ในสมัยนี้โรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ มีปรากฏมาอย่างมากมาย และสิ่งที่คนโดยมากจะมองข้าม และไม่ได้รักษาให้ดี ก็จะเป็นในส่วนของข้อเข่าเพราะว่าถ้าบังเกิดอาการปวดเข่า สำหรับบางท่านอาจปล่อยวางไป โดยไม่ได้เยียวยารักษาหรือแค่กินยาแก้ปวด ขณะมีสภาพดีขึ้น ก็ปล่อยปะเพิกเฉยโดยมิได้รับการรักษาที่ถูกวิธีการ หรือสำหรับบางคน ก็อาจจะไม่คิดว่ามันจะอันตรายอะไรมากมายเพราะว่าแค่ปวดเดี๋ยวก็หมดไปเอง แม้ว่ามันจะไม่ใช่อาการเจ็บที่ร้ายแรงแต่ก็เป็นสิ่งที่เราไม่ควรจะมองข้ามนะครับผมเพราะในปัจจุบันนี้ อาการปวดหัวเข่านั้น ไม่ได้เกิดกับเฉพาะแค่ผู้มีอายุอย่างเดียว แต่อาจจะเกิดได้กับวัยรุ่นอีกด้วย โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก หรือพวกนักกีฬา ก็อาจจะมีอาการปวดได้เช่นกัน เพราะเพื่อน ๆ อย่าลืมว่าข้อเข่านั้น เป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่แบกรับน้ำหนักร่างกายของเพื่อน ๆ และหากว่ามีอาการปวดตรงเข่า มันก็จะเป็นสิ่งที่มากวนใจในการใช้ชีวิตประจำวันของเพื่อนๆ ได้ โดยในวันนี้ เราจะมาพูดกันถึงเรื่องของอาการปวดเข่า มันมีมูลเหตุมาจากอะไร และเราสามารถระวังรักษาด้วยตัวเองได้ด้วยวิธีใดบ้าง เพื่อให้เพื่อนฝูงๆ ที่มีปมปัญหาเหล่านี้ สามารถดูแลตัวเองในเบื้องต้นได้อย่างถูกทางครับ
โดยส่วนมากแล้ว เหตุของการปวดเข่านั้น จะสามารถมีขึ้นได้หลายแบบ เรามาดูกันว่ามันมีต้นเหตุหลัก ๆ แล้วมาจากประเด็นอะไรบ้าง
สาเหตุที่ 1. เกิดจากอาการเสื่อมของลูกสะบ้า เนื่องมาจากมีการทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยออกกำลังข้อเข่ามากเกินไป จึงเป็นเหตุให้กระดูกอ่อนของลูกสะบ้านั้นเสื่อม
สาเหตุที่ 2. เกิดได้จากการเล่นกีฬาหรือบริหารร่างกายสำหรับผู้ที่ได้รับแรงชนอย่างรุนแรง ทำให้มีผลต่อข้อเข่าแพลงหรือว่าเกิดจากเอ็นนั้นมีการชนจนฉีกขาด
สาเหตุที่ 3. เกิดจากอาการของข้อเข่านั้นเสื่อม และเกิดในตอนหลังจากที่เป็นโรคเกี่ยวกับข้ออักเสบ ตัวอย่างเช่นโรครูมาตอยด์ หรือว่าโรคเก๊าท์ เป็นต้น รวมไปถึงอายุที่เพิ่มมากขึ้น ก็จะสามารถข้อเข่าเสื่อมได้ โดยส่วนมากจะพบมากในวัยกลางคน โดยเฉพาะเพศหญิงหรือคนชรา อาจจะมีปัจจัยในการใช้ชีวิตเข้ามาสัมพันธ์ด้วย อย่างเช่น การท่องเที่ยวไกล ๆ การเดินหรือยืนนาน ๆ รวมไปถึงคนที่มีน้ำหนักตัวเยอะก็จะสามารถเป็นได้ โดยอาการมักจะเป็น ๆ หาย ๆ
สาเหตุที่ 4. เกิดจากปุ่มกระดูกหน้าแข้งปรากฏอาการอักเสบ โดยส่วนมากจะเกิดกับเด็กวัยรุ่น ที่อาจจะมีการเติบโตของกระดูกบริเวณหัวเข่าเร็วผิดปกติ โดยเมื่อกดจะรู้สึกเจ็บและถ้าหากออกกำลังกายจะรู้สึกปวดเข่ามากขึ้นได้ เมื่อพัก จะทำให้อาการปวดนั้นลดลงได้ และโดยส่วนมากจะสามารถหายเองได้ เมื่อโตหรือไม่ก็มีอายุมากขึ้น
สาเหตุที่ 5. เกิดจากกระดูกสะบ้าเคลื่อน โดยมากแล้วจะพบได้ในเด็ก โดยอาจจะเกิดจากอุบัติเหตุ หรือว่าเกิดจากความผิดปกติเพราะกระดูกสะบ้าตั้งแต่ตอนเกิดและจะสังเกตได้จากการงอเข่า จะมองเห็นการเคลื่อนของกระดูกสะบ้า และจะทำให้เกิดอาการเจ็บปวดขึ้นมา
สาเหตุที่ 6. เกิดจากการบาดเจ็บแถวกระดูกอ่อนข้อเข่า เกิดจากการปะทะในขณะที่งอเข่าอยู่ จะทำให้เกิดอาการปวดและบวมขึ้นมา ผู้ที่เป็นนั้นจะไม่สามารถงอหัวเข่าได้เต็มที่ หรือเหยียดข้อเข่าได้เต็มที่
ต่อไปเราจะมาดูถึงเรื่องของวิธีการรักษาพยาบาลอาการปวดเข่าเบื้องต้นด้วยตนเองกันครับ
วิธีที่ 1. ถ้าเราเริ่มรู้สึกว่ามีอาการปวดบริเวณเข่า ให้พยายามหยุดพักการใช้ข้อเข่า ตัวอย่างเช่นการเล่นกีฬา เมื่อมีอาการปวดอาจจะใช้ผ้ายืดมาพันบริเวณที่ปวดไว้ และไม่ควรปฏิบัติกิจกรรมที่ก่อให้บังเกิดอาการปวดจวบจนจะรู้สึกว่าดีขึ้น
วิธีที่ 2. หากมีอาการปวดข้อเข่า ให้ใช้ยานวด หรือว่าประคบด้วยความร้อน อาทิเช่นการนำผ้าขุนหนูมาชุบน้ำอุ่น และเอาไปประคบบริเวณที่ปวดและทำการขยับแถวข้อเข่าเบา ๆ
วิธีที่ 3. ไม่ควรย่ำเดินหรือยืนนาน ๆ เพราะว่าข้อเข่านั้นจะต้องรับน.น.ตัวของเราตลอดเวลา และอาจจะทำให้มีอาการปวดเข่ามากขึ้นได้
วิธีที่ 4. ถ้าเกิดอาการปวด สามารถทานยาเพื่อช่วยในการทุเลาอาการปวดได้ อาทิเช่นพวกยาพาราเซตตามอล ยาคลายกล้ามเนื้อ หรือว่ายาแก้ปวดที่ลดการอักเสบได้เหมือนกัน แต่ต้องไม่ใช่ยารักษาโรคที่เป็นพวกสเตียรอยด์นะครับ
วิธีที่ 5. ถ้าเกิดว่าอาการปวดเบาลงแล้ว ให้ทำการบริหารข้อหัวเข่าและทำการบริหารกล้ามเนื้อบริเวณรอบเข่า
วิธีที่ 6. ถ้าทำการดูแลตนเองตามที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดแล้ว อาการ
ปวดเข่ายังไม่ดีขึ้นภายใน 3-5 วัน และสำหรับบางท่าน อาจจะมีอาการปวดมากขึ้น แนะนำให้ไปปรึกษาหารือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางกระดูกและข้อ เพื่อที่เราจะได้รับการรักษาได้อย่างเหมาะควร และถูกวิธีการก่อนที่อาการอาจจะลามไปมากกว่านี้ โดยในการักษานั้น อาจจะใข้ระยะเวลานาน เพราะฉะนั้นการปรึกษาคุณหมอเฉพาะทางน่าจะเป็นทางแก้ที่ดีที่สุดนะครับปวดเข่า