โรคเบาหวาน (Diabetes)เป็นโรคที่ร่างกายมีภาวการณ์น้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงแตกต่างจากปกติ เป็นเลิศในกลุ่มโรคที่ไม่ติดต่อเรื้อรัง (non-communicable diseases; NCDs) อันตรายต่อร่างกาย จากสถิติในปี พุทธศักราช2558 พบว่าทั้งโลกคนเที่ป็นเบาหวานถึง 415 ล้านคน รวมทั้งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 642 ล้านคน ในปี พ.ศ.2588 หรือทุก 6 วินาที จะมีผู้เสียชีวิตจากเบาหวานขั้นต่ำ 1 คนจากการสำรวในประเทศไทยในปี พุทธศักราช 2557 พบว่าคนประเทศไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป มีอาการป่วยด้วยโรคเบาหวานปริมาณร้อยละ 8.8 (พลเมืองไทยปริมาณ 100 คน จะมีอัตราการเป็นโรคเบาหวานสูงถึง 8-9 คน) โดยผู้หญิงจะมีอัตราการเป็นโรคโรคเบาหวานมากยิ่งกว่าเพศชายคือจำนวนร้อยละ 9.8 (สตรีจำนวน 100 คน จะมีอัตราการเป็นโรคโรคเบาหวาน 9-10 คน) ในระหว่างที่เพศชายเป็นโรคเบาหวานจำนวนร้อยละ 7.8 (เพศชายจำนวน 100 คน จะมีอัตราการเป็นโรคโรคเบาหวาน 7-8 คน) ซึ่งกลุ่มที่มีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานเยอะที่สุดเป็นกลุ่มคนวัยชรา 60-69 ปีปกติแล้วเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเมื่อ ข้างหลังการกินอาหาร ร่างกายจะมีการปรับระดับน้ำตาลในเลือดให้คืนสู่ภาวะปกติ โดยการหลั่งฮอร์โมนที่เรียกว่า "อินซูลิน" ซึ่งผลิตขึ้นจากตับอ่อน มากมายระตุ้นเซลล์กล้ามเนื้อ เซลล์ไขมัน รวมทั้งตับ ให้นำกลูโคสไปใช้ในประเด็นต่างๆอย่างเช่น แปลงเดกซ์โทรสไปเป็นไกลวัวเจนที่กล้ามเนื้อ แล้วก็ตับ แต่ว่าในคนไข้ที่เป็นโรคโรคเบาหวาน ร่างกายไม่สามารถลดระดับน้ำตาลให้กลับสู่สภาวะธรรมดาได้ เนื่องด้วยต่อมอินซูลินปฏิบัติงานเปลี่ยนไปจากปกติ เราสามารถแยก โรคเบาหวานอาจแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆเป็น โรคเบาหวาน[/url]ชนิดที่ 1 และ 2เบาหวานจำพวกที่ 1 (Type 1 Diabetes)มีราวๆร้อยละ 5 ของคนที่เป็นโรคเบาหวาน เป็นผลมาจากการที่ร่างกายไม่อาจจะผลิตอินซูลินได้ หรือผลิตแม้กระนั้นน้อยเกินไป พบได้ทั่วไปในเด็กหรือวัยรุ่น โดยผู้เจ็บป่วยมักจะตัวผอม หรือน้ำหนักปกติ ไม่อ้วน ต้องทำการรักษาโดยการฉีดอินซูลินเข้าร่างกายโดยตรงเท่านั้นเบาหวานประเภทที่ 2 (Type 2 Diabetes)มีราวปริมาณร้อยละ 95 ของคนที่เป็นโรคเบาหวาน เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการที่ร่างกายผลิตอินซูลินได้ แต่ว่าอินซูลินไม่สามารถปฏิบัติงานได้ตามเดิมเนื่องจากร่างกายมีภาวะซุกซนต่ออินซูลิน พบได้ทั่วไปในผู้ใหญ่หรือคนแก่ ซึ่งเบาหวานชนิดนี้นั้นคนป่วยมักอ้วน สามารถรักษาและควบคุมโรคได้โดยควบคุมการรับประทานอาหาร ออกกำลังกาย ทานยาหรืออาหารเสริมร่วม โดยไม่จำเป็นจำเป็นต้องฉีดอินซูลินโดยตรงยิ่งกว่านั้นอาจมีโรคเบาหวานชนิดอื่นๆอีก อย่างเช่น เบาหวานขณะมีท้อง ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของยีนส์ แต่พบได้น้อยมาก3[/b]
ขอบคุณบทความจาก :
https://www.cordy-1.comTags : โรคเบาหวาน,เบาหวาน,น้ำตาลในเลือด
