นอกจากคู่สามีภรรยาที่คุณหลับนอนอยู่ด้วยทุกคืนแล้ว ยังมีสิ่งมีชีวิตเล็กๆ อีกชนิดหนึ่งที่แอบแฝงอยู่เคียงคู่คุณตลอดเวลามันอยู่กับคุณมาตั้งแต่เด็กและจะอยู่กับคุณตลอดไป เราเรียกเจ้าตัวเล็กจิ๋วนี้ว่า “ไรฝุ่น”หากคุณมีภูมิคุ้มกันต่อสารก่อภูมิแพ้จากไรฝุ่นได้นั่นหมายถึงว่าคุณโชคดีที่สามารถเลี่ยงผ่านชีวิตทรมานมาได้แต่ถ้าคุณไม่มีภูมิต้านทานนั่นคือการเป็นอยู่อย่างรำคาญ ทรมาน ไม่สบายกาย ไม่สบายใจ ทั้งการปฏิบัติตนและการรักษาโดยเฉพาะการแพ้ไรฝุ่นของเด็กเล็ก เพราะไรฝุ่นคือภัยร้ายใกล้ตัวที่ซุกซ่อนอยู่กับคุณทุกคืน เพราะเหตุนี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราทุกคนควรทำการรู้จักกับเจ้าภัยร้ายตัวนี้ เพื่อหาขั้นตอนป้องกันกำจัดก่อนที่มันจะมาทำร้ายคุณมากกว่านี้หรือบางทีจนอาจจะฆ่าคุณและครอบครัวของคุณได้ไรฝุ่นเป็นสัตว์ตัวเล็กๆ ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่ามักอยู่ตามซอกต่างๆ ของบ้านที่แสงสว่างส่องเข้าไม่ถึง อย่างเช่น ห้องนอน และอุปกรณ์เครื่องนอนต่างๆ เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้องนอน จะมีสะเก็ดผิวหนัง รังแค คราบต่างๆ ฯ ที่ตัวไรฝุ่นชอบกิน ที่นอนที่เรามีความรู้สึกอบอุ่น สะอาด มีความสุข กลายเป็นแหล่งรวมตัวของตัวไรฝุ่นจำนวนนับล้าน ซึ่งจะกินอาหารและขับถ่ายเป็นเมือก แล้วแห้งเป็นละอองฝุ่นจำนวนมาก (ขนาด 1 -3 ไมครอน) กระจายได้ทุกเมื่อที่เราล้มตัวลงนอน พลิกตัวไปมา มูลของตัวไรฝุ่นนี่เอง ที่เป็นปัญหาใหญ่ เพราะมันไม่เพียงแค่ความสกปรก แต่มูลของมันมีสารก่อความระคายเคืองต่อผิวหนัง (Allergens) ที่มีผลต่อระบบทางเดินหายใจ ผิวหนัง เยื่ออ่อนต่างๆ เมื่อร่างกายถูกกระตุ้น เพื่อต่อต้านสารโรคภูมิแพ้และสะสมเป็นเวลานานๆ ด้วยการคลุกคลีและสูดดมทุกวัน ก็จะก่อให้เกิดเป็นโรคภูมิแพ้ โรคหืดหอบ ผิวหนังเป็นผื่นแดงเป่งบวม เป็นผลสืบเนื่องไปถึงความเครียดและโรคอื่นๆ อีกมากมาย และที่สำคัญไรฝุ่นเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการโรคภูมิแพ้ต่างๆ โดยผู้ที่แพ้ไรฝุ่นจะมีอาการไอ จาม น้ำมูกไหล เกิดผื่นคัน และบางทีอาจเกิดภาวะช็อกจนเสียชีวิตได้สารก่อภูมิแพ้ของไรฝุ่นอาจเป็นสาเหตุของโรคต่อไปนี้- โรคทางเดินหายใจอักเสบตลอดปี- โรคตาอักเสบ (ตาระคายเคือง)- โรคจมูกอักเสบ (น้ำมูกไหลและมีการจาม)- โรคหอบหืด (ไอและมีปัญหาระบบทางเดินหายใจ) , โรคหอบหืดในระยะต่อไป- โรคผิวหนังอักเสบ (ปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง เช่น มีผื่นแดงและคัน)- โรคปวดหัว- โรคผื่นคันวงจรชีวิตของมันตั้งแต่เกิดจนตาย อายุรวมราวๆสองเดือน โดยเริ่มนับจากตอนที่เป็นไข่ ใช้เวลาฟักตัว 8-12 วัน กลายเป็นตัวอ่อนที่มี 6 ขา ต่อมาลอกคราบอีกหลายหน กลายเป็นตัวอ่อนที่มีขาเพิ่มมาอีก 2 ขา รวมเป็น 8 ขา เรียกว่า นิ้ม ทุกครั้งที่ลอกคราบมันจะเจริญเติบโตขึ้น พออายุได้ 1 เดือนก็จะโตเป็นผู้ใหญ่มีขนาดประมาณ 0.3 มม. ตัวจะออกจะใส ออกขาว ๆ ลำตัวกลมรี ผิวย่น ๆ เหมือนลายนิ้วมือคน มีขนตามขาและลำตัว ทำหน้าที่รับรู้ มีตาแต่ดูอะไรไม่ได้ ไม่มีจมูก ไม่มีระบบทางเดินหายใจ แต่จะหายใจทางผิวแทน เมื่อมีการผสมพันธุ์ ตัวเมียจะออกไข่หลังผสมพันธุ์ 3-4 วัน โดยออกไข่ครั้งละ 1 ฟอง วันละ 3 ครั้ง ระหว่างออกไข่จะมีสารเมือก ซึ่งเป็นสารก่อภูมิแพ้ออกมาด้วย แล้วจะผสมพันธุ์กันใหม่ ออกไข่ไปได้เรื่อย ๆ ทุกวัน สรุปแล้วตัวเมียหนึ่งตัวกว่าจะแก่ตายที่อายุราว 2 เดือน สามารถวางไข่ได้ราวๆ 80 ฟองโรคภูมิแพ้เกิดจากสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งอาจแบ่งได้เป็นพวกใหญ่ๆ 4 ชนิด คือ 1. เป็นสิ่งที่หายใจเข้าไป อย่าง พวกเกสรพืช เชื้อราในอากาศ ฝุ่นบ้าน ขนสัตว์ 2. เป็นสิ่งที่รับประทานเข้าไป อาทิเช่น อาหาร เครื่องดื่ม สารแต่งสีและรส3. เป็นสารที่ฉีดเข้าไปในร่างกาย เช่น ยา 4. เป็นสิ่งที่สัมผัสกับร่างกาย เช่น เครื่องประดับ เครื่องสำอาง เครื่องนุ่งห่ม ยาทา เครื่องใช้ประจำบ้าน การป้องกัน1.หลีกเลี่ยงการสัมผัสสิ่งที่ตนเองแพ้ ตัวอย่างเช่น ฝุ่น เกสรดอกไม้ ขนสัตว์2.หมั่นทำความสะอาดปัดกวาดเช็ดถูที่อยู่อาศัย เช่น บ้านพัก ห้องนอน3.เครื่องนอนเช่น หมอน ผ้าห่ม ควรจะทำด้วยใยสังเคราะห์ซึ่งซักล้างได้ ไม่ควรใช้นุ่น ยาง ฟองน้ำ หรือขนนก เพราะใช้ไปแล้วนานๆ จะเป็นที่ สะสมฝุ่นและเชื้อรา4.ไม่ควรเลี้ยงหมา แมวหรือนก ในบ้านที่มีผู้เป็นโรคแพ้ 5.ไม่ควรจะเข้าใกล้บริเวณที่มีฝุ่นมาก เช่น ในขณะที่ผู้อื่นกำลังกวาดบ้านหรือดูดฝุ่นอยู่หรือเข้าไปในห้องเก็บของ เก่าๆ ห้องบนเพดาน หรือโกดังเก็บของ จำเป็นก็ต้องใส่ผ้าปิดจมูก เมื่อตัวไรฝุ่นเติบใหญ่ขึ้นในปริมาณมากๆ มูลที่มันถ่ายออกมานั้นจะยิ่งทำให้เราเกิดอาการแพ้ฝุ่นผงได้ง่ายกว่าเดิมนี่เองจึงเป็นเหตุผลที่ทุกบ้านพักอาศัยต้องมีเครื่อง
กำจัดไรฝุ่นเพื่อนำมาใช้กำจัดไรฝุ่นเป็นพิเศษ เครื่องกำจัดไรฝุ่น MARTEX เป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพราะเครื่องกำจัดไรฝุ่น MARTEX ใชกำจัดไรฝุ่น