รวมคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับน้ำหอมแบรนด์เนมที่คนไทยและคนทั่วโลกมักนิยมถามกัน
แม้ความรู้เกี่ยวกับน้ำหอมแบรนด์เนมในบ้านเรานั้นยังไม่มีองค์กรภาคบ้านเมืองหรือภาคเอกชนไหน ออกมาให้ความรู้ในเชิงวิชาการกันมากมายซักเท่าไหร่นัก แต่ก็มีผู้หลงรักน้ำหอมมากมายจากทั่วโลกและแม้ในไทยเองได้ออกมาแชร์และแต่งบทความเชิงวิชาการต่างๆมากมาย (ส่วนมากไทยจะแปลมาความรู้เล็กๆน้อยๆเบื้องต้น)
วันนี้เราได้เก็บคำถามเกี่ยวกับน้ำหอม ที่คนทั่วโลกนิยมและมักถามคำถามไปในทางเดียวกันมาให้ค่ะ เผื่อจะเป็นประโยชน์และข้อมูลสำหรับคนรักน้ำหอมแบรนด์เนมในบ้านเรานะคะ
มาดูคำถามแบบคร่าวๆๆกันก่อนค่ะ 10 ข้อ ส่วนคำตอบก็ไปไล่ดูกันด้านล่างๆอีกทีนะคะ
1. ความแตกต่างของ EDP, EDT และ EDC ของน้ำหอมแบรนด์เนมแต่ละรุ่น มันคืออะไร?
(What is the difference between Perfume, Eau de Parfum, Eau de Toilette, and Eau de Cologne?)
2. ทำไมน้ำหอมบางแบรนด์จึงติดทนนานมากกว่าแบรนด์อื่นๆ?
(Why do some fragrances seem to last much longer than others?)
3. ทำอย่างไรให้น้ำหอมติดทนบนตัวฉัน?
(How can I make my scent last longer?)
4. ต้องเก็บน้ำหอมอย่างไรดี ถึงจะอยู่ได้ดีและคงคุณภาพ?
(How can I keep my fragrance from going bad?)
5. อะไรคือความต่างของการแต้มกับการฉีดน้ำหอม?
(What is the difference between a splash and a spray?)
6. ทำไมน้ำหอมแบรนด์เนมต้องใส่แอลกอฮอล์?
(Why does fragrance contain alcohol?)
7. คำว่า Notes ในภาษาน้ำหอมหมายถึงอะไร?
(What do fragrance notes refer to?)
8. ตัวย่อศัพท์ของน้ำหอมต่างๆมีอะไรบ้าง?
(What are the Fragrance Abbreviations?)
9. น้ำหอม Tester คืออะไร?
(What is a tester? )
10. น้ำหอมไม่มีกล่อง No box หรือ unboxed คืออะไร หมายถึงอะไร?
(What does
unboxed
mean?)
และแล้วก็ถึงเวลาตอบคำถามด้านบนกันค่ะ อยากรู้ข้อไหนก็ข้ามไปอ่านกันได้เลยค่ะ
1. ความแตกต่างของ EDP, EDT และ EDC ของ
น้ำหอมแบรนด์เนมแต่ละรุ่น มันคืออะไร? น้ำหอมแบรนด์เนม
(What is the difference between Perfume, Eau de Parfum, Eau de Toilette, and Eau de Cologne?)
ระดับหัวน้ำหอมที่อยู่ในน้ำหอมนั้น มีความเข้มข้นแตกต่างกันไป แล้วแต่สูตรและแต่ละแบรนด์ผู้ผลิต ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องศาสตร์ความหอมและเงินลงทุน บางครั้งจะพบว่า EDT ในบางแบรนด์กลับมีหัวน้ำหอมมากกว่า EDP ของอีกแบรนด์ซะอีกนี่ ทั้งนี้ทั้งนั้น น้ำหอมแต่ละชนิดมีวัตถุดิบหรือองค์ประกอบด้านในที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งหัวน้ำหอมบางชนิดก็แพงมากๆ และบางชนิดก็ถูกมากๆ ยกตัวอย่างอ้วกปลาวาฬ ซึ่งเป็นหัวน้ำหอมที่หาได้ทุมากๆ ต้องรอจากปลาวาฬในท้องทะเลเท่านั้น จึงทำให้กิโกกรัมนึงมีราคาสูงมากเป็นหลักหลายล้านบาท ในขณะที่หัวน้ำหอมอื่นๆอยุ่ที่หลักพันก็มี
ส่วนผสมของน้ำหอม มี 4 องค์ประกอบหลักๆคือ หัวน้ำหอม ,แอลกอฮอล์ ,น้ำ และตัวทำละลาย
EDP คือน้ำหอมที่มีหัวน้ำหอมเข้มข้นระดับ 15-20%
EDT คือน้ำหอมที่มีหัวน้ำหอมเข้มข้นระดับ 5-15%
EDC คือน้ำหอมที่มีหัวน้ำหอมเข้มข้นระดับ 2-4 %
2. ทำไมน้ำหอมบางแบรนด์จึงติดทนนานมากกว่าแบรนด์อื่นๆ?
(Why do some fragrances seem to last much longer than others?)
การที่น้ำหอมจากขวดเดียวกัน ฉีดอีกคนนึงติดทนกว่าคนนึงนั้น เป็นเพราะความแตกต่างทางด้านเคมีของแต่ละคน กรณีผิวแห้งกับผิวมัน (Dry or Oily skin) คนที่มีผิวแห้งนั้นการอุ้มกลิ่นที่ผิวจะน้อยกว่าคนผิวมัน กลิ่นจึงมัวและหายไปไวกว่า กรณีอุณหภูมิร่างกาย ร่างกายแต่ละคนมีอุณหภูมิประจำตัวแต่งต่างกัน บางคนปกติที่ 35 องศา ในขณะที่บางคนปกติที่ 37 องศา ไม่เปลี่ยนแปลงคนที่อุณหภูมิร่างกายสูงกว่า จะมีอัตราเร่งให้น้ำหอมระเหยไปมากว่า น้ำหอมจึงจางไปไวกว่า นอกจากนี้ยังมีเรื่องค่ากรดเบส (pH) ที่ผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนกรดที่ผิวมาก บางคนกรดที่ผิวน้อย และน้ำหอมนั้นทำปฎิกิริยาและส่งกลิ่นในค่า pH ที่แตกต่างกัน เช่นมะลิอาจส่งกลิ่นได้ดีที่ค่า pH หนึ่งๆ ด้วยเหตุนั้นเมื่อมะลิอยู่บนผิวอีกคนอาจส่งกลิ่นน้อยหรือส่งกลิ่นอีกแบบแตกต่างออกไปจากอีกคนนึง
3. ทำอย่างไรให้น้ำหอมติดทนบนตัวฉัน?
(How can I make my scent last longer?)
ตามคำตอบด้านบน ว่าการติดทนขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลด้วย แต่กระนั้นก็ยังพอมีเทคนิคต่างๆที่ช่วยให้น้ำหอมที่เราพอใจติดทนเพิ่มขึ้น เช่น เลือกใช้เจลอาบน้ำหรือโลชั่นน้ำหอมที่มีกลิ่นเดียวกันกับน้ำหอม , ฉีดลงบนเสื้อผ้าหรือผ้าพันคอ , ฉีดลงบนผม , หลังหูหรือคอ ก็จะช่วยให้คุณได้กลิ่นหอมอ่อนๆทั้งวัน
4. ต้องเก็บน้ำหอมอย่างไรดี ถึงจะอยู่ได้ดีและคงคุณภาพ?
(How can I keep my fragrance from going bad?)
น้ำหอ