รถเข็นคนไข้ด้านการเตรียมความพร้อมของคนป่วยที่จะนั่งเก้าอี้รถเข็นคนเจ็บนั้น มีส่วนประกอบหลายด้านซึ่งในทุกๆด้าน
จำต้องพร้อม ก็เลยจะสามารถใช้เก้าอี้รถเข็นได้ แต่ว่าดังนี้จะต้องผ่านการประมาณจากหมอและก็นักกายภาพบำบัด
โดยส่วนประกอบของคนไข้ต้องมี
1 เลือกชนิดของเก้าอี้รถเข็นคนเจ็บให้ถูกกับลักษณะการป่วยหรืออาการเจ็บ
2 เลือกขนาดที่สมควรซึ่งมีความสูงของที่นั่ง ความกว้างของที่นั่ง ความยาวของที่นั่ง ฯลฯ
3 คนป่วยจะต้องฝึกหัดนั่งบนเตียงหรือนั่งบนเก้าอี้มาสักระยะหนึ่ง เพื่อระบบการสูบฉีดเลือดดีในขณะนั่ง
ซึ่งต้องไม่กำเนิดอาการหน้ามืดตาลายโดยคนเจ็บควรจะนั่งให้ได้ 3 ชั่วโมงต่อวัน
ก่อนจะใช้เก้าอี้รถเข็นคนเจ็บดังนี้จะมีส่วนประกอบ 3 ต้นสายปลายเหตุดังต่อไปนี้
1 ความคงทนต่อการนั่ง เพื่อประเมินระบบการไหลเวียนของเลือดให้ธรรมดาสูงที่สุด
โดยเริ่มฝึกหัดนั่งเป็นนาทีแล้วขยับเป็นชั่วโมงซึ่งเมื่อสามารถนั่งได้นานก็จัดได้ว่าสามารถนั่งเก้าอี้ล้อเข็นได้
2 ความสมดุลของการเลี้ยงตัวซึ่งเกี่ยวกับการควบคุมกล้ามข้างหลัง ตัวอย่างเช่น ถ้านั่งแล้วยังเอนไปเอนมา
ก็จำต้องฝึกฝนนั่งได้ตรงแล้วก็คงเดิมซะก่อน ก็เลยจะจัดว่าสามารถนั่งเก้าอี้รถเข็นได้
3 ดวงใจพร้อมถ้าผู้มีความต้องการสำหรับการลุกนั่งเองจะเป็นสัญญาณที่ดีเลิศ เนื่องจากว่ามีสาเหตุมาจากความจำเป็นในเพศผู้ป่วยไข้เอง
แม้กระนั้นแม้ผู้เจ็บป่วยไม่มีความพร้อมเพรียงหรือถูกบังคับ ชอบไม่ร่วมมือสำหรับการฝึกหัดฉะนั้น
ต้องมีเหตุที่เกิดจากความพร้อมเพรียงของคนไข้เองก็เลยจะจัดว่ามีความพร้อมเพรียง การฝึกฝนความพร้อมเพรียงของกล้าม
ก่อนจะให้คนป่วยหรือผู้ทุพพลภาพได้ใช้เก้าอี้รถเข็นคนเจ็บ หมอและก็นักกายภาพบำบัดจะกระทำการเตรียมพร้อมของร่างกาย
แก่บุคคลนั้น ให้มีความเข้าใจตามสิ่งที่มีความต้องการสำหรับในการใช้งานเก้าอี้รถเข็นคนเจ็บ ซึ่งโดยธรรมชาติการใช้เก้าอี้รถเข็นนั้น
ร่างกายจะต้องมีกล้ามข้างหลังและก็แขนที่แข็งแรง
โดยเหตุนี้ก็เลยมีวิธีการฝึกฝนกล้ามเพื่อเตรียมความพร้อมใช้เก้าอี้รถเข็นคนป่วยดังนี้
1 ท่านั่ขี้เหนียวอดอก ให้คนป่วยนั่งกอดอกตั้งตัวตรง ถ้ายังมีการเข้าข้างไม่นิ่งก็จะต้องฝึกหัดให้นั่งได้ตรงแล้วก็นิ่ง
2 ถ้าเกิดเริ่มจับข้าวของ ภายหลังจากนั่งหลังตรงได้นิ่งแล้วแล้วหลังจากนั้นจะปรับปรุงให้เริ่มถือหรือจับข้าวของข้างหน้าและก็ข้างๆ
ซึ่งผู้เจ็บป่วยต้องเอนไปจับข้าวของแล้วจำเป็นต้องดึงตนเองกลับได้ด้วย โดยเบาๆฝึกฝนให้เอื้อมได้ไกลมากขึ้น
3 ท่าฝึกฝนกล้ามแขนด้วยการดึงยางยืดหรือการชูดัมเบล การฝึกหัดกล้ามแขนนั้นเพื่อช่วยสำหรับในการประคองตัวรวมทั้งดันตนเองได้
ไม่มีการล้ม หรือมีการเจ็บ