ก่อนที่จะรู้จักการ
หาครูสอนพิเศษที่บ้านเรามาทำความรู้จักกับคำว่าการเรียนพิเศษก่อนเลยดีกว่า การเรียนพิเศษนั้นปรากฏมานมนานหลายสิบปีเเล้วซึ่งการเรียนพิเศษในสมัยบิดาม้าของเราจักหมายถึงการเรียนพิเศษหลังเลิกเรียนหรือช่วงพักเที่ยงที่โรงเรียนซึ่งเด็กที่ต้องเรียนพิเศษนั้นเป็นเด็กที่อาจารย์พิจารณาเเล้วว่าเรียนในห้องเรียนอ่อนในวิชานั้นๆ แล้วจึงบังคับให้ต้องเรียนพิเศษเเละโดยมากจะเป็นการเรียนที่ฟรีไม่เสียรายจ่าย สำหรับบางกรณีที่ทางบ้านของนักเรียนมีฐานะหน่อยก็อาจหาครูสอนพิเศษที่บ้านซึ่งเป็นการจ้างคุณครูเป็นครั้งๆหรือเป็นเดือนๆเเล้วเเต่จะทำความตกลงกัน ซึ่งคนที่เรียนพิเศษในช่วงเวลานั้นนับเป็นคนไม่ฉลาดเท่าใดด้วยเหตุว่าคนฉลาดคนพากเพียรเขาเรียนรู้เรื่องในห้องเรียนเเล้วไม่ต้องมานั่งเสียเวลาเรียนเเล้วเรียนอีกเอาเวลาว่างช่วงเวลาพักกลางวัน หลังเลิกเรียนหรือวันหยุด ไปคลายเครียดเล่นกีฬาต่างๆ ซึ่งแตกต่างช่วงเวลานี้โดยสิ้นเชิง เพราะว่าสภาวะสังคมในปัจจุบันที่เป็นระบอบทุนนิยมมือใครยาวสาวได้สาวเอาซึ่งเป็นสังคมที่มีการเเข่งขันที่สูงมากในทุกๆด้าน รวมไปถึงด้านการศึกษาด้วยซึ่งมีการเเข่งขันกันที่สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นการสอบเข้าตามสถานศึกษาหรือมหาวิทยาลัยต่างๆไม่เว้นแม้แต่การเเข่งขันกันในห้องเรียน เเละเป็นการเเข่งขันที่มีกันทุกเกรดตั้งเเต่ระดับชั้นเตรียมประถมจึงถึงระดับอุดมศึกษาด้วยเหตุนี้จึงเป็นเหตุให้คนจำนวนมากที่อยู่ในวงจรการเเข่งขันนี้ต้องดิ้นรนมุมานะเพื่อความอยู่รอดซึ่งจำเป็นจะต้องมีความฉลาดได้เปรียบคนอื่นๆนั้นคือการเรียนพิเศษนั้นเอง จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าในยุคปัจจุบันคนที่เรียนพิเศษตามสถาบันหรือหาครูสอนพิเศษที่บ้านนั้นไม่ใช่คนโง้หรือขี้คร้านอีกต่อไปเเต่กลับกลายเป็นคนพากเพียรคนฉลาดเเละถ้าหากเป็นคนบ้านมีฐานะก็จะหาครูสอนพิเศษที่บ้านคนโง้หรือคนขี้เกียจขี้คร้านกลับไม่เรียนพิเศษกลับไปเล่นกีฬาพักผ่อนหาความเบิกบานใส่ตนจากที่เอื้อนมาเป็นเหตุให้สังคมเริ่มเกิดคำถามว่าสิ่งที่เป็นอยู่นั้นถูกต้องเเล้วหรือก็มีมากคำถามเเละมากคำตอบบ้างก็ว่า จักเรียนพิเศษที่สถาบันหรือจะหาครูสอนพิเศษที่บ้านมันก็เป็นเรื่องของเขาที่จะทำให้ลูกหลานของเขา บ้างก็ว่าระบบการเรียนพิเศษที่สถาบันหรือจะหาครูสอนพิเศษที่บ้านเป็นสิ่งที่ผิดเลวร้ายต้องรีบหาทางเเก้ไขอย่างเร็ว ซึ่งต่างคนก็ต่างมุมมองเเต่โดยทรรศนะส่วนตัวของคนเขียนเเล้วการเรียนพิเศษที่สถาบันหรือจะหาครูสอนพิเศษที่บ้านนับว่ายังเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับคนส่วนใหญ่ไม่ใช่ว่าผู้เขียนสนับสนุนให้เรียนพิเศษที่สถาบันหรือจะหาครูสอนพิเศษที่บ้านเเต่ด้วยระบบการศึกษาของรัฐเราเอื้อต่อการให้คนไปเรียนพิเศษซึ่งถ้าจะเเก้ไขก็จำต้องรื้อโครงสร้างระบบการศึกษากันใหม่ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีเเต่คงจะจำเป็นต้องใช้เวลาหลาย10ปีเนื่องมาจากกว่าระบบจะเป็นอย่างนี้ได้ยังใช้เวลาตั้งหลายสิบปี โดยเหตุนั้นหากจะเเก้ไขก็คงจะต้องใช้เวลานานกว่าหาครูสอนพิเศษที่บ้าน