ผู้เขียน หัวข้อ: คอลลาเจน collagen ผิว ความงดงาม กระดูกและข้อต่อ เกี่ยวกันอย่างไร  (อ่าน 479 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ AnnaFraser22

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,132
  • พอยท์: 0
    • ดูรายละเอียด
 collagen ผิว ความงาม กระดูกและข้อต่อ เกี่ยวกันอย่างไร     ข้อต่อ กระดูกและคอลลาเจน collagen มันเกี่ยวกันอย่างไร เวลาคนพูดถึงมักจะพูดถึงผิว ความงามเป็นหลัก แต่เรื่องของกระดูกจะช่วยได้อย่างไร สมมติกินไปจะช่วยได้อย่างไร ถ้าบริโภคไปร้อยแล้วเราจะได้ร้อยหรือไม่ เวลาเราเล่นกีฬาอายุยังน้อยก็มีเสียงตรงเข่ากระดูกจะมี จริง ๆ แล้วก็แปลกปัญหาเรื่องกระดูกน่าจะมีตอนอายุมากแล้วสิ เราไปหาคำเฉลยกัน     เรื่องกระดูกและข้อต่อเป็นคำถามมากสำหรับผู้สูงอายุเลยก็ว่าได้ แต่คนอายุตั้งแต่ 35ปีขึ้นไปก็สามารถมีโจทย์กระดูกได้เหมือนกัน ส่วนมากคนมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกเป็นได้พบได้เรื่องของกระดูกพรุน กระดูกบางในกรณีผู้สูงอายุ รวมทั้งเรื่องของการเกิดสภาพเรื่องของข้อเข่าเสื่อม การเสื่อมของแถวกระดูกสันหลัง หรือตามข้อต่อต่าง ๆ แต่เดี๋ยว สูงอายุนี่บางทีอาจจะรู้ความหมายว่า 60 หรือ 70 ปี แต่ในทางการแพทย์เริ่มมีความโทรมหลังจากอายุ 30-35 ปีก็จะมีโครงสร้างของร่างการเปลี่ยน เปลี่ยนแปลงในทางที่เริ่มจะเสื่อมถอย ใช้งานได้เบาบางในกรณีของผู้สูงอายุจะพบเรื่องของความเสียหายที่มากพอ ๆ กับอายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะกระดูกสันหลังเสื่อม นอกจากนั้นยังมีความเสื่อมของข้อต่อต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น ข้อเข่าเสื่อม พบว่ามีลักษณะของขาโก่งเสียรูปไปทำให้มีการลงน้ำหนักที่จุดใดจุดหนึ่งมากกว่าปกติ พออายุเรามากขึ้นบางทีความหนักเบาตัวอาจจะมากขึ้นไปด้วย ขาดการออกแรงกาย ซึ่งทำให้ขาเริ่มมีการผิดรูปไปทีละน้อยๆ      เราอยู่ด้วยกันทุกวันจนไม่ทันสังเกตว่าเริ่มมีการผันแปรโครงสร้างของกระดูก ระหว่างกระดูกแต่ละปล้องจะมีเนื้อเยื่ออยู่ด้วย  กระดูกสันหลังจะประกอบไปด้วยกระดูกแต่ละปล้องมาเรียงต่อกัน ระหว่างกระดูกแต่ละข้อจะเป็นหมอนรองกระดูก ความเสื่อมพบได้หมดตั้งแต่หมอนรองกระดูกสันหลังหมดสภาพเองหรือว่ากายกระดูกเสื่อม กระดูสันหลังเสื่อมสาเหตุของความเสื่อมเกิดจากส่วนผสมที่เป็นน้ำมันลดลงไปทำให้ความยืดหยุ่นมันเสียไป ในวัยคนหนุ่มสาวความยืดหยุ่นยังดีอยู่การกดคลึงตัวของหมอนรองกระดูกสันหลังยังดีอยู่ก็ไม่ค่อยมีปัญหาแต่พอหลังอายุ 35-40 ปีไปแล้วส่วนประกอบที่เป็นน้ำมันลดลงไปทำให้ความยืดหยุ่น การคลึงตัวมันเสียไป สิ่งสำคัญที่สุดคืออย่าให้ความหนักเบาตัวเยอะเพราะส่วนที่รับน้ำหนักที่สุดคือกระดูกสันหลัง หมอนรองกระดูกสันหลังเป็นใจกลางที่รับภาระหนักที่สุด วิธีการดูแลตัวเองสิ่งที่สำคัญคือการออกกำลังกายเพื่อไม่ให้น้ำหนักตัวเรามากมายจนเกินไป มีการบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องกล้ามเนื้อหลัง การทำงานนั่งอยู่หน้าจอที่ต้องอยู่กับที่ไม่มีการเคลื่อนทำให้กระดูกโดนกดทับถึงจะอยู่นิ่ง ๆ แต่กล้ามมีการหดเกร็งตัว นานเข้าก็จะปวดตัวปวดหลังปวดไหล่ ปวดสะบัก ทำแต่ถ้าเรามีการเลื่อนตัว มีการเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อจะมาการหดเกร็งตัวพร้อม ๆ กับการคล้ายตัวมีการทำหน้าที่ของกล้ามเนื้อได้ดี การออกกำลังกายอาจจะไม่ต้องมากก็ได้ จะทำให้กระดูกคงทนขึ้นได้รวมทั้งกล้ามเนื้อรอบๆกระดูกก็จะคงทนขึ้นด้วย  ในกรณีของการปวดเข่าการออกกำลังกายด้วยการวิ่งอาจทำไม่ได้แต่กระนั้นสามารถบริหารกล้ามเนื้อต้นขาสามารถทำได้ ด้วยการนั่งแล้วยกขาเหยียดขึ้นให้สุดแล้วเกร็งไว้ นับ 1-10 ค้างไว้ แล้วปล่อยลงมาก็เป็นการบริหารดั้งเดิมที่สามารถทำได้ หรือการเดินบนพื้นราบก็ทำได้ ในกระดูกของเราประกอบด้วยส่วนที่เป็นกระดูกชั้นนอก และกระดูกที่เป็นโพลงกระดูกด้านใน ซึ่งในทั้งส่วนนี้ต้องทำงานร่วมกัน ในส่วนของโพลงกระดูกด้านในประกอบไปด้วยเยื่อคอลลาเจนเยอะแยะไปหมดเลย และมีเกลือแร่ที่ให้ความแข็งแรงของโครงสร้างของกระดูก งานที่จะทำให้กระดูกแข็งแรงแม้การออกกำลังไปด้วยเป็นการบอกว่าเราต้องรับภาระหน้าที่หนักที่ให้มีการ การสร้างกระดูกใหม่มาทดแทนขึ้นอยู่กับว่าเราใช้มากน้อยแค่ไหน ถ้าเราใช้น้อยกระดูกก็รองรับสภาพการณ์การใช้น้อยแต่ถ้าเราใช้เยอะกระดูกก็จะรองสภาวะการใช้เยอะกระดูกก็จะคงทนถาวรขึ้น คอลลาเจนเป็นส่วนประกอบที่สำคัญทั่วร่างกายเรา การเสริมคอลลาเจนเข้าร่างกายจึงเป็นแนวทางที่ได้รับความแบบมากในปัจจุบัน       collagen คือโปรตีนที่มีอยู่มากมายในผิวหนังและกระดูก เป็นปกติจะมีอยู่ในร่างกายถึง 29 ชนิด สามารถได้มาจากสัตว์หลายพันธุ์เช่น ปลา วัว หมู  อย่างปลาได้จากเกล็ดปลา วัวได้จากหนังและกระดูกเป็นส่วนใหญ่จะอยู่ที่หนังและกระดูก แมว้าในตัวตนเรามีคอลลาเจน collagenอยู่ 29 ชนิด แต่มีความสำคัญต่อร่างกายจริงๆเพียงแค่ 4 ชนิด ในสี่ชนิดนี้มีเพียง 1 ชนิดทีมีความสำคัญมากที่สุด คือ collageคอลลาเจน