ผู้เขียน หัวข้อ: รวมข้อดีของการจัดฟัน เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดียิ่งขึ้น  (อ่าน 70 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,394
  • พอยท์: 100
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
นอกจากเพิ่มความสดใสให้รอยยิ้มสวยดูเป็นธรรมชาติแล้ว การจัดฟันยังช่วยแก้ปัญหาสุขภาพช่องปากในระยะยาวด้วย แล้วรู้หรือไม่ว่าข้อดีของการจัดฟันมีอะไรบ้าง มาดูกันครับ


การจัดฟันคืออะไร

เป็นวิธีการรักษาปัญหาฟันโดยคุณหมอจะวินิจฉัยและวางแผนการรักษาเพื่อแก้ปัญหาฟันเรียงตัวผิดปกติ, สบฟันผิดปกติ และขากรรไกรมีรูปร่างผิดธรรมชาติที่ส่งผลให้ทำความสะอาดเศษอาหารในช่องปากยากกว่าคนทั่วไป เสี่ยงต่อปัญหาฟันที่อาจเป็นอันตรายในระยะยาว เช่น ฟันผุและโรคเหงือกอักเสบ เมื่อวางแผนเสร็จคุณหมอจะเคลียร์ช่องปากและติดเครื่องมือจัดฟันเพื่อให้ฟันเคลื่อนที่ไปตามการรักษา การจัดฟันจะช่วยให้คนไข้สบฟันได้ปกติ ส่งผลให้การบดเคี้ยวมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม แถมยังลดโอกาสเกิดปัญหาช่องปากและช่วยให้คนไข้รักษาสุขภาพช่องปากได้ง่ายขึ้นด้วย

 
ข้อดีของการจัดฟันที่คุณอาจคาดไม่ถึง

1. รูปหน้าเปลี่ยน ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

หากคุณมีปัญหาฟันยื่น, กรามเด่นชัดเกินไป ดูไม่พอดีกับโครงสร้าง เมื่อถอนฟันเพื่อเคลียร์ช่องปากและจัดฟันให้เคลื่อนตัวเข้าที่แล้ว จะทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาฟันของแต่ละบุคคลด้วย


2. แก้ปัญหาทานอาหารลำบาก

สำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันเรียงตัวไม่เป็นระเบียบและเกิดภาวะสบฟันผิดปกติ เมื่อต้องเคี้ยวอาหารอาจทำให้ฟันไปกัดโดนริมฝีปาก, เหงือก หรือกระพุ้งแก้ม ทำให้ไม่กล้าเคี้ยวอาหาร จึงเลือกที่จะเคี้ยวเพียงเล็กน้อยแล้วค่อยกลืน ซึ่งจะทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนัก


3. ออกเสียงชัดเจนขึ้น

สำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันห่าง ทำให้การออกเสียง ส และ ฟ ยาก แต่เมื่อจัดฟันให้เข้าที่แล้วจะทำให้คนไข้ออกเสียงชัดเจนกว่าเดิม


4. เอื้อประโยชน์ต่อการรักษาปัญหาสุขภาพอื่น

อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่าปัญหาฟันจะส่งผลให้เกิดปัญหาตามมา เช่น การเคี้ยวอาหารไม่ละเอียดที่ทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนัก จึงเกิดการหลั่งกรดในกระเพาะและทำให้กระเพาะบีบตัวมากขึ้น เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหารอักเสบ, อาการปวดหัวบ่อย ๆ ที่เกิดจากปัญหาฟันผุ การจัดฟันจะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างถาวร

 
ใครบ้างที่ควรจัดฟัน

    ผู้ที่มีขากรรไกรผิดปกติจนหน้าเบี้ยวขั้นรุนแรง
    ผู้ที่มีขากรรไกรยื่นออกมามาก จนหุบริมฝีปากไม่ได้
    ผู้ที่มีขากรรไกรล่างสั้น ทำให้คางสั้นกว่าคนทั่วไป
    ผู้ที่มีสัดส่วนของขากรรไกรบน/ล่าง ไม่เท่ากัน ทำให้สบฟันผิดปกติ
    ผู้ที่มีฟันเรียงตัวผิดปกติและเกิดปัญหาช่องปากระยะยาว
    ผู้ที่ยิ้มแล้วเหงือกโผล่มามากกว่าปกติ
    ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการกลืนอาหารและการหายใจ

 
ขั้นตอนการจัดฟัน

1. ตรวจสุขภาพช่องปากเบื้องต้น

หมอฟันจะเอ็กซเรย์ช่องปากคนไข้เพื่อดูกระดูกขากรรไกรและลักษณะของฟัน หากพบความผิดปกติ เช่น ฟันผุ, ฟันคุด, ฟันเก ฯลฯ หมอจะรักษาอาการเหล่านี้เพื่อเคลียร์ช่องปากก่อนการจัดฟัน ถ้าหากไม่แก้ปัญหาเหล่านี้อาจส่งผลทำให้ใช้เวลารักษานานขึ้น แถมยังเสี่ยงต่อปัญหาฟันผุและโรคเหงือกอักเสบตามมา

 
2. เลือกเครื่องมือจัดฟัน

หลังจากวางแผนการรักษาแล้ว คุณหมอจะแนะนำเครื่องมือจัดฟันแต่ละชนิด ได้แก่ แบบโลหะ, ดามอน, เซรามิก และแบบใส เพื่อเป็นทางเลือกในการรักษา ทั้งนี้บางคนอาจต้องรักษาเพียงแบบใดแบบหนึ่งเท่านั้น ขึ้นอยู่กับปัญหาและช่องปากของแต่ละคน ซึ่งการรักษาแต่ละแบบมีเงื่อนไขในการรักษาและการดูแลช่องปากแตกต่างกันไป คุณควรเลือกการรักษาที่เหมาะกับปัญหาช่องปากของคุณและงบที่คุณจ่ายไหวด้วย

 
3. ติดเครื่องมือจัดฟัน

หลังจากเคลียร์ช่องปากแล้ว หมอฟันจะฉีดยาชาเข้าไปเพื่อไม่ให้รู้สึกเจ็บปวดขณะติดเครื่องมือ แต่จะรู้สึกปวดฟันหลังจากติดเครื่องมือในช่วงสัปดาห์แรก (ส่วนใหญ่อยู่ที่ 3-5 วัน) แต่อาการปวดจะหายไปเอง ระหว่างที่รู้สึกปวด แนะนำให้ทานยาแก้ปวดฟันบรรเทาอาการและทำความสะอาดช่องปากเป็นประจำหลังมื้ออาหาร โดยใช้แปรงซอกฟันควบคู่กับแปรงสีฟันเพื่อบรรเทาอาการปวดและป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นจากการทำความสะอาดฟันไม่ทั่วถึงอย่างโรคเหงือกอักเสบด้วย

 
ประเภทของเครื่องมือจัดฟัน

1. จัดฟันแบบโลหะ

หรือ การจัดฟันแบบยางสี เป็นการจัดฟันโดยใช้ยางรัดลวดจัดฟันให้ติดกับแบร็กเก็ต และให้โลหะเงินช่วยดึงฟันไปยังตำแหน่งที่วางแผน ข้อดีของการจัดฟันประเภทนี้อยู่ตรงราคาที่ถูกกว่าการจัดฟันแบบอื่นและไม่ต้องถอดทำความสะอาดบ่อย ๆ เนื่องจากแบร็กเก็ตยึดติดกับฟันไปแล้วจึงถอดเองไม่ได้ ส่วนข้อเสียของการจัดฟันโลหะคือการทำความสะอาดยาก, มีเศษอาหารติดตามซอกฟันง่าย หากความทำสะอาดไม่ดี อาจนำมาสู่โรคเหงือกอักเสบได้ ทางเราแนะนำให้แปรงซอกฟันควบคู่กับแปรงสีฟันด้วย การจัดฟันโลหะจะใช้ระยะเวลารักษาอยู่ที่ 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาฟันและการดูแลรักษาของแต่ละบุคคล

 
2. จัดฟันแบบเซรามิก

เป็นการจัดฟันที่มีรูปแบบเหมือนโลหะ เพียงแต่ใช้เซรามิกใสมาติดบนผิวด้านหน้าฟันและมีสีเหมือนฟัน ยังคงมีแบร็กเก็ตและมียางรัดฟันหรือโอริงสีใสอยู่เหมือนเดิม แต่ลวดก็ยังเป็นสีโลหะ เพื่อปรับทิศทางของฟันให้เคลื่อนไปตามแผนของคุณหมอ การจัดฟันแบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการให้คนอื่นเห็นโลหะด้านหน้าฟัน ส่วนระยะเวลารักษาจะอยู่ที่ 2-3 ปี

 
3. จัดฟันแบบดามอน

เป็นการจัดฟันด้วยเครื่องมือจัดฟันชนิดติดแน่นแบบไม่รัดยาง ของยี่ห้อดามอน ข้อดีคือไม่ต้องใช้ยางยึดติดลวดกับเหล็กจัดฟัน แต่ใช้แบร็กเก็ตเป็นบานล็อคเปิด-ปิด มาแทนที่ และใช้ลวดจัดฟัน Space-age archwires ชนิดพิเศษ คนไข้จึงไม่รู้สึกปวดเหมือนการจัดฟันแบบโลหะ แถมยังทำความสะอาดง่ายกว่า อีกทั้งลดความเสี่ยงต่อการเกิดคราบหินปูนที่ติดบริเวณเครื่องมือ ด้วยความที่ตัวเครื่องมือมีแรงเสียดทานน้อย จึงทำให้ฟันเคลื่อนที่ตามแผนการรักษาเร็วขึ้น และเอื้อต่อการขยายพื้นที่ให้ฟันเรียงตัว คุณหมอจึงไม่ต้องถอนฟันเพื่อหาช่องว่างสำหรับจัดฟันด้วย การจัดฟันแบบดามอนเหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาไปหาหมอฟันและไม่อยากเจ็บปวดในช่วงที่ฟันเคลื่อน ใช้ระยะเวลารักษาอยู่ที่ 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาฟันและการดูแลรักษาของแต่ละบุคคล

 
4. จัดฟันแบบใส

เป็นการจัดฟันโดยใช้เครื่องมือจัดฟันที่ทำจากพลาสติกผิวเรียบใส โดยตัวเครื่องมือถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่แสดงผลผ่านวิดีโอ 3D หลักการทำงานของเครื่องมือจัดฟันใสคือการส่งผ่านแรงชนิดเบาแบบต่อเนื่อง ช่วยให้ฟันเคลื่อนที่ต่อเนื่อง แถมยังสามารถคาดคะเนผลลัพธ์ง่ายกว่าการจัดฟันประเภทอื่น รวมถึงลดอาการระคายเคืองในช่องปาก, สะดวกต่อการถอดทำความสะอาด จึงลดความเสี่ยงต่อโรคฟันผุ และตัวเครื่องมือมีสีเหมือนฟันธรรมชาติ จึงดูไม่ออกเลยว่ากำลังจัดฟันอยู่ เหมาะสำหรับใครที่ไม่อยากให้คนอื่นเห็นเครื่องมือ, ผู้ที่มีปัญหาฟันซ้อนเกจำนวนมาก และผู้ที่ไม่สะดวกมาหาหมอฟันบ่อย ๆ ทั้งนี้คนไข้จะต้องเปลี่ยนชุดเครื่องมือทุก ๆ 2 สัปดาห์ การจัดฟันใสมีทั้งหมด 4 ประเภท

 
4.1 Invisalign Express

    มีอุปกรณ์จัดฟันทั้งหมด 7 ชิ้น
    เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันเล็กน้อย
    สามารถเลือกจัดฟันเพียงด้านบนหรือล่างได้
    ใช้เวลาจัดฟันประมาณ 3 เดือน

 
4.2 Invisalign Lite

    มีอุปกรณ์จัดฟันทั้งหมด 14 ชิ้น
    เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันเก ฟันซ้อน
    ใช้เวลาประมาณ 4 เดือน

 
4.3 Invisalign Full (Moderate)

    มีอุปกรณ์จัดฟันทั้งหมด 26 ชิ้น
    เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันมาก จึงต้องขยับฟันหลายซี่
    ใช้เวลาประมาณ 4 เดือน – 2 ปี

 
4.4 Invisalign Full (Comprehensive)

    มีอุปกรณ์จัดฟันทั้งหมด 99 ชิ้น
    เหมาะสำหรับปัญหาฟันทุกรูปแบบ
    ใช้เวลาประมาณ 1-4 ปี



รวมข้อดีของการจัดฟัน เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดียิ่งขึ้น อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/