นอกจากอาหารที่ดีแล้ว การเลี้ยงดูแมวให้มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง มีคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ แบ่งออกเป็น 3 ส่วนสำคัญ ซึ่งได้แก่
ส่วนที่ 1 ตัวแมว
1. การทำวัคซีนและการถ่ายพยาธิตามกำหนดของสัตวแพทย์ ทุกๆปี
2. การตรวจสุขภาพจากเลือด และ จากปัสสาวะของแมว อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง สำหรับแมวที่มีอายุมากกว่า 5 ปี หรือแมวที่มีโรคประจำตัว
3. แมวที่ทำหมันแล้ว ควรมีการควบคุมปริมาณการกินอาหารให้เหมาะสมกับกิจกรรมในแต่ละวัน เพื่อไม่ให้แมวมีน้ำหนักมากเกินไป ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ได้ เช่น โรคนิ่ว โรคเบาหวาน เป็นต้น
4. ควรมีการป้องกันพยาธิ ภายนอก เช่น ตัวหมัด และ ตัวไรอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะแมวที่เลี้ยงปล่อยอิสระ
ส่วนที่ 2 อาหารและน้ำ
1. ปริมาณการให้อาหารแมว ขึ้นอยู่กับกิจกรรมในแต่ละวันตามความเหมาะสม ของความต้องการพลังงานของแมว โดยสามารถประเมินได้จากอายุ น้ำหนักของแมว ซึ่งสามารถเทียบเคียงได้จากฉลากของถุงอาหารแมว
2. การเลี้ยงแมวหลายๆ ตัว แนะนำการให้อาหาร โดยแยกอย่างเป็นสัดส่วนของแมวแต่ละตัว ทั้งนี้เพื่อให้แมวแต่ละตัวได้รับอาหารอย่างเพียงพอ ทั้งยังเป็นการป้องกันโรคติดต่อที่เกิดจากการกินของแมวแต่ละตัวได้อีกด้วย
3. จำนวนมื้ออาหารของแมว ขึ้นอยู่กับ ความสะดวกของผู้เลี้ยง อายุ และสุขภาพของแมว ไม่แนะนำให้ทิ้งอาหารเอาไว้ตลอดเวลา เพื่อลดการปนเปื้อนอาหารจากสิ่งแวดล้อม
4. แมวชอบกินน้ำที่สะอาดและใหม่อยู่เสมอ ดังนั้น ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำให้บ่อยครั้ง ทำความสะอาดถาดน้ำเป็นประจำ และควรที่จะวางถาดน้ำไว้หลายๆ จุด ทั้งบริเวณที่กินอาหาร บริเวณที่เล่น และ บริเวณที่นอน
5. แมวที่กินอาหารเม็ดและกินน้ำได้น้อยในแต่ละวัน วิธีที่จะช่วยเพิ่มปริมาณการกินน้ำอย่างง่ายๆ ก็คือ การเพิ่มน้ำอุ่นลงในอาหาร การเพิ่มอาหารเปียก การเพิ่มอาหารกระป๋อง อย่างไรก็ตามการปรับเปลี่ยนอาหารจากเดิม ควรจะค่อยๆ ปรับเปลี่ยน เพื่อลดโอกาสการเกิดท้องเสียด้วย
6. บริเวณที่วางถาดอาหาร ควรเป็นบริเวณที่สะอาดและใกล้กับบริเวณที่วางถาดน้ำ สิ่งสำคัญคือ ควรอยู่ห่าง
จากถาดทรายและบริเวณที่แมวขับถ่าย
ส่วนที่ 3 การจัดการสิ่งแวดล้อม
1. ถาดทรายและทรายแมว เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับการขับถ่ายของแมว ควรทำความสะอาดทรายแมวอย่างสม่ำเสมอ และ วางถาดทราย อย่างน้อย 1 หรือ 2 จุด
ข้อแนะนำ อาหารแมว สำหรับการดูแลสุขภาพของแมว ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.petcitiz.info/อาหารแมว/