เนื่องจากว่าพี่สาวของเราเข้าทำงานที่บริษัทรับจัดอีเวนท์ และเมื่อมีกิจกรรมออกบูธ เราก็จะมีหน้าที่ช่วยพี่สาวมองหา
ของพรีเมี่ยมไปแจกให้ลูกค้าในงาน บางงานอาจจะมีสั่งที่ติดตู้เย็น พัดพลาสติก ถุงผ้าสปันบอนด์ สินค้าที่สั่งเรื่อยๆหน่อยก็จะเป็นปากกาพลาสติกที่เป็นสีๆ เพราะราคาถูก และมีให้เลือกซื้อมากมาย หาสินค้าได้ง่าย ทำหน้าที่มาเรื่อยๆก็ไม่เคยประสบอุปสรรคอะไรมากมายให้ปวดหัว อย่างมากอาจจะมีที่ผลิตภัณฑ์มาส่งช้าบ้างพอให้รู้สึกตื่นเต้น แต่อยู่มาวันนึงก็เกิดปัญหาเกี่ยวกับของพรีเมี่ยมที่สั่งมาอย่างที่ไม่เคยเจอะมาก่อนและบอกเลยว่าของพรีเมี่ยมที่ทางลูกค้าต้องการนั้นจำเป็นสั่งนำเข้าอย่างเดียว ไม่ได้มีสินค้าในเมืองไทย งานนี้เป็นงานของบริษัทรถยี่ห้อดัง ลูกค้าอยากสั่งแฟรชไดร์จำนวนเกือบสี่ร้อยอัน แต่ด้วยความที่เราไม่เคยหาของพรีเมี่ยมในประเภทนี้มาก่อน ก็เลยลองเลือกสรรข้อมูลในอินเตอร์เน็ทดู เห็นหลายๆบริษัทที่มีสินค้า ก็ขอราคาไปประมาณ 5-6 ที่ พบอยู่ที่นึงที่ราคาย่อมเยามาก (ราวๆร้อยกว่าบาท) เราก็สั่งกับเจ้านี้เลย เพราะราคามันถูกกว่าที่อื่น ก็สั่งสินค้าและจ่ายเงินมัดจำ ผ่านไปประมาณ 27 วันก็ได้สินค้า และดูเหมือนจะไม่มีอะไรจนกระทั่งเมื่องานจบไปแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ เจ๊ก็ไลน์มาบอกแต่เช้าว่า “ลูกค้าโทรศัพท์มาแจ้งว่าของที่สั่งมามันชำรุด จะขอส่งเคลม” เราก็ใจเสียและ เลยรีบต่อโทรศัพท์ไปถามคนขายว่าเราขอเคลมสินค้าได้หรือไม่ คำตอบคือ”ไม่ได้ ซื้อแล้วซื้อเลยค่ะ เพราะสินค้าราคามันถูกอยู่แล้ว” เอ้อ ผิดเองที่ซื้อของถูก เรื่องเลยจบลงที่ พี่สาวต้องออกใบเสร็จรับเงินทำส่วนลดให้ลูกค้าไปตามค่าสินค้าที่เสีย และหลังจากนั้นดิฉันก็เจอเคสสินค้าที่ต้องสั่งนำเข้าอีกราวๆ 2-3 เคสและมีอุปสรรคทุกเคส เริ่มจากสั่งแบตเตอรี่สำรองแล้วสินค้ามาผิดสี โดนลูกค้าว่ากันไปตามระเบียบและไม่สามารถขอเปลี่ยนเคลมได้ สั่งสมุดแล้วลังขาดไม่สามารถขอเปลี่ยนกล่องใหม่ได้ ต้องสั่งกล่องเพิ่มเอง กำไรหด ฯลฯ จากประสบการณ์ความเจ็บเหล่านี้ดิฉันเลยเริ่มมีสติและระวังระไวมากขึ้นในการสั่งซื้อของพรีเมี่ยม และวันนี้จะมาแบ่งปันให้ฟังดังต่อไปนี้ค่ะข้อแรก ติดต่อสอบถามทางคนขายเลยว่าสินค้าสามารถเคลมได้ไหม ถ้าไม่ได้ดิฉันจะไม่ซื้อเป็นอันขาด แม้ว่าราคาจะถูกแค่ไหนก็ต้องหักใจ ยกเว้นของพรีเมี่ยมที่ราคาไม่แพงและให้แล้วแจกเลย ก็จะไม่คิดมาก แต่ถ้าเป็นของพรีเมี่ยมที่มีมูลค่าหน่อย จะไม่ซื้อแน่นอน เพราะไม่อยากมาช้ำใจทีหลัง เพราะนอกจากโดนลูกค้าตำหนิ แล้วยังเสียความน่าเชื่อถือบริษัทอีก มันไม่คุ้มกันเลยข้อสอง สอบถามกับทางคนขายว่าสินค้ามีรับประกันไหม ในกรณีที่เป็นของพรีเมี่ยมไอที เช่น แฟรชไดร์หรือพวก แบตเตอรี่สำรอง เนื่องจากดิฉันเจอะเจอคนขายที่เค้านำเข้าสินค้าจากเมืองจีนมานับสิบปี สินค้ามีคุณภาพที่ดีมาก แถมรับประกันสินค้าด้วยตั้ง 1 ปี ถือว่าดีงามสุดๆ (แต่กว่าจะเจอก็ป่วยมาเยอะค่ะ)ข้อสาม การที่เราจะเจอคนจำหน่ายสินค้าที่เชื่อใจได้และสินค้ามีคุณภาพพร้อมรับประกันนั้น เราจำเป็นลงทุนสักนิดนึงจ้ะ ลองค้นหาในอินเตอร์เน็ทนี่ล่ะ และลองโทรศัพท์ไปสัก 10-20 ที่ (มากไปไหม แต่คุ้มนะ) ถ้าทางคนขายมีเว็บไซต์ มีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อแน่ชัด มีชื่อร้าน มีที่อยู่ด้วยจะยิ่งน่าไว้วางใจค่ะ ต้องลองค้นหาข้อมูลดีๆและพูดคุยกันให้เคลียร์ เราขอเป็นกำลังให้ทุกคนที่ทำการทำงานแบบเดียวกับเรานะคะ อยากแนะนำเพิ่มเติมยังไงคอมเม้นท์มาได้ค่ะ เรารอฟังค่ะของพรีเมี่ยม