รู้จักเทคโนโลยีที่พักอาศัยในยุคของ IoT (Internet of Things) ที่อะไรๆ ก็พัฒนาขึ้นเพื่อมาตอบสนองความต้องการ สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้คน พลัสฯ รวมเทคโนโลยีสำหรับคอนโด และเทคโนโลยีสำหรับบ้านมาไว้ให้แล้วที่นี่
IoT คือ สัญญาณเครือข่ายที่เชื่อมต่อสิ่งต่างๆ เข้าด้วยกัน ด้วยเซ็นเซอร์ โปรแกรม หรือเทคโนโลยีอื่นๆ โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้สิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ ระบบ ที่เชื่อมหากันติดต่อ แลกเปลี่ยน ถ่ายโอนข้อมูลกันได้ผ่านสัญญาณอินเทอร์เนต
ในทุกวันนี้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากแทรกซึมจนแทบจะเป็นส่วนหนึ่งในการดำรงชีวิตไปแล้ว เมื่อทุกอย่างถูกเชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เนต ข้อมูลต่างๆ อยู่บนออนไลน์ นำไปวิเคราะห์ให้ระบบได้เรียนรู้ จนสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งาน และนำมาพัฒนาเป็นสินค้าและบริการเพื่อตอบสนองความต้องการได้สูงสุด
เทคโนโลยีเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย คือ เทคโนโลยีที่จะมาช่วยให้การอยู่อาศัยในบ้าน คอนโด สะดวกสบายขึ้นโดยทำงานเชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เนตภายในบ้าน หรือระบบไร้สาย เชื่อมต่อผ่าน Smart Phone เพื่อให้เราสามารถใช้งานได้อย่างอัตโนมัติ หรือช่วยเก็บสถิติการใช้งาน แจ้งเตือนเหตุการณ์ต่างๆ จนกระทั่งเรียนรู้พฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยเพื่อตอบสนองความต้องการได้อย่างตรงใจ
ปัจจุบันหลายๆ บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ก็มีการนำเทคโนโลยีที่พักอาศัยเหล่านี้เข้ามาพัฒนาในคอนโด บ้าน ทาวน์โฮม เพื่อสร้างสรรค์รูปแบบและการบริการให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนในยุคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน
ได้รวบรวมเทคโนโลยี และนวัตกรรมการอยู่อาศัยที่ได้ถูกคิดค้น พัฒนาและนำมาใช้กับโครงการต่างๆ ในคอนโด และบ้านเดี่ยว เรามาดูกันว่ามีเทคโนโลยีอะไรที่เข้ามาช่วยตอบโจทย์ และทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นบ้าง
1. Home Automation
เทคโนโลยี Home Automation นี้ คือ ระบบควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ทั้งหมดภายในบ้าน คอนโด เช่น ควบคุมระบบไฟ เครื่องปรับอากาศ เครื่องใช้ไฟฟ้า ระบบรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิด กริ่งหน้าบ้าน เปิด-ปิดม่าน รดน้ำต้นไม้ ฯลฯ ซึ่งทุกสิ่งเหล่านี้สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เนต และควบคุมการทำงานผ่านสมาร์ทโฟน ไม่ว่าเราจะอยู่ส่วนไหนของบ้าน หรือแม้จะไม่ได้อยู่ในบ้านก็ตาม
2. Smart Facility
Smart Booking ระบบการจองพื้นที่ส่วนกลางผ่านสมาร์ทโฟนพร้อมระบบการเเจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาการจอง เทคโนโลยีนี้ได้นำมาใช้กับโครงการคอนโดมิเนียม และหมู่บ้านจัดสรรที่มีพื้นที่ส่วนกลางกับสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่างๆ เช่น ห้องประชุม ห้องเอนกประสงค์ อุปกรณ์ฟิตเนสเฉพาะอย่าง สระว่ายน้ำจากุซซี่ ฯลฯ
ระบบนี้จะช่วยจัดการปริมาณการใช้งานได้โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน หรือมีผู้ใช้จำนวนมาก และจำกัดเวลาการใช้งาน เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกันได้อย่างเท่าเทียมกัน
Smart Locker ระบบนี้ในคอนโดมิเนียมหลายๆ แห่งก็ได้พัฒนาขึ้นเป็นล็อกเกอร์ของตัวเอง หรือใช้บริการจากผู้พัฒนารายอื่น โดย Smart Locker นี้ สามารถรับพัสดุ สิ่งของได้ 24 ชั่วโมง พร้อมระบบแจ้งเตือน ควบคุมการทำงานผ่านสมาร์ทโฟน
Smart Mail Box ระบบเเจ้งเตือนการรับจดหมาย หรือเอกสารต่างๆ เเละสามารถใช้ QR CODE เพื่อปลดล็อกตู้จดหมายโดยไม่ต้องใช้กุญเเจ
Smart Access ระบบการเข้า-ออกพื้นที่ผ่านสมาร์ทโฟน ทั้งทางเข้าโครงการ ล็อบบี้ ประตูบ้าน/ห้องพัก และยังมีระบบให้เพื่อนหรือผู้มาติดต่อเข้ามายังที่พักได้โดยไม่ต้องลงไปรับ สะดวก ปลอดภัย และยังช่วยป้องกันคนแอบอ้างได้อีกด้วย
3. EV Charger
เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต โดย EV CHARGER คือเครื่องเติมประจุไฟฟ้าสำหรับรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า เทคโนโลยีที่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และทำให้โลกสะอาดขึ้น ปัจจุบันมีผู้พัฒนาอสังหาฯ หลายรายนำเข้ามาติดตั้งในโครงการเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเติมไฟฟ้าได้เองจากสถานีได้โดยสะดวก
4. Automated Parking
ระบบจอดรถอัตโนมัติ เป็นระบบการจอดรถที่ไม่ต้องเสียเวลาขับวนหาที่จอดรถอีกต่อไป เพียงนำไปจอดในลิฟท์เตรียมไว้ ระบบก็จะนำรถของคุณไปจอดให้ และเมื่อต้องการใช้รถก็สามารถเรียกให้มาจอดได้ง่ายๆ ผ่านทางสมาร์ทโฟน
5. Service Application
แอพลิเคชันสำหรับลูกบ้านผู้พักอาศัยในโครงการที่ช่วยในการติดตามข่าวสาร การแจ้งเตือน แจ้งซ่อม ชำระค่าส่วนกลาง ชำระค่างวด และยังเป็นช่องทางไว้ติดต่อสื่อสารกับนิติบุคคลได้อีกด้วย ตัวอย่างแอพลิเคชั่นของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อไว้ติดต่อสื่อสารกับลูกบ้านมีชื่อว่า Living Plus Application จัดการทุกเรื่องการอยู่อาศัยได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว
เทคโนโลยีการอยู่อาศัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://techwealth99.com/