จากข่าวในปัจจุบันนี้ มักมีปัญหาเกี่ยวกับเด็กนักเรียนทะเลาะกันด้วยความรุนแรงบ่อยครั้ง แต่ก็นับว่า #เป็นเหตุการณ์ที่เลี่ยงไม่ได้ เมื่อเด็กเข้าสู่วัยเรียน
ดูเหมือนปัญหาแกล้งกันนี้ จะเป็นปัญหาเล็กๆ แต่ใครจะรู้ว่ามันอาจจะกลายเป็นปมปัญหาที่สะสมอยู่ในใจเด็ก อาจส่งผลกระทบต่อการพัฒนาการ หรือเกิดเป็นความเครียดจนลูกกลายเป็นเด็กเก็บกดและเกรี้ยวกราด
พ่อแม่จึงควรเตรียมการรับมือ เพื่อให้ลูกสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเข้มแข็ง และ จัดการปัญหาได้อย่างถูกต้อง
สอบถามอย่างมีเหตุผล ห้ามใช้อารมณ์ร่วม
การทะเลาะ ย่อมมีที่มาที่ไปจะได้แก้ไขได้ถูกจุด พราะบางที ลูกตัวแสบของคุณนี่แหละอาจจะเป็นคนเริ่มก่อเรื่องก่อน และประเมิณสถาณการณ์ว่าร้ายแรงแค่ไหน
แนะนำให้ลูกรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ
การใช้ความรุนแรงตอบโต้กลับ มักไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ดี เพราะฉะนั้นควร สอนให้ลูกหลีกเลี่ยงการตอบโต้ เดินหนี หรือบอกครูประจำชั้น สอนเค้าว่าการเดินหนีนั้นไม่ใช่ผู้แพ้ ถ้าเราไม่อยากให้อีกฝ่ายทำร้าย เราก็ไม่ควรทำแบบนั้นเช่นกัน แต่หากยังไม่ยอมและมีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น พ่อแม่ควรปรึกษากับครูประจำชั้นเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ให้เด็กทั้งสองคนทำความรู้จักกัน หากิจกรรมทำร่วมกัน และสังเกตุพฤติกรรมเป็นระยะ
สังเกตุพฤติกรรมความรุนแรงของลูก
ไม่ใช่ว่าลูกของเราจะโดนรังแกอยู่ฝ่ายเดียว หากเราพบว่าลูกของเรานั้นไปรังแกเพื่อน เราก็ควรกลับมาพิจารณาตนเอง ว่าได้ทำพฤติกรรมที่ทำให้เกิดการเลียนแบบหรือไม่ หรือมีปัจจัยไหน ในการส่งเสริมพฤติกรรมความรุนแรงลูก ควรสอนให้เค้ารู้จักการรอ ใจเย็น การเอื้อเฟื้อ ไม่ก้าวร้าว โดยที่คุณเริ่มทำให้เค้าดูบ่อยๆ และให้เค้าได้สัมผัสด้วยตัวเอง เช่น การแบ่งขนมให้น้องหรือเพื่อน การขอสิ่งของด้วยคำพูดที่นุ่มนวล และการที่ให้เค้าได้ร่วมทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬาต่างๆ เพื่อลดความตึงเครียด และอารมณ์ดี
เด็กทุกคนล้วนมาจากต่างถิ่น ต่างบ้าน ต่างการอบรมสั่งสอน จึงเป็นการยากที่จะป้องกันไม่ให้ลูกถูกรังแกเลย เพราะฉะนั้นเราควรสอนให้เค้ารับมือด้วยตนเอง เข้มแข็ง และควบคุมอารมณ์ให้ได้ นอกจากจะทำให้ลูกคุณใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนได้อย่างมีความสุข มันจะทำให้เค้า โตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีความกล้า สามารถเผชิญปัญหาโลกภายนอกได้อย่างดีเยี่ยม
สินค้าเด็ก ,
ผลิตภัณฑ์เด็ก