ผู้เขียน หัวข้อ: ชุดนอนเชิ้ตขาว เนื้อผ้าดี บราลูกไม้ ตัดเย็บดี ใส่นอนสบาย ชุดนอน,ชุดนอนแบบอื่นๆ อ  (อ่าน 96 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ spammer

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 139,825
  • พอยท์: 100
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
ชุดนอนเชิ้ตขาว เนื้อผ้าดี บราลูกไม้ ตัดเย็บดี ใส่นอนสบาย ชุดนอน,ชุดนอนแบบอื่นๆ อาทิ จีสตริง Spandex พร้อมส่ง ส่งไปรษณีย์ไทย
การสั่งซื้อสินค้า มี 3 ช่องทาง

3 สั่งซื้อทางหน้าเวปไซต์ โดย ติดต่อทางเวปบอร์ด

==> กดสั่งซื้อที่ตระกร้าสินค้า พร้อมกรอกชื่อที่อยู่

 
 
วิธีสำหรับซัก ตาก รีด และรักษาเสื้อผ้าจำพวกต่างๆมีวิธีการ

๑. วิธีซักเสื้อผ้าไหม ส่วนใหญ่นิยมส่งร้านรับซักผ้า เพราะเหตุว่ามีวิธีการซักที่ยุ่งยาก รวมทั้งจะต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ แต่ถ้าเกิดจะซักเองควรซักด้วยมือ ห้ามใช้เครื่องซักผ้า เพราะว่าแรงเสียดสีของ เครื่องซักผ้าจะก่อให้เส้นใยเสีย โดยวิธีสำหรับซักเสื้อผ้าไหมด้วยมือมีขั้นตอน ดังนี้
๑) ใส่นํ้าใส่ลงในกะละมังเพียงพอท่วมผ้าที่จะซัก นำนํ้ายาซักแห้งเทใส่นํ้าในกะละมัง ใช้มือ แกว่งนํ้าจนกระทั่งนํ้ายาซักแห้งแตกฟอง
๒) นำผ้าไหมลงแช่ลงในนํ้าสักประเดี๋ยว ใช้มือกดผ้าให้เปียกรวมทั้งจมนํ้า ใช้มือขยี้เบาๆตรงที่เปรอะเปื้อน เช่น ปกเสื้อ ปลายแขนเสื้อ และก็ส่วนอื่นๆขยี้จนคราบเหงื่อไคล ฝุ่นผง แล้วก็สิ่งสกปรกออกจนถึงหมด ห้ามใช้แปรงถูผ้าไหมเด็ดขาดรวมทั้งผ้าไหมบางจำพวกห้ามซักด้วยสารซักฟอก เพราะจะทำลายความมันของเส้นไหม ปริมาณการใช้นํ้ายาซักแห้งให้ดูตามคำแนะนำบนฉลากสินค้า
๓) นำผ้าไหมที่ซักสะอาดแล้วขึ้นจากนํ้า ใช้มือบีบเบาๆให้นํ้าและก็นํ้ายาซักแห้งออกจนถึงหมด
๔) นำผ้าที่ยกขึ้นจากนํ้าแล้ว ไปล้างในนํ้าสะอาด ๒ ครั้ง แล้วต่อจากนั้นแช่ในอ่างนํ้าที่ผสม
นํ้ายาปรับผ้านุ่มไว้ชั่วประเดี๋ยว จำนวนการใช้นํ้ายาปรับผ้านุ่มให้ดูตามคำแนะนำบนฉลากสินค้า
๒. การตากผ้าไหม ทำเป็นดังนี้
๑) ชูผ้าไหมขึ้นจากนํ้ายาปรับผ้านุ่ม แล้วบีบเบาๆไล่นํ้าออก ห้ามบิดผ้าด้วยเหตุว่าจะมีผลให้ผ้าเป็นรอยยับ เสียรูปทรง
๒) สลัดผ้าเบาๆคลี่ออกใส่ไม้แขวน
๓) นำเสื้อผ้าใส่ไม้ห้อย ไปแขวนกับราวแขวนผ้าในที่ร่ม ที่มีลมพัดผ่าน
๓. การรีดเสื้อผ้าไหม มีขั้นตอนดังนี้
๑) นำผ้าไหมที่ซักตากแห้งเพียงพอหมาดๆมาพรมนํ้าหรือฉีดพ่นนํ้ายารีดผ้าเรียบให้ทั่ว ม้วนพับเก็บเอาไว้ภายในช่องที่มีไว้แช่แข็งของตู้แช่เย็น นานราว ๑-๒ ชั่วโมง เพื่อให้นํ้าหรือนํ้ายาที่ฉีดไว้ กระจายขาดทุนผ้าจนทั่วดี ไม่สมควรนำไปรีดหลังพรมนํ้าโดยทันทีจะก่อให้ผ้าด่างและไม่เรียบ
๒) นำผ้าไหมที่ม้วนเก็บเอาไว้ในตู้แช่เย็นมารีด โดยใช้ผ้าฝ้ายขนาดผ้าที่มีไว้สำหรับเช็ดหน้าวางทับบน ผ้าไหม แล้วจึงใช้เตารีด รีดบนผ้าฝ้าย ถ้าไม่วางผ้าฝ้ายทับบนผ้าไหมก่อน ความร้อนจากเตารีด จะทำให้ผ้าไหมสีไม่สดชื่น เป็นรอยเหลืองและก็เก่าเร็ว นอกเหนือจากนั้นหากไม่รีดบนผ้าฝ้ายให้รีดด้วย อุณหภูมิตํ่า หรือใช้เตารีดไอนํ้า และไม่ควรจะรีดผ้าไหมขณะที่ผ้าแห้ง เพราะเหตุว่าจะก่อให้ผ้ากระด้างวาวลื่น
๔. การรักษาผ้าไหม ทำเป็นดังนี้
๑) ภายหลังจากรีดผ้าไหมเป็นระเบียบแล้ว ควรจะห้อยไว้กับไม้แขวนเสื้อ แล้วนำไปแขวน เก็บไว้ในตู้ที่มีไว้เก็บเสื้อผ้า
๒) ถ้าเป็นเสื้อผ้าไหมที่ใช้แล้ว และยังไม่เปรอะเปื้อน ควรจะแขวนกับไม้ห้อยและนำไปผึ่งไว้ ในที่ร่ม ที่มีอากาศระบายดีถ้าเกิดเสื้อผ้าไหมเปรอะเปื้อนน้อย ควรชำระล้างเฉพาะจุดนั้นทันที ใส่ไม้แขวนนำไปผึ่งจนแห้ง รีดให้เรียบก่อนนำไปเก็บ

เสื้อผ้าฝ้าย

๑. แนวทางซักเสื้อผ้าฝ้ายเสื้อผ้าฝ้ายซักได้ด้วยมือหรือเครื่องซักผ้า แต่แนวทางซักด้วยมือจะถนอมเนื้อผ้ามากกว่า นอกเหนือจากนั้นแนวทางซักผ้าอย่างถูกแนวทางจะช่วยคุ้มครองปกป้องราขึ้นเสื้อผ้าได้ โดยมีขั้นตอนดังนี้
๑) แช่ผ้าฝ้ายในนํ้าเกลือ หรือนํ้าส้มสายยก ๑ คืน แล้วนำขึ้นบีบนํ้าออก
๒) ใส่สารซักฟอก ๑ ช้อน ต่อนํ้า ๑ กะละมัง ใช้มือแกว่งไกวกระทั่งกำเนิดฟอง นำผ้าลงซักขยี้เบาๆเอาขึ้นบีบนํ้าออกเบาๆนำไปล้างนํ้าสะอาด ๒ ครั้ง
๓) แช่ผ้าฝ้ายในอ่างนํ้าที่ผสมนํ้ายาปรับผ้านุ่มไว้สักครู่เอาขึ้นบีบนํ้าออก ถ้าเป็นผ้าฝ้ายสีขาวให้ซักในนํ้าสบู่หรือนํ้ายาฟอกขาว แต่ว่าจะต้องเป็นนํ้ายาฟอกขาวประเภทอ่อน ล้างด้วยนํ้าสะอาด จะปั่นให้แห้งด้วยเครื่องซักผ้าก็ได้
๒. การตากเสื้อผ้าฝ้าย ทำได้โดยนำเสื้อผ้าฝ้ายที่ซักเสร็จแล้ว ผึ่งและก็สะบัดให้คลี่ออก ใส่ไม้แขวนตากแดดจัดได้แม้กระนั้นไม่สมควรนานเกินความจำเป็น เนื่องจากว่าจะมีผลให้เส้นใยหมดสภาพและผ้าสีจางหากเป็นผ้าสีนําไปห้อยในที่ร่ม มีลมพัดผ่าน ใช้มือดึงผ้าให้ตึง อย่าให้มีรอยยับ จะช่วยให้รีดง่าย
๓. การรีดผ้าฝ้าย ทำเป็นโดยนำผ้าที่ตากไว้พอหมาดๆนำไปรีด ไม่ต้องประพรมนํ้า หรือจะใช้นํ้ายารีดผ้าเรียบก็ได้ และก็รีดด้วยอุณหภูมิสูง ผ้าจึงจะเรียบ
๔. การเก็บรักษาผ้าฝ้าย ผ้าฝ้ายจะขึ้นราได้ง่ายเมื่ออยู่ในที่อับเปียกชื้น การรักษาเสื้อผ้าฝ้าย ภายหลังซักแล้ว ควรใส่ไม้แขวนห้อยไว้ภายในตู้สำหรับเก็บเสื้อผ้า ซึ่งวางไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทดี แห้งแล้วก็เย็นไม่สมควรแขวนเสื้อผ้าในตู้สำหรับเก็บเสื้อผ้าให้แน่นมากสักเท่าไรนัก ควรจะแขวนหละหลวมๆทั้งก่อนเก็บเอาไว้ภายในตู้ควรให้เสื้อผ้าแห้งให้สนิทก่อน

เสื้อผ้าลินิน


๑. วิธีสำหรับซักเสื้อผ้าลินิน ซักด้วยมือ เพราะเหตุว่าไม่ทำให้ผ้ายับ รีดง่าย และแนวทางในการซักผ้าลินินสีขาว ควรซักในนํ้าอุ่น ผ้าลินินสีให้ซักในนํ้าเย็น รวมทั้งใช้สารซักฟอกที่มีส่วนผสมของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีเพื่อช่วยกำจัดคราบเลอะเทอะ
วิธีสำหรับซักผ้าลินินด้วยมือมีขั้นตอน ดังต่อไปนี้
๑) นำผ้าลินินแช่นํ้าสักครู่ยกขึ้นบีบเบาๆนำผ้าไปแช่ในนํ้าสารซักฟอกที่จัดเตรียมไว้แช่ไว้สักครู่เพื่อสารซักฟอกขจัดสิ่งสกปรก แล้วใช้มือขยี้ให้สิ่งสกปรกออกให้หมด แล้วเอาขึ้น จากนํ้าสารซักฟอก บีบนํ้าออกเบาๆไม่ควรบิดผ้าแรงๆเนื่องจากว่าจะก่อให้เกิดรอยยับ ยิ่งกว่านั้นยังใช้สารฟอกขาวคลอรีนได้
๒) นำผ้าไปล้างในนํ้าสะอาด ๒-๓ ครั้งจนกระทั่งหมดสารซักฟอก นำไปแช่ในอ่างนํ้าผสม นํ้ายาปรับผ้านุ่มสักครู่ยกขึ้นไล่นํ้าออก
๒. การตากเสื้อผ้าลินิน ทำเป็นโดยนำผ้าลินินที่ซักเสร็จแล้วใส่ไม้ห้อย ตากแดดจัด แต่ว่าไม่นานเกินไป แล้วตากลมไว้เพียงพอหมาดก็เลยนำไปรีด
๓. การรีดเสื้อผ้าลินิน ทำได้โดยนำเสื้อผ้าลินินที่ห่อไว้ หรือผึ่งลมเพียงพอหมาดๆไปรีด โดยใช้ความร้อนสูง และให้รีดด้านใน เพื่อให้ข้างนอกวาว
๔. การเก็บรักษาเสื้อผ้าลินิน ภายหลังจากรีดเสร็จแล้วให้ห้อยกับไม้ห้อย แล้วนำไปเก็บไว้ในตู้ที่มีไว้สำหรับเก็บเสื้อผ้า

เสื้อผ้าขนสัตว์


เสื้อผ้าขนสัตว์ รักษายาก เนื่องจากว่าเมื่อถูกความร้อนและก็เปียกชื้น ผ้าทำจากขนสัตว์จะเชื่อมชิดกันเป็นแผ่น และหดตัวทุกหนเมื่อแฉะ จำเป็นที่จะต้องส่งร้านซักอบรีดที่มีความเก่งในการซักรีดจะดีมากยิ่งกว่า
สำหรับวิธีการดูแลรักษาเสื้อผ้าขนสัตว์อย่างง่ายที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง มีดังนี้
๑. ใช้แปรงนุ่มๆแปรงฝุ่นผงออกทุกครั้งข้างหลังการใช้ ถ้าหากถูกนํ้าให้สะบัดออก อย่าแปรงขณะผ้าแฉะ
๒. ห้อยเสื้อผ้าขนสัตว์ในที่อากาศโปร่ง แห้ง และก็เย็น หรือใส่ลงในถุงพลาสติกแล้วแขวนในตู้ที่มีไว้เก็บเสื้อผ้า
๓. ห้ามใช้เสื้อผ้าชุดเดียวติดต่อกันนานนับเป็นเวลาหลายวัน เนื่องจากว่าเมื่อขนสัตว์มีการเสียดสีหรือเช็ดไปๆมาๆนานๆจะแข็งเป็นมัน บางจำพวกขนจะหลุด

เสื้อผ้าใยสังเคราะห์


๑. แนวทางในการซักเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ สามารถซักได้ด้วยมือแล้วก็เครื่องซักผ้า แต่ว่าซักมือจะถนอมเนื้อผ้ามากกว่า โดยแนวทางซักเสื้อผ้าใย สังเคราะห์มีวิธีการ ดังนี้
๑) ควรจะแยกผ้าสี รวมทั้งผ้าขาวออกจากกัน ไม่ควรซักรวมกัน เพื่อคุ้มครองสีจาง
๒) ซักในนํ้าธรรมดาหรือน้ำอุ่น ด้วยสารซักฟอกหรือสารซักฟอกชนิดอ่อนอย่างเบามือ แล้วล้างด้วยน้ำที่สะอาด ๒-๓ ครั้งแล้วบีบให้น้ำแห้ง
๓) ถ้าเกิดมีความสำคัญจะต้องฟอกขาว ควรจะใช้สารฟอกขาวอย่างอ่อน
๒. การตากเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ ตากแดดได้แต่จำต้องกลับเอาภายในออก เพื่อป้องกันไม่ให้สีซีดจาง และไม่ควรตากนาน พอเพียงหมาดเก็บ เข้าที่ร่ม
๓. การรีดเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ เสื้อผ้าใยสังเคราะห์เนื้อผ้าไม่ยับ ก็เลยไม่จำเป็นที่จะต้องรีดแม้กระนั้นหากจะรีด ควรจะใช้อุณหภูมิตํ่า
๔. การเก็บเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ ควรห้อยด้วยไม้ห้อยแล้วเก็บไว้ในตู้เก็บเสื้อผ้าเสื้อผ้าใยกึ่งสังเคราะห์

เสื้อผ้าใยครึ่งสังเคราะห์


๑. วิธีซักเสื้อผ้าใยครึ่งหนึ่งสังเคราะห์ เสื้อผ้าใยกึ่งสังเคราะห์เมื่อถูกนํ้าจะลดความเหนียวและก็ความทนทานไม่ทนกรด หากเลอะเทอะยางผลไม้หรือนํ้าผลไม้ต้องซักในทันที ควรจะซักแห้งหรืออาจซักนํ้าได้แม้กระนั้นผ้าจะยับมาก เสียเวลาซักนาน อย่าแช่นํ้าหรือทิ้งไว้ในนํ้านาน แล้วก็ควรจะใช้สารซักฟอกชนิดอ่อน ขณะซักไม่สมควรขยี้หรือบิดมากมาย หลังจากนั้นล้างนํ้าสะอาด ๒-๓ ครั้ง แล้วบีบนํ้าให้หมาด
๒. การตากเสื้อผ้าใยกึ่งสังเคราะห์ ควรแขวนตากในที่ร่ม
๓. การรีดเสื้อผ้าใยกึ่งสังเคราะห์ ควรจะรีดด้วยอุณหภูมิต่ำเพราะไม่ทนไฟ ถ้าหากความร้อนสูงจะละลาย
๔. การเก็บเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ ควรจะห้อยด้วยไม้แขวนแล้วเก็บในตู้ที่มีไว้สำหรับใส่เสื้อผ้า นอกจากเสื้อผ้าใยธรรมชาติ ใยสังเคราะห์ และใยกึ่งสังเคราะห์แล้ว ยังมีเสื้อผ้าไหมพรม และก็เสื้อผ้าที่ตกแต่งด้วยเลื่อมแล้วก็ลูกปัด ซึ่งควรจะมีขั้นตอนการดูแลอย่างประณีต ดังนี้

เสื้อผ้าไหมพรม


เสื้อผ้าไหมพรม เป็นผ้าที่ถักทอจากเส้นไหมพรม มีลักษณะนุ่ม ไม่ยับ ยืดหยุ่นเจริญ สวมอบอุ่น ป้องกันความหนาวได้ดี
๑. วิธีสำหรับซักเสื้อผ้าไหมพรมทำเป็นโดยซักมือหรือซักด้วยเครื่องซักผ้าได้ทั้งสองแนวทางควรที่จะใช้นํ้ายาซักแห้งซัก ขยำเบาๆเมื่อสะอาด หมดสิ่งสกปรก นำไปล้างนํ้าให้สะอาด ๒-๓ นํ้า นำไปแช่นํ้ายาปรับผ้านุ่มสักครู่ ไม่สมควรนำเสื้อผ้าไหมพรมต่างสีซักรวมกันสีจะตกได้เสื้อผ้าไหมพรมที่เปื้อนนํ้ามัน มีวิธีสำหรับซักโดยใช้นํ้าอุ่นๆผสมนํ้าสบู่หรือแฟ้บ ตีจนขึ้นฟอง นำเสื้อผ้าไหมพรมที่มีรอยเปื้อนแช่ลงไปประมาณ ๓๐ นาทีแล้วขยำเบาๆจนถึงสิ่งสกปรก นํ้ามันหลุดออกหมด เอาไปล้างในนํ้าอุ่น ๒-๓ ครั้ง จนถึงสะอาด นำไปตาก ภายหลังจากซักเสื้อผ้าไหมพรม ปูเสื้อไหมพรมลงบนพื้นโต๊ะ นำผ้าขนหนูแห้งๆปูทาบกับตัวเสื้อ แล้วม้วนไปพร้อมๆกัน ผ้าขนหนูจะดูดซึมนํ้าในเสื้อไหมพรมให้แห้งโดยไม่ต้องบิดเพราะว่าถ้าเกิดบิดจะก่อให้เส้นไหมพรมยับแล้วก็ยืด
๒. การตากเสื้อผ้าไหมพรม ทำได้โดยนำเสื้อผ้าไหมพรมที่ดูดซึมนํ้าจนแห้งแล้ว วางราบบนแผ่นกระดานยาว ผึ่งให้แห้งในที่ร่ม ไม่ควรนำเสื้อไหมพรมตากบนราวตากผ้า เพราะว่าผ้าไหมประพรมเป็นผ้าที่มีนํ้าหนักแล้วก็ทิ้งตัว จะมีผลให้ยืดย้วย ผิดลักษณะ
๓. การรักษาเสื้อผ้าไหมพรม ทำเป็นโดยพับเก็บเอาไว้ในตู้เก็บเสื้อผ้า ไม่สมควรแขวนเพราะจะก่อให้ยืดย้วย เสียรูปทรง

เสื้อผ้าที่ปักเลื่อมและก็ลูกปัด


เสื้อผ้าที่ปักเลื่อมและลูกปัด โดยมากจะตัดเย็บโดยใช้ผ้าไหม ผ้าป่านหรือผ้าลินิน ซึ่งซักรีดได้ยาก และต้องระวังไม่ให้เลื่อมหรือลูกปัดหลุดอีกด้วย ก็เลยจำเป็นต้องดูแลอย่างถูกวิธีดังนี้
๑. วิธีสำหรับซักเสื้อผ้าที่ปักเลื่อมแล้วก็ลูกปัด ทำเป็นโดยก่อนซักให้ตรวจค้นจุดเลอะเทอะก่อน ก็เลยนำไปแช่ชั่วประเดี๋ยว ยกขึ้นบีบนํ้าออกโดยไม่บิด แล้วหลังจากนั้นนำไปลงซักในกะละมังที่มีนํ้าผงซักฟอกที่ตีจนขึ้นฟอง ขยี้ส่วนเปรอะเปื้อนออกให้หมด ถ้าหากตรงจุดเปรอะเปื้อนเป็นที่ปักเลื่อมหรือลูกปัด ให้ขยี้เบาๆแล้ว เอาขึ้น นำเสื้อผ้าลงแช่ลงในอ่างนํ้าที่ผสมนํ้ายาซักแห้งสักครู่ และก็ขยี้ตรงที่ไม่มีลูกปัดล้างนํ้า ๑-๒ ครั้ง ยกขึ้นไล่นํ้าออก ห้ามบิด แล้วนำเสื้อผ้าลงแช่ลงในอ่างนํ้าผสมนํ้ายาปรับผ้านุ่มสักครู่ ยกขึ้นไล่นํ้าออกโดยไม่บิด
๒. การตากเสื้อผ้าปักเลื่อมและลูกปัด ทำได้โดยนำไปใส่ไม้ห้อย ผึ่งในที่ร่มที่มีอากาศระบายดี อย่านำไปตากแดด เพราะจะก่อให้ลูกปัดบิดรวมทั้งแตกหักง่าย
๓. การรีดเสื้อผ้าปักเลื่อมรวมทั้งลูกปัด ทำได้ดังต่อไปนี้
๑) ฉีดพ่นนํ้าให้ทั่วพอเพียงหมาดๆม้วนพักไว้สักครู่ นำไปฉีดนํ้ายาเพื่อผ้าเรียบ ม้วนให้นํ้ายารีดผ้าเรียบซับจนถึงทั่วก็เลยนำไปรีด
๒) การรีดผ้าปักเลื่อมและลูกปัด ให้กลับหัวกลับหางในออกนอก วางลงบนโต๊ะรีด ใช้ผ้าสาลูหรือผ้าลินินขนาดเท่าผ้าเช็ดหน้าชุบนํ้าจนทั่วพอหมาด วางทาบตรงปักเลื่อมรวมทั้งลูกปัดรีดเบาๆกระทั่งเสื้อผ้าปักเลื่อมลูกปัดแห้ง หลังจากนั้นให้กลับหัวใช้ปลายเตารีดเบาๆรีดผ้าที่อยู่ใกล้กับเลื่อมและลูกปัดเพื่อให้เรียบยิ่งขึ้น ส่วนตรงอื่นๆก็ใช้ผ้าสาลูหรือผ้าลินินชุบนํ้าพอเพียงหมาดวางทับและก็รีดจนถึงทั่วหมดทั้งตัว โดยรีดตรงปกและก็ตัวเสื้อ สำหรับแขนเสื้อรีดเป็นส่วนท้ายที่สุด
 
 
-------------------------------------------------------------------------------------------
วิธีดูแลเสื้อยืดสกรีนรวมทั้ง เสื้อโปโล


เสื้อโปโล จะได้รับผลกระทบในแบบที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพเนื้อผ้าของเสื้อผ้าของคุณไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระยะเวลาของลายปริ๊นบนเสื้อแล้วก็ช่วงเวลาของเสื้อกับการโต้ตอบต่อน้ำและสบู่ ถ้าคุณภาพของวัสดุยิ่งดี ช่วงเวลาสำหรับในการใช้ก็จะยิ่งแข็งแรง รวมทั้งเป็นเวลายาวนานมากขึ้นจ้ะ

1. สลับด้านเสื้อของคุณก่อนจะโยนมันเข้าไปในเครื่องซักผ้าแต่ทริคนี้ไม่ได้ใช้ได้เพียงแค่กับเสื้อยืดสกรีน, เสื้อโปโล หรือยีนส์

สามารถใช้ได้กับทุกผ้าเลยจ้ะ คุณประโยช์จากการกลับด้านเส้อผ้าของคุณก่อนเอามาซักจะคุ้มครองปกป้องให้สีจากเสื้อของคุณจางไว

2. แยกผ้าที่เสมือนๆกันออกมาซักทีละก้อนคุณอาจจะกำลังคิดอยู่สินะว่าคุณรู้อยู่แล้วล่ะเรื่องนั้น เป็นแบบคุณคงจะคิดใช่ไหมว่าคนเรานี่จะต้องเป็นคนชนิดไหนกันที่จะเอาผ้าทุกๆสีทุกๆแบบมาซักรวมกันนะ? ใช่ไหมล่ะ? และก็พวกเราก็อยากจะบอกกับคุณอีกว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องสีหรอกนะ มันเป็นเรื่องของเนื้อผ้า คุณควรที่จะแยกผ้าที่มีเนื้อผ้าคล้ายๆกันแล้วซักมันร่วมกัน ผ้าเดนิมและอื่นๆที่มีซิปกระดุมควรจะที่จะจับแยกกับผ้าอื่นๆอยางอย่างเช่น เสื้อยืด หรือ เสื้อโปโล ออกมาจากกันเลยจ้ะ เพราะว่าหากผ้าที่แข็งกว่ามันเสียดสีกับผ้าที่มีเนื้อบางกว่า นุ่มกว่า มันจะสามารถทำให้มีการเกิดการฉีกขาดได้เลย

3. ซักผ้ากับน้ำเย็นถ้าพูดถึงหัวข้อการซักผ้า น้ำเย็นมักจะเป็นตัวเลือกที่ดีเสมอส่วนน้ำอุ่นน่ะไม่สมควรเป็นตัวเลือกเดิมทีเลยล่ะ ทดลองทศเอาไว้ภายในจิตใจนะคะด้วยเหตุว่าเราจะกลับมากล่าวหัวข้อนี้กันอีกหลังจากนี้ นอกเสียจากว่าเสื้อยืด หรือ เสื้อโปโลของคุณไปโดนดินโดนโคลนจนเลอะเทอะมามันก็ไม่มีความสำคัญเลยที่คุณต้องใช้น้ำร้อนซักเสื้อผ้าของคุณ เนื่องจากน้ำเย็นก็ทำหน้าที่ก้าวหน้าพอที่จะทำความสะอาดเสื้อของคุณ ไม่ใช่แค่มันคุ้มครองปกป้องกลั่นหมึกออกจากเสื้อของคุณนะ แต่เป็นการใช้ไฟฟ้าน้อยลงด้วยอีกต่างหาก

4. บากบั่นอย่าย้อมเสื้อไม่ใช่แค่การย้อมสี หรือการกัดสีนะ แม้กระนั้นการใช้แฟ้บแรงๆอย่างน้ำยาปรับผ้านุ่มเองก็สามารถทำให้ความแน่น ความคงทนถาวรของ เสื้อเสื่อมสภาพลง ตรงข้าม ลองพยายามเลือกใช้สบู่ที่อ่อนลงที่จะสามารถดูแลเสื้อผ้าชองคุณได้เสียดีมากยิ่งกว่าจ้ะ

5. หลบหลีกการอบผ้า สำคัญสุดๆเลย! เครื่องอบผ้าก็แจ๋วดีอ่ะเนื่องจากประหยัดเวลาของเรา แม้กระนั้นมันถูกดีไซน์มาให้ทำลายผ้าพวกเราสุดๆเลยทราบไหม คิดออกไหมขาที่เราบอกคุณที่ผ่านมาในเรื่องของความร้อนกับผ้า? ทฤษฎีนี้ถูกใช้ในข้อนี้เช่นเดียวกันเลยนะ ความร้อนจะก่อให้ผ้าหด และทำให้รอยปริ๊น หรือรอบสรีนเป็นรอยแตก เก็บเครื่องอบผ้าไว้ใช้กับผ้าที่มีไว้เช็ดตัว หรือผ้าที่มีไว้เพื่อปูที่นอนดีมากยิ่งกว่าค่ะ แล้วตากผ้าในแบบที่เราทำกันมาแสนจะนานมากๆเหมือนเดิม และก็อย่าลืมบากบั่นหลบหลีกการปั่นแห้ง ทฤษฎีคล้ายๆกันเลยจ้ะ

6. ปล่อยผ้าให้แห้งในที่ร่ม แขวนผ้าในที่ร่มที่แดดไม่สามารถเข้าถึงได้โดยตรงสิค่ะ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งแสงสว่างที่มาจากดวงตะวัน) จะเป็นโทษต่อเสื้อผ้าและก็สีของเสื้อผ้าคุณแน่นอน แม้กระนั้นคุณอาจจะสงสัยสินะ เพราะว่าคุณก็ใส่เสื้อยืดสกรีนหรือ เสื้อโปโล ของคุณออกไปไหนมาไหนภายนอกตลอด ซึ่งก็ไม่เห็นจะมีอะไรผิดปกติเลยนี่? เรื่องนั้นก็จริงจ้ะ แม้กระนั้นแม้ว่าคุณจะออกไปข้างนอก คุณก็มิได้ใช้เวลาภายใต้แสงตะวันต่อเนื่องกันตรงเวลาหลายชั่วโมงอยู่ดี

7. หลีกเลี่ยงการรีดผ้า ความร้อนเป็นของต้องห้าม! แม้กระนั้นหากว่าคุณต้องจริงๆที่จะจะต้องรีดเสื้อยืดสกรีน หรือ เสื้อโปโล ของคุณ พวกเราก็อยากจะชี้แนะให้ท่านใช้ความร้อนในระดับที่ต่ำที่สุดของเตารีด รีดเสื้อผ้าของคุณในแบบกลับหัวกลับหาง

ขอบคุณบทความจาก : http://www.igetsee2.com/

Tags : ชุดนอนไม่นอน,ชุดนอนไม่ได้นอน,ชุดชั้นในลูกไม้