้งจึงจำเป็นต้องพึ่งยาฉีดเข้าเส้นเลือดเพื่อระงับปวด เช่น สเตยรอยด์ หรือ มอร์ฟีน ซึ่งล้วนแต่ยังผลข้างเคียงในอนาคตทั้งสิ้นไมเกรน
ดังนั้นการรักษาในวิธีธรรมชาติจะเป็นหนทางที่ดีในระยะยาว การรักษาโดยการดูแลด้านอาหาร การนวด กดจุดหรือมองหาสถานที่อยู่อาศัย พักผ่อนที่เป็นธรรมชาติ เพื่อลดสถานะการกดดัน จะให้ผลที่ดีกว่า เพราะฉะนั้นการแก้ไขพฤติกรรมโดยรวม จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า