ผู้เขียน หัวข้อ: ฟันยื่น ฟันเหยิน แก้ได้ด้วยการ จัดฟัน  (อ่าน 83 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,394
  • พอยท์: 100
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
ฟันยื่น ฟันเหยิน ถือได้ว่าเป็นปัญหาฟันอย่างหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อผู้ที่เป็นได้ ทั้งในเรื่องการรับประทาน และการพูด รวมไปถึง ทำให้สูญเสียความมั่นใจในตนเอง ซึ่งปัญหานี้สามารถแก้ได้ด้วยการ จัดฟัน


ฟันยื่น ฟันเหยิน คืออะไร

ฟันเหยิน คือ ลักษณะการเรียงตัวของฟัน ที่ฟันหน้าด้านบน มีการยื่นหรือบานออกมามากกว่าปกติ หรืครอบปิดฟันหน้าด้านล่าง  ส่วนฟันยื่น คือ ลักษณะของฟันที่มีฟันบน หรือฟันล่างไม่สบกัน ซึ่ง ฟันเหยิน ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในลักษณะของฟันยื่น แต่ฟันยื่น จะรวมถึง กรณีที่ฟันล่างยื่นด้วย

 

สาเหตุของฟันเหยิน

ฟันเหยิน เกิดได้จากสาเหตุเดียว หรือหลายสาเหตุร่วม ดังนี้
 
    พันธุกรรม ฟันเหยิน เป็นลักษณะที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากรุ่นสู่รุ่นได้
    ความผิดปกติของฟัน ฟันเหยิน เกิดได้จาก การเจริญเติบโตของขากรรไกรบน ที่มีมากกว่าปกติ หรือมีการเจริญเติบโต ของขากรรไกรล่างน้อยกว่าปกติร่วมด้วย หรืออาจเกิดจากฟันหน้าขึ้นเบียดกัน การสูญเสียฟันหน้าได้
    ความผิดปกติของกระดูกใบหน้า และกะโหลกศีรษะ ที่ส่งผลต่อ กระดูกเบ้าฟัน หรือกระดูกขากรรไกรได้
    ความผิดปกติของกล้ามเนื้อใบหน้า ในส่วนกล้ามเนื้อที่ใช้บดเคี้ยวอาหารที่ส่งผลให้กระดูกขากรรไกรล่างถูกดึงรั้งเข้าด้านใน
    พฤติกรรมผิด ๆ ที่เคยทำเป็นระยะเวลานาน เช่น ติดดูดนิ้ว ดูดจุกหลอด ดูนมขวด ที่ไม่เลิกดูด เมื่อมีอายุมากกว่า 3 ปี

 

ผลกระทบของฟันเหยิน

ฟันเหยิน ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ หากไม่ได้มีการยื่นที่มากจนเกินไป แต่หากมีการยื่นมาก  อาจส่งผลต่อการสบฟัน ทำให้ส่งผลต่อการกินอาหารหรือไม่สามารถกัดอาหารให้ขาดสนิท กลืนลำบาก เคี้ยวไม่สะดวก รวมถึง ผู้ที่ฟันเหยิน อาจมีปัญหาในการพูดไม่ชัดได้


ฟันยื่น ฟันเหยิน จัดฟันแก้ได้

ผู้ที่มีฟันยื่น หรือฟันเหยิน ส่วนใหญ่สามารถรักษาได้ด้วยการจัดฟัน เพื่อฟันมีการเรียงตัวที่สวยงามขึ้น ในการจัดฟันเพื่อทำการรักษา อาจต้องมีการถอนฟันแท้บางซี่ เพื่อให้เคลียร์ช่องปากให้มีพื้นที่เพียงพอให้ส่วนฟันที่เหยินออกมา เคลื่อนตัวถอยลงไปได้


รูปแบบของการจัดฟัน

ในปัจจุบัน การจัดฟันนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

1. การจัดฟันแบบโลหะ

การจัดฟันแบบโลหะ เป็นการจัดฟัน โดยการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ ในการปรับเปลี่ยนรูปแบบ สภาพของฟัน จะเป็นการจัดฟันที่ได้รับความนิยม เพราะว่ามันจะเห็นเหล็กจัดฟัน ในขณะที่เรากำลังจัดฟันอยู่ ซึ่งวิธีการในการจัดฟันแบบนี้นั้น ไม่มีความซับซ้อน แต่จะต้องไปพบกับทันตแพทย์ หรือหมอฟัน ที่ดูแลรักษา เคสการจัดฟันของเรา เป็นประจำทุกเดือน เพื่อทำการตรวจสอบ การเคลื่อนที่ของฟัน และการเปลี่ยนแปลงของสภาพฟัน และทันตแพทย์ จะทำการปรับเครื่องมือให้จนเสร็จ

ซึ่งโดยปกติทั่วไปแล้ว ก็จะใช้เวลาอยู่ที่ประมาณ 1 ปี – 2 ปี แล้วแต่อาการเริ่มต้น หรือสภาพฟันเริ่มต้น ของผู้ที่รับการรักษา การจัดฟันแบบโลหะ จะมีค่าใช้จ่ายถูกกว่า การจัดฟันแบบใส ซึ่งแต่ละคลินิก ก็จะมีโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อเอาใจลูกค้ากันอย่างมากมาย


2. การจัดฟันแบบใส

การจัดฟันแบบใส ( Invisalign ) อีกหนึ่งรูปแบบของการจัดฟันที่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจาก มีการใช้เครื่องมือ  แบบใส ครอบฟัน ทำให้ผู้อื่นดูไม่ออกได้ว่ากำลังจัดฟันอยู่ โดยมีข้อดี คือ จะไม่มีเหล็กมารบกวน เวลาที่เราจะทานอาหาร ทานขนม ในชีวิตประจำวัน แล้วการจัดฟันแบบใส ไม่จำเป็นต้องเข้าพบทันตแพทย์ทุกเดือน เหมือนการจัดฟันแบบโลหะ และการจัดฟันแบบใส ก่อนทำการรักษา สามารถใช้ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้ในการทำให้ผู้ที่ใช้บริการ สามารถเห็นสภาพฟันของตัวเอง หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการ ในการจัดฟันแบบใสได้ แต่ก็ต้องแลกมากับ ราคาค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า การจัดฟันแบบโลหะ แบบมากอยู่พอสมควร

อีกข้อดีของการจัดฟันแบบใส คือ เครื่องมือครอบฟัน สามารถ ถอด ล้าง ทำความสะอาดง่าย โดยสามารถถอดเครื่องมือ ออกมาเพื่อ แปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟันขจัดเศษอาหาร ที่อยู่ตามซอกฟันได้สะดวกกว่า ส่วนเครื่องมือ จัดฟันแบบใส ( Invisalign ) ก็ต้องทำความสะอาดง่าย เช่นกัน เพียงแค่ใช้แปรงสีฟันขัดเบา ๆ แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด และทำทุกวัน

ผู้ที่มีปัญหาฟันยื่น หรือฟันเหยิน ที่ต้องการรักษาฟันด้วยการจัดฟัน ควรเข้าพบทันตแพทย์เพื่อทำการปรึกษา รวมถึง ควรศึกษาถึงข้อดี ความเสีย และความเหมาะสมของรูปแบบในการจัดฟันด้วย เพื่อตามโจทย์กับความต้องการของผู้ที่จัดฟันได้มากที่สุด



ฟันยื่น ฟันเหยิน แก้ได้ด้วยการ จัดฟัน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/