ผู้เขียน หัวข้อ: แมนยู VS เซบีย่า 1-2 : เก็บตกหลังเกม ยูโรปา ลีก 2019-20  (อ่าน 75 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ spammer

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 139,825
  • พอยท์: 100
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์

"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องยุติเส้นทางแค่แค่นี้หลังเป็นฝ่ายโดน เซบีย่า รัวแซงเอาชนะ 2-1 ทั้งที่เป็นฝ่ายออกนำก่อนตั้งแต่ช่วงต้นเกมแต่สุดท้ายคุมสถานการณ์ไว้ไม่ได้ทำให้ ต้องกระเด็นตกรอบ ฟุตบอล ยูโรปา ลีก รอบรองชนะเลิศ ที่สนาม ไรน์ เอเนอร์กี้ สตาดิโอน, โคโลญจน์ เท่าที่คืนวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา
1. ครึ่งชั่วโมงแรกกับแผนการที่แทบไม่เคยได้ผล

แฟน ๆ แมนฯ ยูไนเต็ด หลายคนคงจะทราบดีถึงแนวทางการเล่นของ ปีศาจแดง ภายใต้การดูแลคณะของ โอเล กุนนาร์ โซลชา ในฤดูกาลนี้ดีว่า ว่าสมมุติพวกเขาอาจขึ้นนำคู่แข่งได้ก่อน ภายหลังนั้นเหล่าบรรดาผู้เล่นมักจะผ่อนเกมลงพร้อมด้วยถอยลงมาแพ็คเกมรับรอสวนกลับในทันที ซึ่งมักจักใช้ได้ผลกับคณะเล็กที่เกมรุกไม่ได้อันตรายมากนักในช่วงที่ลอดมา
เช่นเดียวกับในเกมนี้ ที่พวกเขานำเร็วตั้งแต่ช่วง 10 นาทีแรก แต่แทนที่บุกกดดันคู่แข้งต่อเนื่องเพื่อเอาประตูนำห่างในขณะที่คู่แข่งยังตั้งเกมของตัวเองไม่ได้ แต่กลับถอยลงมาตั้งรับรอสวนกลับจนโดนตีเสมอในที่สุด ซึ่งก็ไม่รู้ว่า โซลชา คิดอะไรอยู่ ทั้งที่เกมรับก็ไม่ใช่จุดเด่นของเหล่าอยู่แล้ว มันจึงกลายเป็นการเล่นเพื่อรอโดนยิงเท่านั้น ก็เพราะว่านี่คือ เซบีย่า หนึ่งในเหล่าเกรดเอของยุโรป ไม่ใช่คณะไก่การองบ่อนที่พวกเขาจะมาอุดหวังปิดสกอร์ตั้งแต่ 10 นาทีแรกแบบนี้
2. โรเมโร : ผมทำผิดอะไร !

อีกหนึ่งประเด็นร้อนแรงสุด ๆ ในเกมนี้ก็คือการที่ โอเล กุนนาร์ โซลชา แสดงออกถึงความไม่มั่นใจในตัว เซร์คิโอ โรเมโร อีกครั้งด้วยการหักดิบส่ง ดาบิด เดเคอา ลงเฝ้าเสาทั้งที่ โรเมโร ทำหน้าที่เป็นมือหนึ่งในรายการนี้มาเพราะตลอด
แน่นอนว่า เด เคอา ไม่มีได้มีข้อผิดพลาดส่วนตัวในวันนี้ แต่การทำแบบนี้ใคร ๆ ก็ต้องคิดว่ามันไม่ให้เกียรติกันแบบชัดเจน ทั้งที่พาฝ่ายฝ่าฟันแทบตายกว่าจักมาถึงจุดนี้ได้ แต่พอถึงเกมสำคัญ ๆ กลับเปลี่ยนคนอื่นที่ก็แทบไม่ได้น่าไว้ใจอะไรได้ด้วยซ้ำในชั่วโมงนี้ลงมาทำหน้าที่แทนหน้าตาเฉย เพราะว่านี่ก็ไม่ใช่เกมแรกที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เพราะว่าเกม เอฟเอ คัพ รอบ 4 กลุ่มสุดท้าย โซลชาก็เคยทำแบบนี้มาแล้วพร้อมด้วยสุดท้ายก็พ่ายตกรอบไปเพราะว่าความผิดพลาดของ ดาบิด เด เคอา ในวันนั้น
3. สถิติหลังเกม

เซบีย่า ทำสถิติเป็นทีมที่เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในรายการนี้ได้มากที่สุด (6 ครั้ง)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกรอบในฟุตบอลยุโรปด้วยน้ำมือของทีมจาก ลาลีกา มาแล้ว 3 ปี ติดต่อกัน (พ่าย เซบีย่า ในแชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 หมู่คราวปี 2017/18 - พ่าย บาร์เซโลน่า ในแชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 กรุ๊ปปี 2018/19 พร้อมกับ ปราชัย เซบีย่า อีกครั้งใน ยูโรปาลีก รอบ 4 คณะเท่าที่คืนวาน)
สมมตินับตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ เซบีญา ไม่พ่ายใครไปแล้วถึง 20 นัดรวมทุกรายการ โดยช่วงเวลาเดียวกันนี้มีแค่ 3 ทีมที่ไม่พ่ายแพ้ใครติดต่อกันเกิน 20 เกมใน 5 ลีกดังของยุโรปนั่นคือ บาเยิร์น มิวนิค, ปารีส แซงต์ แชร์กแมง กับ เรอัล มาดริด
สองเกมหลังสุดในรายการนี้ (พบกับ เอฟซี โอเปนเฮเก้น พร้อมด้วย เซบีย่า) แมนฯ ยูไนเต็ด สร้างสรรค์โอกาสยิงได้รวมกัยถึงถึง 46 ครั้ง ยิงเข้ากรอบ 21 ครั้ง แต่สองประตูที่พวกเขาทำได้มาจากลูกจุดโทษทั้งหมด
ปีศาจแดง ได้ลูกจุดโทษรวมทุกรายการในฤดูกาลนี้ถึง 22 ครั้ง มากที่สุดตลอด 4 ปีในบรรดาทุกกลุ่มใน 5 ลีกดังของยุโรป นับตั้งแต่ บาร์เซโลนา เคยทำสถิติเอาไว้ที่ 22 ครั้งเท่ากันในปี 2015/16
ถ้าหากนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา บรูโน เฟอร์นันเดส มีส่วนกับการทำประตูไปแล้วถึง 20 ครั้ง (ยิง 12 แอสซิสต์ 8) มาที่สุดเป็นอันดับ 3 ในห้าลีกดังของยุโรปเป็นรองแทบ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (28 ครั้ง) พร้อมกับ ลิโอเนล เมสซี (27 ครั้ง)
นอกจากนี้ บรูโน เฟอร์นันเดส ยังไม่พลาดจุดโทษเลยแม้แต่ลูกเดียวในฤดูกาลนี้ (14 ครั้ง) เพราะว่าเป็นการยิงให้กับ สปอร์ติง ลิสบอน 6 ประตู พร้อมด้วย แมนฯ ยูไนเต็ด 8 ประตูด้วยกัน
 
ที่มา: แมนยู VS เซบีย่า 1-2
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ผลบอล

Tags :  ฟุตบอลวันนี้, ข่าวกีฬา, โปรแกรมบอล