ผู้เขียน หัวข้อ: ชุดนอนเชิ้ตขาว เนื้อผ้าดี บราลูกไม้ ตัดเย็บดี ใส่นอนสบาย ชุดนอนไม่ได้นอน,ชุดนอนแ  (อ่าน 92 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ spammer

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 139,825
  • พอยท์: 100
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
ชุดนอนเชิ้ตขาว เนื้อผ้าดี บราลูกไม้ ตัดเย็บดี ใส่นอนสบาย ชุดนอนซีทรู,ชุดนอนแบบอื่นๆ อาทิ ชุดหนัง Spandex นำเข้า ส่งไปรษณีย์ไทย
การสั่งซื้อสินค้า มี 3 ช่องทาง

1 สั่งซื้อทาง line แอดไลน์ : @dtn2941a (มี @ ด้วยค่ะ)

==> ส่งรูปชุดที่ต้องการหรือรหัสสินค้า


 
 
แนวทางในการซัก ตาก รีด และก็รักษาเสื้อผ้าชนิดต่างๆมีวิธีการ

๑. แนวทางในการซักเสื้อผ้าไหม ส่วนมากนิยมส่งร้านซักอบรีด เพราะมีแนวทางการซักที่ยุ่งยาก รวมทั้งจะต้องประณีตบรรจงเป็นพิเศษ แต่ว่าหากจะซักเองควรจะซักด้วยมือ ห้ามใช้เครื่องซักผ้า เนื่องจากแรงเสียดสีของ เครื่องซักผ้าจะก่อให้เส้นใยทรุดโทรม โดยแนวทางซักเสื้อผ้าไหมด้วยมือมีขั้นตอน ดังต่อไปนี้
๑) ใส่นํ้าใส่ลงในกะละมังพอท่วมผ้าที่จะซัก นำนํ้ายาซักแห้งเทใส่นํ้าในกะละมัง ใช้มือ แกว่งไกวนํ้ากระทั่งนํ้ายาซักแห้งแตกฟอง
๒) นำผ้าไหมลงแช่ลงในนํ้าสักประเดี๋ยว ใช้มือกดผ้าให้แฉะและก็จมนํ้า ใช้มือขยี้เบาๆตรงที่เปรอะเปื้อน ดังเช่นว่า ปกเสื้อ ปลายแขนเสื้อ และส่วนอื่นๆขยี้กระทั่งรอยเปื้อนเหงื่อไคล ฝุ่นผง และก็สิ่งสกปรกออกจนกระทั่งหมด ห้ามใช้แปรงถูผ้าไหมเด็ดขาดแล้วก็ผ้าไหมบางชนิดห้ามซักด้วยสารซักฟอก เพราะเหตุว่าจะทำลายความมันของเส้นไหม ปริมาณการใช้นํ้ายาซักแห้งให้ดูตามคำแนะนำบนฉลากสินค้า
๓) นำผ้าไหมที่ซักสะอาดแล้วขึ้นจากนํ้า ใช้มือบีบเบาๆให้นํ้าแล้วก็นํ้ายาซักแห้งออกจนหมด
๔) นำผ้าที่ยกขึ้นจากนํ้าแล้ว ไปล้างในนํ้าสะอาด ๒ ครั้ง แล้วหลังจากนั้นแช่ลงในอ่างนํ้าที่ผสม
นํ้ายาปรับผ้านุ่มไว้ชั่วประเดี๋ยว จำนวนการใช้นํ้ายาปรับผ้านุ่มให้ดูตามคำแนะนำบนฉลากสินค้า
๒. การตากผ้าไหม ทำได้ดังต่อไปนี้
๑) ชูผ้าไหมขึ้นจากนํ้ายาปรับผ้านุ่ม แล้วบีบเบาๆไล่นํ้าออก ห้ามบิดผ้าเนื่องจากว่าจะก่อให้ผ้าเป็นรอยยับ เสียรูป
๒) สลัดผ้าเบาๆคลายออกใส่ไม้ห้อย
๓) นำเสื้อผ้าใส่ไม้ห้อย ไปห้อยกับราวแขวนผ้าในที่ร่ม ที่มีลมพัดผ่าน
๓. การรีดเสื้อผ้าไหม มีขั้นตอนดังนี้
๑) นำผ้าไหมที่ซักตากแห้งเพียงพอหมาดๆมาพรมนํ้าหรือฉีดพ่นนํ้ายารีดผ้าเรียบให้ทั่ว ม้วนพับเก็บไว้ในช่องสำหรับเพื่อแช่แข็งของตู้เย็น นานราวๆ ๑-๒ ชั่วโมง เพื่อให้นํ้าหรือนํ้ายาที่ฉีดไว้ กระจายเข้าเนื้อผ้ากระทั่งทั่วดี ไม่สมควรนำไปรีดหลังประพรมนํ้าทันทีจะก่อให้ผ้าด่างและไม่เรียบ
๒) นำผ้าไหมที่ม้วนเก็บเอาไว้ภายในตู้แช่เย็นมารีด โดยใช้ผ้าฝ้ายขนาดผ้าสำหรับเช็ดหน้าวางทับบน ผ้าไหม แล้วจึงใช้เตารีด รีดบนผ้าฝ้าย ถ้าไม่วางผ้าฝ้ายทับบนผ้าไหมก่อน ความร้อนจากเตารีด จะมีผลให้ผ้าไหมสีไม่แจ่มใส เป็นรอยเหลืองรวมทั้งเก่าเร็ว ยิ่งกว่านั้นถ้าไม่รีดบนผ้าฝ้ายให้รีดด้วย อุณหภูมิตํ่า หรือใช้เตารีดไอนํ้า และไม่ควรรีดผ้าไหมในขณะที่ผ้าแห้ง เนื่องจากว่าจะก่อให้ผ้ากระด้างเป็นเงาลื่น
๔. การเก็บรักษาผ้าไหม ทำได้ดังต่อไปนี้
๑) ภายหลังจากรีดผ้าไหมเป็นระเบียบแล้ว ควรจะห้อยไว้กับไม้แขวนเสื้อ แล้วก็ค่อยนำไปแขวน เก็บไว้ในตู้ที่มีไว้เก็บเสื้อผ้า
๒) ถ้าหากเป็นเสื้อผ้าไหมที่ใช้แล้ว แล้วก็ยังไม่สกปรก ควรแขวนกับไม้แขวนรวมทั้งนำไปผึ่งไว้ ในที่ร่ม ที่มีอากาศระบายดีถ้าหากเสื้อผ้าไหมเลอะเทอะนิดหน่อย ควรจะชำระล้างเฉพาะจุดนั้นในทันที ใส่ไม้ห้อยนำไปผึ่งจนแห้ง รีดให้เรียบก่อนนำไปเก็บ

เสื้อผ้าฝ้าย

๑. วิธีสำหรับซักเสื้อผ้าฝ้ายเสื้อผ้าฝ้ายซักได้ด้วยมือหรือเครื่องซักผ้า แม้กระนั้นการซักด้วยมือจะถนอมเนื้อผ้ามากยิ่งกว่า ยิ่งไปกว่านี้วิธีสำหรับซักผ้าอย่างถูกวิธีจะช่วยคุ้มครองป้องกันราขึ้นเสื้อผ้าได้ โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
๑) แช่ผ้าฝ้ายในนํ้าเกลือ หรือนํ้าส้มสายยก ๑ คืน แล้วนำขึ้นบีบนํ้าออก
๒) ใส่สารซักฟอก ๑ ช้อน ต่อนํ้า ๑ กะละมัง ใช้มือแกว่งไกวกระทั่งเกิดฟอง นำผ้าลงซักขยี้เบาๆเอาขึ้นบีบนํ้าออกเบาๆนำไปล้างนํ้าสะอาด ๒ ครั้ง
๓) แช่ผ้าฝ้ายในอ่างนํ้าที่ผสมนํ้ายาปรับผ้านุ่มไว้สักครู่เอาขึ้นบีบนํ้าออก ถ้าเป็นผ้าฝ้ายสีขาวให้ซักในนํ้าสบู่หรือนํ้ายาฟอกขาว แต่ว่าจะต้องเป็นนํ้ายาฟอกขาวประเภทอ่อน ล้างด้วยนํ้าสะอาด จะปั่นให้แห้งด้วยเครื่องซักผ้าก็ได้
๒. การตากเสื้อผ้าฝ้าย ทำเป็นโดยนำเสื้อผ้าฝ้ายที่ซักเสร็จแล้ว ผึ่งและสลัดให้แผ่ออก ใส่ไม้ห้อยผึ่งแดดจัดได้แต่ว่าไม่ควรนานเหลือเกิน เนื่องจากว่าจะมีผลให้เส้นใยเสื่อมสภาพแล้วก็ผ้าสีซีดจางถ้าเกิดเป็นผ้าสีนําไปห้อยในที่ร่ม มีลมพัดผ่าน ใช้มือดึงผ้าให้ตึง อย่าให้มีรอยยับ จะช่วยให้รีดง่าย
๓. การรีดผ้าฝ้าย ทำได้โดยนำผ้าที่ตากไว้พอเพียงหมาดๆนำไปรีด ไม่ต้องพรมนํ้า หรือจะใช้นํ้ายารีดผ้าเรียบก็ได้ แล้วก็รีดด้วยอุณหภูมิสูง ผ้าก็เลยจะเรียบ
๔. การเก็บรักษาผ้าฝ้าย ผ้าฝ้ายจะขึ้นราได้ง่ายเมื่ออยู่ในที่อับเปียกชื้น การดูแลรักษาเสื้อผ้าฝ้าย ภายหลังซักแล้ว ควรใส่ไม้ห้อยแขวนเอาไว้ภายในตู้ที่มีไว้เก็บเสื้อผ้า ซึ่งวางไว้ในที่ที่มีอากาศระบายดี แห้งและก็เย็นไม่ควรห้อยเสื้อผ้าในตู้สำหรับเก็บเสื้อผ้าให้แน่นมากนัก ควรจะห้อยหละหลวมๆทั้งก่อนเก็บไว้ภายในตู้ควรให้เสื้อผ้าแห้งให้สนิทก่อน

เสื้อผ้าลินิน


๑. การซักเสื้อผ้าลินิน ซักด้วยมือ ด้วยเหตุว่าไม่ทำให้ผ้ายับ รีดง่าย รวมทั้งการซักผ้าลินินสีขาว ควรซักในนํ้าอุ่น ผ้าลินินสีให้ซักในนํ้าเย็น และใช้สารซักฟอกที่มีส่วนผสมของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีเพื่อช่วยขจัดคราบเปรอะเปื้อน
แนวทางซักผ้าลินินด้วยมือมีขั้นตอน ดังต่อไปนี้
๑) นำผ้าลินินแช่นํ้าชั่วประเดี๋ยวเอาขึ้นบีบเบาๆนำผ้าไปแช่ในนํ้าสารซักฟอกที่เตรียมไว้แช่ไว้ชั่วประเดี๋ยวเพื่อสารซักฟอกขจัดสิ่งสกปรก แล้วหลังจากนั้นใช้มือขยี้ให้สิ่งสกปรกออกให้หมด แล้วเอาขึ้น จากนํ้าสารซักฟอก บีบนํ้าออกเบาๆไม่ควรบิดผ้าแรงๆเนื่องจากจะทำให้กำเนิดรอยยับ ยิ่งกว่านั้นยังคงใช้สารฟอกขาวคลอรีนได้
๒) นำผ้าไปล้างในนํ้าสะอาด ๒-๓ ครั้งกระทั่งหมดสารซักฟอก นำไปแช่ในอ่างนํ้าผสม นํ้ายาปรับผ้านุ่มชั่วประเดี๋ยวยกขึ้นไล่นํ้าออก
๒. การตากเสื้อผ้าลินิน ทำเป็นโดยนำผ้าลินินที่ซักเสร็จแล้วใส่ไม้แขวน ตากแดดจัด แม้กระนั้นไม่นานเหลือเกิน แล้วตากลมไว้เพียงพอหมาดจึงนำไปรีด
๓. การรีดเสื้อผ้าลินิน ทำเป็นโดยนำเสื้อผ้าลินินที่ห่อไว้ หรือตากลมเพียงพอหมาดๆไปรีด โดยใช้ความร้อนสูง และให้รีดด้านใน เพื่อข้างนอกเป็นมัน
๔. การรักษาเสื้อผ้าลินิน ภายหลังจากรีดเสร็จแล้วให้ห้อยกับไม้แขวน แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยนำไปเก็บไว้ภายในตู้เสื้อผ้า

เสื้อผ้าขนสัตว์


เสื้อผ้าขนสัตว์ ดูแลยาก เพราะเหตุว่าเมื่อถูกความร้อนและเปียกชื้น ผู้ที่ทำขึ้นมาจากขนสัตว์จะเชื่อมติดกันเป็นแผ่น รวมทั้งหดตัวทุกคราวเมื่อแฉะ ควรต้องส่งร้านรับซักผ้าที่มีความเชี่ยวชาญสำหรับการซักรีดจะดีมากยิ่งกว่า
สำหรับวิธีการดูแลรักษาเสื้อผ้าขนสัตว์อย่างง่ายที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง มีดังนี้
๑. ใช้แปรงนุ่มๆแปรงฝุ่นผงออกทุกครั้งหลังการใช้ ถ้าถูกนํ้าให้สะบัดออก อย่าแปรงขณะผ้าเปียก
๒. แขวนเสื้อผ้าขนสัตว์ในที่อากาศโปร่ง แห้ง และเย็น หรือใส่ลงในถุงพลาสติกแล้วห้อยในตู้เสื้อผ้า
๓. ห้ามใช้เสื้อผ้าชุดเดียวติดต่อกันนานนับเป็นเวลาหลายวัน เพราะว่าเมื่อขนสัตว์มีการเสียดสีหรือเช็ดไปมานานๆจะแข็งเป็นมัน บางจำพวกขนจะหลุด

เสื้อผ้าใยสังเคราะห์


๑. วิธีซักเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ สามารถซักได้ด้วยมือและเครื่องซักผ้า แม้กระนั้นซักมือจะถนอมเนื้อผ้ามากยิ่งกว่า โดยวิธีซักเสื้อผ้าใย สังเคราะห์มีวิธีการ ดังต่อไปนี้
๑) ควรแยกผ้าสี และก็ผ้าขาวออกจากกัน ไม่สมควรซักรวมกัน เพื่อปกป้องสีตก
๒) ซักในนํ้าธรรมดาหรือน้ำอุ่น ด้วยสารซักฟอกหรือสารซักฟอกชนิดอ่อนอย่างเบามือ แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด ๒-๓ ครั้งแล้วบีบให้น้ำแห้ง
๓) ถ้าหากมีความสำคัญจำเป็นต้องฟอก ควรจะใช้สารฟอกขาวอย่างอ่อน
๒. การตากเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ ผึ่งแดดได้แต่จะต้องกลับเอาข้างในออก เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้สีซีดจาง และไม่ควรตากนาน เพียงพอหมาดเก็บ เข้าที่ร่ม
๓. การรีดเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ เสื้อผ้าใยสังเคราะห์เนื้อผ้าไม่ยับ ก็เลยไม่จำเป็นที่ต้องรีดแม้กระนั้นหากจะรีด ควรจะใช้อุณหภูมิตํ่า
๔. การเก็บเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ ควรจะห้อยด้วยไม้ห้อยแล้วเก็บเอาไว้ในตู้ที่มีไว้สำหรับใส่เสื้อผ้าเสื้อผ้าใยกึ่งสังเคราะห์

เสื้อผ้าใยกึ่งสังเคราะห์


๑. แนวทางซักเสื้อผ้าใยครึ่งสังเคราะห์ เสื้อผ้าใยกึ่งสังเคราะห์เมื่อถูกนํ้าจะลดความเหนียวแล้วก็ความทนทานไม่ทนกรด หากเปื้อนยางผลไม้หรือนํ้าผลไม้จะต้องซักทันที ควรซักแห้งหรืออาจซักนํ้าได้แต่ว่าผ้าจะยับมาก เสียเวลาซักนาน อย่าแช่นํ้าหรือทิ้งเอาไว้ภายในนํ้านาน แล้วก็ควรที่จะใช้สารซักฟอกจำพวกอ่อน ขณะซักไม่สมควรขยี้หรือบิดมาก แล้วล้างนํ้าสะอาด ๒-๓ ครั้ง แล้วบีบนํ้าให้หมาด
๒. การตากเสื้อผ้าใยครึ่งหนึ่งสังเคราะห์ ควรห้อยตากในที่ร่ม
๓. การรีดเสื้อผ้าใยกึ่งสังเคราะห์ ควรจะรีดด้วยอุณหภูมิต่ำด้วยเหตุว่าไม่ทนความร้อน ถ้าหากความร้อนสูงจะละลาย
๔. การเก็บเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ ควรห้อยด้วยไม้แขวนแล้วเก็บในตู้สำหรับใส่เสื้อผ้า นอกจากเสื้อผ้าใยธรรมชาติ ใยสังเคราะห์ รวมทั้งใยกึ่งสังเคราะห์แล้ว ยังมีเสื้อผ้าไหมพรม รวมทั้งเสื้อผ้าที่ตกแต่งด้วยเลื่อมรวมทั้งลูกปัด ซึ่งควรมีกระบวนการดูแลละเอียดลออ ดังต่อไปนี้

เสื้อผ้าไหมพรม


เสื้อผ้าไหมพรม เป็นผ้าที่ถักทอจากเส้นไหมพรม มีลักษณะนุ่ม ไม่ยับ ยืดหยุ่นได้ดี ใส่อบอุ่น ปกป้องความหนาวก้าวหน้า
๑. วิธีซักเสื้อผ้าไหมพรมทำได้โดยซักมือหรือซักด้วยเครื่องซักผ้าได้ทั้งสองวิธีควรที่จะใช้นํ้ายาซักแห้งซัก ขยำเบาๆเมื่อสะอาด หมดสิ่งสกปรก นำไปล้างนํ้าให้สะอาด ๒-๓ นํ้า นำไปแช่นํ้ายาปรับผ้านุ่มสักประเดี๋ยว ไม่ควรนำเสื้อผ้าไหมพรมต่างสีซักรวมกันสีจะตกได้เสื้อผ้าไหมพรมที่เลอะเทอะนํ้ามัน มีแนวทางซักโดยใช้นํ้าอุ่นๆผสมนํ้าสบู่หรือผงซักผ้า ตีจนถึงขึ้นฟอง นำเสื้อผ้าไหมพรมที่มีรอยเปื้อนแช่ลงไปประมาณ ๓๐ นาทีแล้วขยำเบาๆจนถึงสิ่งสกปรก นํ้ามันหลุดออกหมด เอาไปล้างในนํ้าอุ่น ๒-๓ ครั้ง กระทั่งสะอาด นำไปตาก ภายหลังจากซักเสื้อผ้าไหมพรม ปูเสื้อไหมพรมลงบนพื้นโต๊ะ นำผ้าขนหนูแห้งๆปูทาบกับตัวเสื้อ แล้วม้วนไปพร้อมเพียงกัน ผ้าขนหนูจะซึมซับนํ้าในเสื้อไหมพรมให้แห้งโดยไม่ต้องบิดเพราะเหตุว่าหากบิดจะทำให้เส้นไหมพรมยับรวมทั้งยืด
๒. การตากเสื้อผ้าไหมพรม ทำได้โดยนำเสื้อผ้าไหมพรมที่ซึมซับนํ้าจนกระทั่งแห้งแล้ว วางราบบนแผ่นกระดานยาว ผึ่งจนแห้งในที่ร่ม ไม่ควรนำเสื้อไหมพรมตากบนราวแขวนผ้า ด้วยเหตุว่าผ้าไหมประพรมเป็นผ้าที่มีนํ้าหนักแล้วก็ทิ้งตัว จะมีผลให้ยืดย้วย ผิดรูปร่าง
๓. การรักษาเสื้อผ้าไหมพรม ทำได้โดยพับเก็บไว้ในตู้สำหรับเก็บเสื้อผ้า ไม่ควรแขวนด้วยเหตุว่าจะก่อให้ยืดย้วย เสียรูปทรง

เสื้อผ้าที่ปักเลื่อมแล้วก็ลูกปัด


เสื้อผ้าที่ปักเลื่อมและก็ลูกปัด ส่วนใหญ่จะตัดเย็บโดยใช้ผ้าไหม ผ้าป่านหรือผ้าลินิน ซึ่งซักรีดได้ยาก รวมทั้งต้องระมัดระวังไม่ให้เลื่อมหรือลูกปัดหลุดอีกด้วย จึงจำต้องดูแลอย่างถูกวิธีดังนี้
๑. แนวทางซักเสื้อผ้าที่ปักเลื่อมและลูกปัด ทำเป็นโดยก่อนซักให้ตรวจค้นจุดเปรอะเปื้อนก่อน ก็เลยนำไปแช่สักประเดี๋ยว ยกขึ้นบีบนํ้าออกโดยไม่บิด ต่อจากนั้นนำไปลงซักในกะละมังที่มีนํ้าแฟ้บที่ตีจนกระทั่งขึ้นฟอง ขยี้ส่วนเปรอะเปื้อนออกให้หมด ถ้าเกิดตรงจุดสกปรกเป็นที่ปักเลื่อมหรือลูกปัด ให้ขยี้เบาๆแล้ว ยกขึ้น นำเสื้อผ้าลงแช่ในอ่างนํ้าที่ผสมนํ้ายาซักแห้งสักประเดี๋ยว แล้วก็ขยี้ตรงที่ไม่มีลูกปัดล้างนํ้า ๑-๒ ครั้ง เอาขึ้นไล่นํ้าออก ห้ามบิด แล้วนำเสื้อผ้าลงแช่ในอ่างนํ้าผสมนํ้ายาปรับผ้านุ่มชั่วประเดี๋ยว ยกขึ้นไล่นํ้าออกโดยไม่บิด
๒. การตากเสื้อผ้าปักเลื่อมรวมทั้งลูกปัด ทำได้โดยนำไปใส่ไม้แขวน ผึ่งในที่ร่มที่มีอากาศระบายดี อย่านำไปผึ่งแดด เพราะจะทำให้ลูกปัดบิดและแตกหักง่าย
๓. การรีดเสื้อผ้าปักเลื่อมและลูกปัด ทำได้ดังนี้
๑) ฉีดพ่นนํ้าให้ทั่วพอหมาดๆม้วนพักไว้สักครู่ นำไปฉีดนํ้ายาเพื่อให้ผ้าเรียบ ม้วนให้นํ้ายารีดผ้าเรียบดูดซึมกระทั่งทั่วจึงนำไปรีด
๒) การรีดผ้าปักเลื่อมรวมทั้งลูกปัด ให้กลับหัวในออกนอก วางลงบนโต๊ะรีด ใช้ผ้าสาลูหรือผ้าลินินขนาดเท่าผ้าที่มีไว้เพื่อเช็ดหน้าชุบนํ้าจนถึงทั่วพอเพียงหมาด วางทาบตรงปักเลื่อมและก็ลูกปัดรีดเบาๆจนถึงเสื้อผ้าปักเลื่อมลูกปัดแห้ง ต่อจากนั้นให้พลิกด้านใช้ปลายเตารีดค่อยๆรีดผ้าที่อยู่ใกล้กับเลื่อมแล้วก็ลูกปัดเพื่อให้เรียบเพิ่มขึ้น ส่วนตรงอื่นๆก็ใช้ผ้าสาลูหรือผ้าลินินชุบนํ้าพอเพียงหมาดวางทับแล้วก็รีดจนถึงทั่วทั้งตัว โดยรีดตรงปกและก็ตัวเสื้อ สำหรับแขนเสื้อรีดเป็นส่วนท้ายที่สุด
 
 
-------------------------------------------------------------------------------------------
วิธีสำหรับในการดูแลเสื้อยืดสกรีนรวมทั้ง เสื้อโปโล


เสื้อโปโล จะได้รับผลพวงในแบบที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพเนื้อผ้าของเสื้อผ้าของคุณไม่ว่าจะเป็นเรื่องของช่วงเวลาของลายปริ๊นบนเสื้อรวมทั้งช่วงเวลาของเสื้อกับการตอบสนองต่อน้ำและก็สบู่ หากคุณภาพของวัสดุยิ่งดี ช่วงเวลาสำหรับในการใช้ก็จะยิ่งคงทน แล้วก็เป็นเวลานานมากขึ้นค่ะ

1. สลับด้านเสื้อของคุณก่อนที่จะโยนมันเข้าไปในเครื่องซักผ้าแม้กระนั้นทริคนี้ไม่ได้ใช้ได้แค่กับเสื้อยืดสกรีน, เสื้อโปโล หรือยีนส์

สามารถใช้ได้กับทุกผ้าเลยค่ะ คุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากการกลับด้านเส้อผ้าของคุณก่อนนำมาซักจะคุ้มครองปกป้องให้สีจากเสื้อของคุณจางไว

2. แยกผ้าที่ราวกับๆกันออกมาซักทีละก้อนคุณอาจกำลังคิดอยู่สินะว่าคุณรู้อยู่แล้วล่ะหัวข้อนั้น คือแบบคุณอาจคิดใช่ไหมว่าคนเรานี่ต้องเป็นคนจำพวกไหนกันที่จะเอาผ้าทุกๆสีทุกๆแบบมาซักรวมกันนะ? ใช่ไหมล่ะ? และก็เราก็ต้องการจะบอกกับคุณอีกว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องสีหรอกนะ มันเป็นเรื่องของเนื้อผ้า คุณควรจะที่จะแยกผ้าที่มีเนื้อผ้าคล้ายๆกันแล้วซักมันด้วยกัน ผ้าเดนิมแล้วก็อื่นๆที่มีซิปกระดุมควรจะที่จะจับแยกกับผ้าอื่นๆอยางเป็นต้นว่า เสื้อยืด หรือ เสื้อโปโล ออกมาจากกันเลยค่ะ เพราะหากผ้าที่แข็งกว่ามันเสียดสีกับผ้าที่มีเนื้อบางกว่า นุ่มกว่า มันจะสามารถก่อให้เกิดการฉีกขาดได้เลย

3. ซักผ้ากับน้ำเย็นถ้าหากเอ่ยถึงหัวข้อการซักผ้า น้ำเย็นชอบเป็นตัวเลือกที่ดีเสมอส่วนน้ำอุ่นน่ะไม่สมควรเป็นตัวเลือกแต่ก่อนเลยล่ะ ทดลองทศเอาไว้ภายในใจนะคะเพราะเราจะกลับมาบอกหัวข้อนี้กันอีกหลังจากนี้ นอกเสียจากว่าเสื้อยืด หรือ เสื้อโปโลของคุณไปโดนดินโดนโคลนจนถึงสกปรกมามันก็ไม่จำเป็นเลยที่คุณจะต้องใช้น้ำร้อนซักเสื้อผ้าของคุณ เพราะน้ำเย็นก็ปฏิบัติภารกิจเจริญพอที่จะชำระล้างเสื้อของคุณ ไม่ใช่แค่มันคุ้มครองกลั่นหมึกออกจากเสื้อของคุณนะ แต่ว่าเป็นการลดการใช้ไฟฟ้าด้วยอีกต่างหาก

4. พยายามอย่าย้อมเสื้อไม่ใช่แค่การย้อมสี หรือการกัดสีนะ แต่ว่าการใช้ผงซักผ้าแรงๆอย่างน้ำยาปรับผ้านุ่มเองก็สามารถทำให้ความแน่น ความคงทนถาวรของ เสื้อย่อยสลายลง สลับกัน ลองเพียรพยายามเลือกใช้สบู่ที่อ่อนลงที่จะสามารถดูแลเสื้อผ้าชองคุณได้เสียดียิ่งกว่าค่ะ

5. เลี่ยงการอบผ้า สำคัญสุดๆเลย! เครื่องอบผ้าก็เยี่ยมดีอ่ะเพราะเหตุว่าทุ่นเวลาของพวกเรา แต่มันถูกวางแบบมาให้ทำลายผ้าเราสุดๆเลยทราบไหม นึกออกไหมขาที่เราบอกคุณที่ผ่านมาในเรื่องของความร้อนกับผ้า? ทฤษฎีนี้ถูกใช้ในข้อนี้เหมือนกันเลยนะ ความร้อนจะก่อให้ผ้าหด รวมทั้งทำให้รอยปริ๊น หรือรอบสรีนเป็นรอยแตก เก็บเครื่องอบผ้าไว้ใช้กับผ้าที่มีไว้เพื่อเช็ดตัว หรือผ้าที่เอาไว้สำหรับปูที่นอนดีกว่าค่ะ แล้วตากผ้าในแบบที่พวกเราทำกันมาแสนจะนมนานเหมือนเดิม และอย่าลืมพยายามหลีกเลี่ยงการปั่นแห้ง แนวคิดคล้ายกันเลยค่ะ

6. ปลดปล่อยผ้าให้แห้งในที่ร่ม ห้อยผ้าในที่ร่มที่แดดไม่สามารถเข้าถึงได้โดยตรงสิขา (โดยเฉพาะอย่างยิ่งแสงสว่างที่มาจากพระอาทิตย์) จะมีอันตรายต่อเสื้อผ้ารวมทั้งสีของเสื้อผ้าคุณแน่นอน แต่คุณอาจจะสงสัยสินะ ด้วยเหตุว่าคุณก็สวมเสื้อยืดสกรีนหรือ เสื้อโปโล ของคุณออกไปไหนมาไหนด้านนอกตลอด ซึ่งก็มองไม่เห็นจะมีอะไรเปลี่ยนไปจากปกติเลยนี่? ประเด็นนั้นก็จริงจ้ะ แม้กระนั้นถ้าหากว่าคุณจะออกไปด้านนอก คุณก็มิได้ใช้เวลาภายใต้แสงแดดต่อเนื่องกันเป็นเวลาหลายชั่วโมงอยู่ดี

7. หลีกเลี่ยงการรีดผ้า ความร้อนเป็นของต้องห้าม! แต่ว่าถ้าหากว่าคุณจำเป็นจริงๆที่จะจำเป็นต้องรีดเสื้อยืดสกรีน หรือ เสื้อโปโล ของคุณ เราก็ต้องการจะแนะนำให้คุณใช้ความร้อนในระดับที่ต่ำที่สุดของเตารีด รีดเสื้อผ้าของคุณในแบบสลับด้าน

เครดิต : http://www.igetsee2.com/

Tags : ชุดนอนไม่นอน,ชุดนอนไม่ได้นอน,ชุดนอนอื่นๆ

 

{}Login to chat