หลายคนโดยมากจะเคยรู้เกี่ยวกับเรื่องของ
โรคเบาหวาน มากันออกจะมาก เพราะ ถือได้ว่าโรคประเภทนี้เป็นโรคยอดฮิตประเภทต้นๆที่คนไทยมักเป็นกันเลย แม้ว่าคนที่เป็นโรคนี้อาจจะไม่ได้เป็นรุนแรงถึงกับชีวิต แต่อาการแทรกซ้อนต่างๆที่เกิดจากโรคนี้ อาจจะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็ได้ เราคงเคยรู้กันมาบ้างว่า มีหลายคนตาบอด เสียอวัยวะ ต้องตัดแขน ตัดขา เพราะที่มามาจากโรคจำพวกนี้ หลายคนคิดว่า เจ้าโรคนี้ค่อนข้างไกลห่างจากตัวเรามาก เนื่องจากตัวเราอายุยังน้อย อีกทั้งก็เป็นคนที่ไม่ชอบรับประทานหวานอยู่แล้ว จึงไม่น่าจะเป็นกลุ่มเสี่ยง ซึ่งในความเป็นจริงแม้ว่า เบาหวาน จะเกี่ยวข้องกับระดับน้ำตาลในโลหิตโดยตรง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คนที่ไม่ทานหวานจะไม่มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคนี้ ดังนั้นแล้ว เพื่อการปฏิบัติตนที่ตรง การปกป้องรักษาอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากโรคกลุ่มนี้ ในวันนี้เราจึงมาพูดให้ฟังและทำความรู้จักเกี่ยวกับ เบาหวาน ให้มากยิ่งขึ้นครับ ไม่แน่ว่า เรื่องราวต่างๆที่คุณเคยได้ยินมา อาจจะเป็นเรื่องหลงผิดก็เป็นได้อย่างที่เราพอทราบข้อมูลกันมาบ้างแล้วว่า โรคเบาหวาน เกิดจากความผิดปกติของร่างกาย ที่ไม่สามารถผลิตอินซูลิน ได้พอต่อความประสงค์ ตัวอินซูลินนี่เองเป็นตัวกำกับระดับน้ำตาลในโลหิต เมื่อเกิดอาการเพี้ยน ผลิตได้ไม่เพียงพอแล้ว จึงทำให้ ระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากเกินดี เมื่อมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากมาย และร่างกายผลิตอินซูลินมา ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ก็จะทำให้ ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้ได้อย่างมีความสามารถสูงสุดนั่นเอง หลังจากนั้น เมื่อมีน้ำตาลในเลือดปริมาณมาก ก็จะส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานอื่นๆในร่างกาย และจะไปทำลายหลอดเลือดด้วย ซึ่ง แม้ว่าตัว เบาหวานเอง จะเป็นเพียงเรื่องของ น้ำตาลในเลือดสูงมากเกินดี แต่ผลที่ตามมาก็คือ ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาหลอดเลือดหัวใจ การติดเชื้อง่าย ร่างกายซูบผอม ฯลฯ เพราะฉะนั้นแล้ว หากว่าไม่รักษาอาการเบาหวานอย่างถูกต้อง ก็มีความเสี่ยงสูงต่อโรคภัยต่างๆที่จะตามมาครับรับทราบหรือไม่ครับว่า เรามีพลเมืองมากกว่า 300 ล้านคนเป็น โรคเบาหวาน และส่วนมากร้อยละ 80 เป็นชาวเอเชียอีกด้วย ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงมี วันเบาหวานโลก โดยกำหนดให้เป็นวันที่ 14 พฤศจิกายน รายปีนั่นเอง เพื่อที่จะให้คนทั้งโลกเห็นความสำคัญและผลร้ายของโรคชนิดนี้ และเป็นการรณรงค์เพื่อปกป้องรักษากัน อีกด้วยหลายคนอาจจะยังไม่มีความทราบเกี่ยวกับเรื่องของ เบาหวานและอินซูลิน กันสักเท่าใดนัก อ่านตอนแรกๆอาจจะดูฉงน<span style=
line-height: 1.42857;
>นะครับ แต่ เราลองมาทำความรู้ความเข้าใจกันอย่างรอบคอบดีกว่า โดย อินซูลินเอง เป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่ง ที่ถูกรังสรรค์โดยตับอ่อน โดยฮอร์โมนในร่างกายแต่ละตัวก็มีหน้าที่ผิดแผกแตกต่างกันไป ซึ่งเจ้าอินซูลินนี่เอง มีหน้าที่ ในการนำน้ำตาลในโลหิตไปหล่อเลี้ยงส่วนแตกต่างๆของร่างกาย สามารถเรียกได้ว่า ผู้จัดการน้ำตาล เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าน้ำตาลจะไปให้แรงงานกับส่วนไหนของร่างกาย อินซูลินจะเป็นผู้บริหารจัดการครับ เมื่อเกิดภาวะ เบาหวาน ก็จะทำให้ร่างกายผลิตอินซูลิน ได้น้อยลง และไม่พอต่อการกำกับจัดการน้ำตาลในร่างกายนั่นเอง เมื่อไม่มีการกำกับบริหารจัดการแล้ว ก็จะทำให้ปริมาณน้ำตาลในเลือดเสริมเติมมากขึ้น โดยไม่สามารถนำไปใช้ในส่วนอื่นๆของร่างกายได้นั่นเอง</span>โรคเบาหวาน ในสมัยนี้แบ่งออกเป็นสองชนิด ที่ไม่ว่าประเภทใดก็ส่งผลกระทบต่อร่างกายอยู่ที่ว่ามากหรือน้อยโดย เบาหวานชนิดที่ 1 ถือได้ว่า อันตรายเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ก็เพราะว่า เบาหวานกลุ่มนี้ เกิดจาก ภูมิต้านทานของตัวเรา ไปทำลายเซลล์ที่มีการทำงานสร้างอินซูลิน ซึ่งเกิดจากปัจจัยของร่างกายเราเอง ที่ไปทำลายเซลล์ จนไม่สามารถผลิตอินซูลินได้ หรือสามารถกำเนิดได้ในปริมาณที่เล็กน้อย และหากว่าเรามีอาการเบาหวานชนิดนี้สาหัส ก็จะหลั่งสารชนิดหนึ่งออกมาเป็นส่วนมาก เราเรียกสารนี้ว่า คีโตน ซึ่งเป็นสารพิษต่อระบบประสาทในร่างกายเป็นอย่างสูง หากหลั่งมากก็อาจทำให้เกิดอาการหมดสติ หรือเลวร้ายที่สุดก็คือ เสียชีวิตได้ คนเป็นเบาหวานประเภทนี้ถือได้ว่า อันตรายมาก และจะต้องมีการฉีดอินซูลิน เข้าไปในร่างกายสม่ำเสมอ เพราะไม่สามารถผลิตได้เอง แต่เราต้องควบคุมน้ำตาลในเลือด นั่นเองเพราะว่า โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นเบาหวานที่คนโดยมากเป็นกันครับ เรามักจะเข้าใจว่า มูลเหตุจากคนที่กินอาหารหวานมากๆ เลยเป็นเบาหวาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว การรับประทานหวานไม่ได้เป็นสาเหตุในการเกิดครับ เพียงแต่ว่า เมื่อเป็นแล้ว การทานหวานจะทำให้อาการแย่ลงนั่นเอง ซึ่งอันที่จริงแล้ว เบาหวานประเภทนี้ สาเหตุของการเกิด ก็ยังไม่กระจ่างครับ คือ เราก็ไม่รู้แน่นอนร้โรคเบาหวาน