สถานที่ที่ให้พลัง
คือสถานที่ในโลกนี้มีมากมาย บางแห่งเมื่อเข้าไปแล้วก็เกิดความเคร่งเครียด ความทุกข์เข็ญ และดูดพลังชีวิตของเราให้มีลดน้อยลง มีสถานที่เพียงไม่กี่แห่งในโลกนี้ที่ให้พลังเราได้
แต่ละคนก็อาจจะมีสถานที่ที่ให้พลังตัวเองที่แตกต่างกันไปแต่วันนี้ผมจะขอนำเสนอสถานที่ที่ให้พลังแก่คนดีได้และถ้ามีโอกาสอยู่ในสถานที่แบบนี้บ่อยๆและนานๆจะทำให้เรามีพลังชีวิตที่เพิ่มมากขึ้น สามารถทำให้เราต่อสู้กับปัญหาต่างๆในชีวิตได้สำเร็จและทำงานที่ยากได้ สิ่งที่นำเสนอต่อไปนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของผมเองนะครับแต่พวกเราน่าจะนำไปใช้ได้ มีดังนี้คือ
1. บนภูที่มีต้นไม้ร่มรื่น มีลมโชยเสมอ ไม่ต้องสูงมากแต่เป็นทำเลที่เงียบสงบ ให้ไปนั่งสบายๆอยู่บนเขาแบบนี้ หรือทำสมาธิ อย่าไปกับคนหมู่มาก เน็กซ์เดย์ไปเพียง 2-3 คนก็พอ ให้มองดูทัศนียภาพข้างล่าง เดินจงกรมด้วยก็ดี จะมีพลังเข้ามาในตัวเรา เราจะรู้สึกว่าร่างกายแข็งแรงขึ้น ลืมความทุกข์ทรมาน มีความสบาย จิตใจจะเบิกบานแจ่มใส สมองปลอดโปร่ง
2. อยู่ใกล้แม่น้ำ ยิ่งเป็นแม่นำ้ขนาดใหญ่ เช่นแม่นำ้เจ้าพระยา แม่นำ้โขง
แม่นำ้มูล หรือแม่นำ้ตาปีจะยิ่งดี ดูกระแสนำ้ไหลไปเรื่อยๆ จะทำให้ใจเรานิ่งเกิดสมาธิ กำหนดใจไว้ที่กระแสน้ำที่กำลังไหล สักพักหนึ่งเราจะคิดสิ่งดีดีออกได้และแก้คำถามได้ แต่อย่านั่งติดกันกับตลิ่งที่สูงชันเพราะอาจจะพลัดตกนำ้ได้นะครับ ให้นั่งใกล้แม่นำ้แต่อย่าติดกับริมตลิ่งครับและหาเพื่อนไปด้วยสัก 1-2 คน เน็กซ์เดย์อย่าไปคนเดียวนะครับ
3. ในถ้ำบางสถานที่ที่มีสภาพอากาศถ่ายเทได้ดี มีความสว่างพอประมาณ ไม่มืดเกินไปและไม่สูงเกินไป มีอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งวัน ให้ไปอยู่ในถ้าแบบนี้อย่างน้อยสัก 2 ชั่วโมง จะเป็นถ้ำที่อยู่ในบริเวณวัดหรือไม่ก็ได้แต่ไม่ใช่ที่เปลี่ยวจนเกินไปคือว่าพอมีคนอยู่บ้าง จะทำให้เราได้รับพลังจากธรรมชาติที่บริสุทธิ์
4. การนั่งใกล้น้ำตกขนาดกลางและขนาดใหญ่เป็นระยะเวลานานๆสัก 2-3 ชั่วโมง นั่งนิ่งๆ หรือทำสมาธิไปด้วยก็ดี จะทำให้เราได้รับพลังเพิ่มจากธรรมชาติเช่นกัน เน็กซ์เดย์แต่อย่าเสียสมาธิไปกับการแอบมองสาวๆ หรือหนุ่มๆ ที่มาเล่นน้ำตกนะครับ
5. การนั่งในสวนดอกไม้หรือในสวนผลไม้ที่มีต้นไม้มากๆ ให้ความร่มรื่่นแก่เรา
ในช่วงเวลากลางวัน จะทำให้ปอดของเราได้รับออกซิเจนเพิ่มมากขึ้น มีความสุข สมองหลั่งสารเอนดอฟินทำให้การคิดของเรามีประุสิทธิภาพสูงแต่อย่าไปนั่งเวลากลางคืนนะครับ
6. การนั่งในโบสถ์ต่อหน้าพระประธานในวัดที่เราศรัทธา นั่งนานๆหลายชั่วโมง ทำสมาธิ มองพระพักตร์พระประธานในโบสถ์ไปด้วยจะทำให้จิตของเราสงบเงียบเกิดสมาธิ คิดแก้คำถามที่ยากๆได้
7. การนั่งในห้องพระที่บ้านเราคนเดียวเงียบๆ ทำจิตใจให้สงบ ฝึกสมาธิ นั่งนิ่งๆไม่สวดมนตร์ ไม่คุยกับใคร ไม่เปิดเพลง ไม่เปิดเทปธรรมะของพระอาจารย์องค์ไหนทั้งหมด กำหนดสติไว้ที่ลมหายใจเข้า-ออก เน็กซ์เดย์จะเกิดปัญญาและ
ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในสิ่งที่ดีดีได้นะครับ
อาจจักมีที่อื่นๆอีกที่ให้พลังชีวิตแก่เรามากกว่าที่ผมบอกมาทั้ง 7 ข้อนี้ก็ได้แต่สำหรับ 7 ข้อนี้เป็นสถานที่ที่ให้พลังชีวิตแก่เราได้จริงๆ
สิ่งดีดีจากบรรพบุรุษ
คือผมเห็นว่าการที่เราเกิดมาบนแผ่นดินไทยนั้นไม่ใช่เรื่องเผอิญแต่เป็นเรื่องที่ถูกลิขิตมาแล้วจากกฏเกณฑ์ของธรรมชาติที่เรามองไม่เห็นแต่มีอยู่จริง ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ผมมองเห็นสิ่งดีดีหลายอย่างในสังคมไทยในสมัยก่อนซึ่งมาจากบรรพชนไทยมากมายแต่เป็นสิ่งที่หายไปในสังคมปัจจุบันหรือเหลือน้อยเต็มที เราควรช่วยกันอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งดีดีเหล่านี้ให้มีมากขึ้นเพราะทำให้คนไทยอยู่เย็นเป็นสุข มีดังนี้คือ
1. ความเคียงคู่กับพระพุทธศาสนาคือคนไทยในอดีตนั้นจะเข้าวัดฟังธรรมทุกวันพระ และปฏิบัติตัวตามคำสอนในพระพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัดทำให้มีจิตใจที่มีเมตตากรุณา โอบอ้อมอารีต่อผู้อื่นแต่คนไทยในสมัยนี้นั้นไม่สนใจว่าวันไหนเป็นวันพระและไม่เข้าใจความหมายของวันพระ ห่างพระพุทธศาสนา ไม่สนใจการฟังธรรมและการปฏิบัติธรรม
เน็กซ์เดย์ขาดความเอื้อเฟื้อและไม่มีความโอบอ้อมอารีต่อผู้อื่น เป็นแบบตัวใครตัวมันยังกะสังคมตะวันตก เน็กซ์เดย์
2. การกินอาหาร คืออาหารไทยดั้งเดิมนั้นมีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก เช่นนำ้พริกปลาทู ต้มยำกุ้ง แกงส้ม ต้มโคล้งปลากรอบ ผักต้มชนิดต่างๆ เป็นต้น แต่คนไทยในช่วงปัจจุบันส่วนมากเปลี่ยนไป คือหันไปนิยมอาหารการกินชาติอื่นโดยเฉพาะชาติตะวันตกหรือฟาสต์ฟู้ด ทำให้ขาดสารอาหารที่สำคัญและไม่ถูกต้องตามหลักโภชนาการคือรับประทานผักน้อยลงแต่กินเนื้อสัตว์เพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดโรคต่างๆตามมา เช่นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และมักนิยมทานนำ้อัดลมหรือเครื่องดื่มที่มีรสหวานแทนการดื่มนำ้เปล่า ทำให้
