ผู้เขียน หัวข้อ: อาหารสัตว์ประสบความสำเร็จรูป VS ประสานเอง อย่างใดตอบโจทย์  (อ่าน 53 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ spammer

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 139,825
  • พอยท์: 100
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
อาหารสัตว์บรรลุผลรูป VS คลุกเคล้าเอง อย่างไหนโดนใจ

ยุคปัจจุบันเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์รู้ชัดถึงเงินลงทุนด้านอาหารสัตว์กันมากขึ้น เพราะสัตว์ที่เลี้ยงต้นทุนส่วนมากจะอยู่ที่ค่าอาหารเป็นสำคัญ เพราะว่าในสัตว์ปีกใช้มากถึง 70% เป็นเหตุให้หลายๆ คนทรรศนะหาแหล่งอาหารสัตว์ที่มีต้นทุนถูกลง เพื่อจะลดเงินลงทุนการผลิต เสียแต่ว่าในปัจจุบันมีทางคัดเลือกอยู่ 2 ทาง เป็น “การผสมอาหารใช้เอง” โดยใช้เครื่องยึดเหนี่ยวความน่าจะเป็นกับการเทียบสูตรให้ได้โภชนตามที่สัตว์ปรารถนา และ “อาหารสำเร็จลุล่วงรูป” ของเท่านั้นละกงสี

โดยเหตุนั้นการที่จะใช้อาหารแบบไหน? ไม่ก็แตกต่างกันเช่นใด เพื่อให้เป็นทางคัดเลือกในการสร้างการตกลงใจของเกษตรกรอาหารสัตว์ เราจึงนำข้อความสำคัญความที่อุปมาถึงความผิดแผกแตกต่าง ครบถ้วนสอดแทรกทริคแก้ไขอุปสรรค อย่างนี้


  • ความโดยปกติของโภชนะอาหารสัตว์
  • มูลค่าวัตถุดิบ/ทุนอาหารสัตว์
  • ความเสี่ยงที่จะส่งความกระทบกระเทือนต่อตัวสัตว์
  • ความสะดวก/เวลาในการใช้
  • การประมวลมีใจษา



  • อาหารระคนกันเอง ความบ่อยขึ้นอยู่กับการจัดการ ต้องมีการเข้าประจำที่แผนเหตุการณ์การหาวัสดุดิบมาผสานอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อย 1-2 พระจันทร์ ไม่เช่นนั้นจะเกิดปมปัญหาวัสดุดิบอาหารไม่เสมอเหมือนเดิม มีผลกระทบต่อการกินของสัตว์ที่ไม่ดี กับส่งผลกระทบต่อผลผลิตด้วย ถึงแม้ว่าหาไม่ทันก็จะทำให้เกิดการขาดช่วงก็จะส่งผลต่อผลผลิตเกี่ยวกับ เกี่ยวกับวัสดุดิบอาหารสัตว์โดยเฉพาะที่หามาเองจากธรรมดา สัมผัสมีการตรวจคุณภาพอยู่ซ้ำๆ เพื่อให้อาหารขนาดนั้นละมื้อ เท่านั้นละวันใกล้เคียงกันมากยิ่งขึ้นไป


  • อาหารบรรลุเป้าหมายรูป หากเจาะจงเลือกซื้ออาหารจากบริษัทที่น่าเชื่อถือได้ เขาก็จะผลิตอาหารออกมาอย่างไม่ขาดเส้นทาง สั่งสต็อกเร็วมาก้ไม่ต้องเยอะมากได้ อาหารสัตว์เพื่อคงความสดใหม่ สัตว์จะได้กินอาหารที่ไม่ค้างเก่านาน เพราะว่าที่กระสอบข้าวจะมีแจ้งล็อตการผลิต ซึ่งอาจจะตรวจสอบได้ว่าอาหารนั้นเกิดมาตั้งเพียงนั้นเมื่อไหร่ เพียงนั้นข้อควรระวัง กับสิ่งที่ไม่ไม่แน่อาจรู้ได้คือ วัสดุดิเนื้อความี่นำมาใช้คละทำอาหารสำเร็จ จะมีการแปลงแปลง ไม่ก็ใช้วัตถุดิบชดเชยเช่นใดบ้าง





  • อาหารผสมเอง ราคาถูกกว่า พร้อมกับเกษตรกรอาจเจาะจงเลือกสรรวัตถุดิบมาเจือปนเองได้ ทำได้รู้แหล่งต้นทางของวัสดุดิบภักษ์ที่หามาเองได้ ซึ่งจะทำเอาการคำนวณค่าอาหารได้ง่าย เชี่ยวชาญปรับพลิกอาหารสัตว์วัตถุดิบได้ในระหว่างการเลี้ยงสัตว์ เมื่อมีวัสดุดิบบางจำพวกแพงหรือถูกกว่า



  • อาหารสำเร็จรูป ราคามักสูงกว่า เหตุเพราะมีหลายเหตุปัจจัยที่ต้องจ่ายให้กับบริษัท ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ค่าผสม ค่าอุปกรณ์เครื่องใช้ไม้สอยการคละต่างๆ รวมไปถึงค่าขนส่หยุด้วย อาหารสัตว์เพียงนั้นว่าจุดเด่นคือ ง่ายต่อการจัดการ เพราะไม่ต้องปิ๋วเวลาผสมกระยาหารเอง ไม่ต้องกังวลเหตุการณ์การหกหล่นของอาหาร ก็เพราะว่าอาหารที่มาจากบริษัทจะถูกจุอยู่ในกระสอบ ใช่ไหมใส่เบ้าท์อย่ายับยั้งี




  • อาหารสัตว์ผสมเอง แม้นมีการปนเปื้อนเชื้อ หรือไอเท็มแปลกปลอมระหว่างการผสม อาจส่งผลให้สัตว์เสี่ยงต่อการป่วย ไม่ใช่หรือเกิดโรคอันไม่พึงประสงค์ได้ ดังเช่น เกิดเชื้อราในอาหาร อย่างนั้นต้องมีการตรวจสอบแหล่งที่มาและการรวบรวมรักษาให้ดี


  • อาหารสัตว์สำเร็จลุล่วงรูป จะมีความเสถียรมากกว่า เพราะเครื่องมือการผสมจะมีการสั่งการการทำงานด้วยเครื่องมือที่ล้ำสมัย ด้วยกันบังคับงานการด้วยระบบอัตโนมัติ ขนาดนั้นใช่ว่าจะทันใจ้ใจได้เพราะด้วย เพราะทุกอย่างย่อมเกิดเหตุฉุกเฉินได้เสมอ ดังนี้ด้วยความไม่ประมาทเกษตรกรพึงจะมีการพิจิตเช็คสภาพอาหารภายนอกปฐมอยู่เทียมบ่าเทียมไหล่




  • อาหารสัตว์ผสมเอง ชาวนาจงสละเวลา ไม่ตัวเองก็ต้องปันออกค่าจ้างคนงานระคนอาหาร แต่แม้ไม่ติดปมปัญหาเรื่องราวนี้ก็รอบรู้ทำได้


  • อาหารสัตว์บรรลุเป้าหมายรูป ต่อการใช้งานมากกว่า เฉพาะเกษตรกรจะสิ้นบุญสตางค์แพงกว่าคละเคล้าอาหารเอง




  • อาหารสัตว์ผสมเอง แบบที่ได้กล่าวด่วน้ข้างต้น เกษตรกรต้องมีการประดิษฐานแผนเช็คสต็อก เตรียมวัตถุดิประเด็นี่จะนำมาผสมอาหารให้ดี พร้อมด้วยควรมีโรงประมวลอาหารที่มิดชิด ไม่เสี่ยงต่อการเกิดความสิ้นบุญหาย อายุในการใช้งานขึ้นกับความเหมือนเคยของวัตถุดิบอาหารล็อตนั้นๆ ด้วย


  • อาหารสัตว์ประสบความสำเร็จรูป การเก็บบำรุงรักษาทำได้ง่าย เพียงระวังเรื่องราวสัตว์พาหะที่จะเข้าไปกัดกินอาหารสัตว์เท่านั้น อายุของการใช้งานสามารถทดสอบได้

ทั้งนี้ไม่ว่าจะคัดเลือกใช้อาหารในแบบใดก็ตาม ขึ้นอยู่กับความเข้ารูป โครงสร้างการเลี้ยงสัตว์ของชาวสวนด้วย รวมถึงจุดคุ้มค่าทุน ถ้าเลี้ยงแล้วขาดทุนถามว่าจะเลี้ยงทำไม ? ทดลองทความวนเห็นว่าจริงหรอ?อาหารสัตว์ ยกแบบอย่างเช่น ถ้าหากจำนวนรวมตัวสัตว์ที่ชาวไร่เลี้ยงไม่มาก ผสมภัตเองมองว่าคุ้มค่ากว่าก็ควรทำ อีกอย่างอาจเลือกสรรวัสดุดิบอาหารเองได้ แต่ถึงแม้ว่าเลี้ยงในจำนวนมากก็ต้องคำนึงถึงความกล้วยๆ เวลา พร้อมทั้งความพร้อมของเกษตรกรเอยับยั้ง้วยว่าแม้ต้องมีการเจือปนอาหารใช้เอง คิดว่าจะไหวหรือว่า?

Tags : อาหารสัตว์เลี้ยง