THE 45th BANGKOK INTERNATIONAL MOTOR SHOW (มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45) รถใหม่ มอเตอร์ไซค์ใหม่ บิ๊กไบค์ พริตตี้ โปรโมชั่น
งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2024 (THE 45th BANGKOK INTERNATIONAL MOTORSHOW 2024) งานสุดยิ่งใหญ่ที่จะมีการโชว์รถยนต์ใหม่, มอเตอร์ไซค์ใหม่ พร้อมด้วยคอนเซ็ปต์คาร์ พร้อมการนำเสนอรถยนต์, รถมอเตอร์ไซค์ รุ่นใหม่ ๆ และอุปกรณ์ประดับยนต์ต่าง ๆ อีกทั้งยังจัดเต็มด้วยโปรโมชั่นแคมเปญพิเศษ รวมถึงข่าวสารต่าง ๆ ที่จะมีมาให้ติดตามชมกันอย่างใกล้ชิดแบบจัดเต็ม และจุใจ
สำหรับงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2024 (THE 45th BANGKOK INTERNATIONAL MOTORSHOW 2024) จัดขึ้นที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม - 7 เมษายน 2567 โดยเปิดให้เข้าชมงานเวลา 12.00-22.00น. ราคาบัตรเข้าชมงาน 100 บาท
กำหนดการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45
วันแขกพิเศษ V.I.P Day: วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม 2567 (เวลา 12.00-20.00 น.)
วันสื่อมวลชน Press Day: วันอังคารที่ 26 มีนาคม 2567 (เวลา 09.59-18.00 น.)
วันสำหรับประชาชนทั่วไป: วันพุธที่ 27 มีนาคม–7 เมษายน 2567 (รวมระยะเวลา 12 วัน)
วันธรรมดา เปิดให้เข้าชมงานตั้งแต่เวลา 12.00–22.00 น.
วันหยุด เปิดให้เข้าชมงานตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น.
สถานที่จัดงาน: อาคารชาเลนเจอร์ 1-3, อิมแพค เมืองทองธานี
MAZDA CX-8 รถครอสโอเวอร์เอสยูวีพรีเมี่ยม ตอบโจทย์ทุกรูปแบบของชีวิตสะท้อนรสนิยมเหนือระดับ
"มาสด้า" ได้พัฒนารถประเภทนี้ขึ้นมาหลายรุ่น ภายใต้ชื่อตระกูล CX-Series ซึ่งรวมถึงการถือกำเนิดขึ้นมาของ CX-8 ครอสโอเวอร์เอสยูวีระดับพรีเมี่ยม ทั้งแบบ 3 แถว 6 ที่นั่ง และแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่เข้ามาเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น หรือกำลังมองหารถที่โดยสารได้มากกว่า 5 ที่นั่ง ห้องโดยสารเงียบสงบ ระบบช่วงล่างมีความนุ่มนวล มีระบบความปลอดภัยสูง ซึ่งในประเทศไทยถือว่ามีตัวเลือกน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นประเภทที่ถูกดัดแปลงหรือพัฒนามาจากโครงสร้างพื้นฐานของรถกระบะ หรือ PPV ส่งผลให้ไม่คล่องตัวสำหรับการขับขี่ในเมือง ผนวกกับช่วงล่างสไตล์รถกระบะ และความสูงของรถที่ส่งผลต่อความสะดวกในการขึ้น-ลงของผู้สูงอายุและเด็ก ดังนั้น CX-8 จึงเข้ามาเติมเต็มความต้องการของลูกค้าในสังคมไทย โดยเฉพาะช่วงเวลาที่สำคัญของสมาชิกทุกคนในครอบครัวเพื่อก่อให้เกิดมิตรภาพและความอบอุ่นตลอดการเดินทาง
รถอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์เอสยูวีมาสด้า CX-8 เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อช่วงปลายปี 2562 โดยเป็นรถเจเนอเรชั่นใหม่ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีสกายแอคทีฟอย่างเต็มรูปแบบ ถือเป็นรถยนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการและตรงตามวัตถุประสงค์การใช้งานของลูกค้ามากที่สุด เพราะถูกวางตำแหน่งให้เป็น "New Era of 3-Row Crossover SUV" เป็นครอสโอเวอร์อเนกประสงค์ระดับพรีเมี่ยมแบบ 3 แถว ที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบัน มาพร้อมแนวคิด "The Precious Moment for All" ทุกช่วงเวลา...มีค่าไม่สิ้นสุด เป็นยนตรกรรมที่สร้างแรงบันดาลใจให้ออกไปใช้ชีวิตได้อย่างไร้ขอบเขตและไม่สิ้นสุด และเข้ามาเติมเต็มความต้องการและการใช้ชีวิตของลูกค้าให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
1. คุณค่าด้านความสะดวกสบาย: The Finest Craftsmanship ทุกองค์ประกอบได้รับการออกแบบดุจงานศิลปะขั้นสูง ผ่านการคัดสรรด้วยวัสดุคุณภาพสูงและเปี่ยมไปด้วยความพิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียด ซึ่งความโดดเด่นที่สำคัญของมาสด้า CX-8 คือเรื่องความสบายของห้องโดยสาร สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 7 ที่นั่ง ในรุ่น 3 แถว 7 ที่นั่ง โดยถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของรถยนต์นั่งอย่างแท้จริง เพื่อมอบความสะดวกสบายสูงสุด ทั้งในแง่ของพื้นที่การใช้งาน คุณภาพของห้องโดยสาร สมรรถนะในการขับขี่ที่เหนือกว่า ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มสมรรถนะการขับขี่และความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างผู้ขับขี่กับรถ ตามหลัก "Human-Centric Development" ที่พัฒนาโดยมีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง
นอกจากนี้ ที่นั่งในแถวที่ 2 และ 3 ก็สามารถนั่งได้อย่างสะดวกสบาย จึงทำให้มาสด้า CX-8 ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าที่ต้องการความนุ่มนวลและความสะดวกสบายในการขับขี่ ซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารให้ทุกการเดินทางไกลและการขับขี่ในเมืองเต็มไปด้วยความสุข นอกจากนี้ ห้องโดยสารก็ยังมีให้เลือกถึง 2 รูปแบบ ได้แก่ ห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่ง ที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวางมอบความสะดวกสบายในทุกอิริยาบถ และห้องโดยสารแบบ 6 ที่นั่ง ที่มาพร้อมที่นั่งแถวสองแบบ Captain Seat 2 ที่นั่ง แยกอิสระซ้าย-ขวา ที่ตอบโจทย์ความภูมิฐานและความพรีเมี่ยม รวมถึงมอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสารทุกคน
2. คุณค่าด้านการออกแบบที่งดงาม: Elegant and Comfort in Perfect Harmony ในด้านการออกแบบที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานของทุกคนในครอบครัว มาสด้า CX-8 ยังคงความประณีตพิถีพิถัน ภายใต้ปรัชญา Kodo Design: Soul of Motion ที่เน้นความเรียบง่ายแต่งดงาม ทั้งภายนอกและภายในห้องโดยสาร โดยภายในเลือกใช้แต่วัสดุคุณภาพสูงเพื่อสะท้อนภาพลักษณ์แห่งความภูมิฐาน สง่างามและสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นโทนสีและวัสดุที่ใช้ตกแต่งภายในที่ได้รับการคัดสรรมาเป็นอย่างดี การเลือกใช้วัสดุแบบ Real Wood และสีเงินซาตินโครม ผสานอย่างลงตัวกับเบาะหนัง Nappa สีแดง Deep Red ที่ช่วยสร้างบรรยากาศแห่งความอบอุ่นให้กับทุกคนในครอบครัว สำหรับภายนอกก็โดดเด่นไม่ซ้ำแบบใคร ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าของรถที่โดดเด่นด้วยซิกเนเจอร์วิง การตกแต่งเสาบีและเสาซีด้วยวัสดุสีดำเปียโนและโครเมี่ยมที่ช่วยเพิ่มรูปลักษณ์ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ และไฟท้ายที่ตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์ พร้อมมีสีภายนอกให้เลือกมากถึง 6 สี
3. คุณค่าด้านสมรรถนะของเครื่องยนต์: Thrilling Performance ที่สุดของสมรรถนะความแรงที่เปี่ยมไปด้วยพลัง ด้านสมรรถนะเครื่องยนต์ CX-8 มาพร้อมเครื่องยนต์สกายแอคทีฟอันเลื่องชื่อของมาสด้า ซึ่งมีให้เลือกถึง 2 เครื่องยนต์ ได้แก่ เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2.2 ลิตร ให้พละกำลังสูงถึง 190 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบวาล์วไอเสียแปรผันอัจฉริยะ VVT และระบบเทอร์โบแปรผัน 2 ขั้น ให้การตอบสนองที่รวดเร็วและแม่นยำด้วยนวัตกรรมในการส่งแรงบิดที่ยอดเยี่ยม และการทำงานที่ราบรื่นจนถึงรอบเครื่องยนต์สูง ในขณะที่มีเสียงรบกวนต่ำ ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม และประหยัดน้ำมันสูงถึง 17.5 กิโลเมตรต่อลิตร และอีกหนึ่งเครื่องยนต์กับสกายแอคทีฟเบนซิน 2.5 ลิตร ให้พละกำลังสูงถึง 194 แรงม้า แรงบิด 258 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่อัจฉริยะ Dual S-VT ที่ถูกพัฒนาให้สามารถตอบสนองอัตราเร่งได้อย่างดีเยี่ยม แม่นยำ และทรงพลัง ให้สมรรถนะการขับขี่ที่คล่องแคล่วและประหยัดน้ำมันได้ถึง 13.2 กิโลเมตรต่อลิตร เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งตอบโจทย์ทุกรูปแบบการขับขี่ไม่ว่าจะเป็นการขับในเมืองหรือการขับขี่ทางไกลที่ต้องใช้ความเร็วสูงก็ตาม
4. คุณค่าการควบคุมการขับขี่จากเทคโนโลยี SKYACTIV-VEHICLE DYNAMIC: More Control with Less Effort เพลิดเพลินกับทุกเส้นทางและมั่นใจในทุกการขับขี่ ด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟที่ผสานและควบคุมการทำงานของรถทั้งคัน ให้ทำงานประสานกันอย่างมีประสิทธิภาพ ให้ทั้งความแรง ประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงโครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ ที่ผลิตจากเหล็กกล้าคุณภาพสูง High Tensile Steel น้ำหนักเบาและแข็งแกร่ง ให้การควบคุมรถที่มั่นคง ช่วยลดแรงสะเทือนจากพื้นถนน และกระจายแรงปะทะที่จะเข้าสู่ห้องโดยสารในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ และช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยวที่ยึดเกาะถนนมั่นคง ให้ความนุ่มนวลแก่ห้องโดยสาร พร้อมระบบบังคับเลี้ยวที่ช่วยให้เข้าโค้งได้แม่นยำ รวมถึงระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ (GVC) ที่ช่วยให้ทุกการขับขี่เป็นไปได้อย่างง่ายดายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
5. คุณค่าด้านความพร้อมของเทคโนโลยีเพื่อความเพลิดเพลิน: Your World, at Your Fingertips ก้าวสู่ความเหนือระดับด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบสุนทรียภาพในการขับขี่ให้กับผู้โดยสารไปตลอดการเดินทาง มาสด้าจึงได้ติดตั้งเทคโนโลยีเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัด Mazda Connect เพื่อตอบโจทย์การใช้งาน ทั้งด้านธุรกิจและครอบครัว ด้วยการอัพเดทข้อมูลข่าวสาร หรือรับ-ส่ง SMS จากสมาร์ทโฟน ผ่านสัญญาณบลูทูธ พร้อมรองรับระบบ Apple CarPlay และระบบ Android Auto ที่เชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน และสามารถใช้งานฟังก์ชั่นสำคัญได้ โดยแสดงผลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ที่สามารถควบคุมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander และสร้างสุนทรียภาพรอบทิศทางด้วยระบบเสียงคุณภาพ Bose® พร้อมลำโพง 10 ตำแหน่ง
6. คุณค่าด้านเทคโนโลยีความปลอดภัย: Unconditional Confidence อีกระดับของความปลอดภัยระดับโลก ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำ i-Activsense ถึง 10 ระบบ ที่สามารถคาดการณ์และส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ให้เพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ โดยระบบที่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น ได้แก่ ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) และระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) เป็นต้น พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Active Safety) และความปลอดภัยเชิงปกป้องเมื่อเกิดเหตุ (Passive Safety) พร้อมระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง และถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยรวม 6 ตำแหน่ง ที่ช่วยทั้งป้องกันและปกป้องคนที่คุณรักไปตลอดการเดินทาง
จากคุณค่าที่เพียบพร้อมเหล่านี้ จึงทำให้มาสด้า CX-8 กลายเป็นหนึ่งในรถครอสโอเวอร์เอสยูวีรุ่นที่ดีที่สุดของมาสด้า และเป็นรถยนต์ในระดับชั้นแนวหน้าของโลก และเมื่อเร็ว ๆ นี้ มาสด้า CX-8 ก็ได้สร้างชื่อเสียงในประเทศไทย ด้วยการคว้ารางวัล Thailand Car of the Year ประจำปี 2564 ประเภท Best Diesel SUV Under 2,500 C.C. และ Best Petrol SUV Under 2,500 C.C มาครองได้สำเร็จ อีกด้วย
THE 45th BANGKOK INTERNATIONAL MOTOR SHOW (มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/motorshow/