เคล็ดลับเครื่องเขียนที่มีในครอบครอง ในโลกที่มีความด่วนพร้อมทั้งความราบรื่นสบายถูกนำมาเป็นตัวเลือกในการช่วยเหลือตัดสินใจพร้อมกับชี้ช่องทางให้ (เกือบจะ) กัเหตุุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตมนุษย์ ระบบดิจิทัลก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งไแย่่างแนบเนียบ แล้วก็ได้รับความสนใจไปไม่น้อยเลยทีเดียวจากคนในยุคศตวรรษที่ 22 นี้ ขนาดนั้นสุดท้ายแล้วนวัตกรรมที่ทันสมัยเหล่านี้ก็มิคงจะเข้ามาแทรกแซงระบบ Manaul ได้ทุกอย่าง ถ้าคุณคือ นักร่างโครง นักสร้างสรรค์ นักเขียน ใครก็ตามที่ต้องพึ่งพาลายวิถีดินสอหรือปากกาในการเขียนอะไรสักอย่างที่คุณจินตนาการมันขึ้นมา จะรู้ดีว่าเครื่องเขียนเหล่านี้ไม่มีทางหายไปไหน ไม่มีวันตายไป แค่แค่มันจะต้องพลิกฟื้น มันต้องไม่หยุด
แช่แข็งเท่านั้นเอง เคาะสนิมความคิดเก่า ๆ เกี่ยวกับเครื่องเขียนออกจากสมองไปกับ "Managing Director" ของ หนึ่งในผู้บริหารองค์กรที่ชมชอบหาสิ่งใหม่ๆ มาปรับสภาพไม่ให้เหล่าเครื่องเขียนตกเทรนด์ พร้อมด้วยรู้ทันผู้บริโภคในยุคศตวรรษที่ 22 ทุกขณะ รับฟังซีกพร้อมทำความเข้าใจให้มากขึ้นกับการทำธุรกิจรูปแบบสุหฤท สยามวาลา ผู้รู้จริงในเรื่องราวเครื่องเขียนกับเครื่องใช้สำนักงาน
โลกนี้ต้องมีเครื่องเขียนทดลองคิดกันดูเล่น ๆ ว่า ถ้าโลกนี้ไม่มีเครื่องเขียนจะเป็นเช่นไร ? โลกที่ไร้การขีดเขียน มีแค่นั้นการใช้ปลายนิ้วสัมผัสบนหน้าจอโทรศัพท์ นวัตกรรมการสร้างสรรค์ที่สำคัญจะหายไป ไม่มีถ้อยคำกลอนหรือกิจธุระกวีจากนักประพันธ์ชื่อดัง ไม่มีแบบเรียน ไม่มีหนังสือเรียน ไม่มีต้นแบบที่จะเป็นเหตุให้เทคโนโลยีในสมัยนี้เชี่ยวชาญนำมาพลิกฟื้นให้มีความขึ้นได้ ทุก ๆ อย่างล้วนมีผลกระทบต่อกัน บ้านเรือนเมืองจะไม่มีรูปแบบ เราจะร่างแบบอะไรทำไมได้แม้แค่นั้นอย่างเดียว เราจะสื่อสารกันไม่ไหว ศึกษาทำไมได้ เนื่องมาจากไม่มีเครื่องมือในการสื่อสาร ฉะนัันเครื่องเขียนเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างอะไรผิดแผกแตกต่าง ๆ มากมาย รอบๆ ร่างกาย จะออกแบบตึกยังไง? นั่ง Imagine เหรอ? แล้วจะสื่อสารยังไง คุณจะเขียนแผ่นปิ๊งอิเล็กทรอนิกส์ยังไง จะร่างยังไง จะ draft ยังไง นวนิยายที่ชะโลมโลกจะเขียนออกมายังไง
เครื่องเขียนมันสร้างประวัติศาสตร์มามากเท่าใด เฉพาะบางโอกาสโลกก็ลืมมันไป ลืมกันหมด
เสน่ห์ของเครื่องเขียนทุกอย่างบนโลกนี้ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ หรือแม้กระทั่งสิ่งของที่ไม่มีชีวิต แตกต่างมีองค์ประกอบบางอย่างที่ลงตัว นวนิยายหนึ่งเล่มหากใช้ภาษาที่สวยสด มีคุณสมบัติเฉพาะที่เป็นตัวเอง เสน่ห์ของการเขียนนั้นก็จะสื่อออกมาให้ผู้อ่านรู้สึกได้เอง เช่นเดียวกับเครื่องเขียนเฉพาะละชนิดที่มีเสน่ห์ของมันอยู่ในตัว มีกลิ่นไม้ กลิ่นสี สมัยนี้ความจำเป็นในการใช้ปากกาน้อยลงมาก เมื่อปฎิบัติงานนเราจำลายมือของเพื่อนสนิทได้ แค่นั้นเดี๋ยวนี้จำไม่ไหวซะแล้ว เนื่องจากเราใช้การพิมพ์มากกว่าการเขียน แค่นั้นถ้าพิจารณาดี ๆ เราแทบมองไม่เห็นเสน่ห์ของการใช้ไฮเทคเลย เราได้แค่กลิ่นสารระเหย กลิ่นสารเคมีที่แฝงอยู่ในวัสดุอุปกรณ์อิกระชับทรอนิกส์พวกนี้ ยุคสมัยแปลงไปก็จริง แต่เสน่ห์ของเครื่องเขียนก็ไม่อาจจะทำเอาความชวนมองที่มีต่อมันหายไปได้เลย
เครื่องเขียน ยังขายดี หากว่าโลกสนใจดิจิทัลมากกว่าเมื่อเราเข้าสู่ยุคแป้นพิมพ์ การขีด เขียน จดบันทึก รวมถึงการสื่อสารในปัจจุบันนี้ที่ง่ายดายเพียงพิมพ์ต๊อกแต๊กบนหน้าจอโทรศัพท์ ชีวิตยุคดิจิทัลรวดเร็วมากปราศจากพรหมแดน แตกต่างจากการดำเนินชีวิตแบบยุคแอนาล็อกที่ช้ากว่าเท่าตัว ทั้งสองสิ่งเกิดขึ้นมาบนโลก ย่อมไม่มีใครปลดตายไปได้ง่าย ๆ ถึงแม้ว่าว่าวันนี้เครื่องมือคอมพิวเตอร์และระบบดิจิทัลจะมีตอนบาทต่อการเรียน การสอน การทำงานมากขึ้น
เครื่องเขียนจำเป็นจะต้องปรับสภาพแปรเปลี่ยนตามพฤติกรรมของผู้บริโภค พลิกโฉมรูปแบบแหวกแนว ๆ ให้สอดคล้องและเกิดประโยชน์ชั้นเยี่ยมกับผู้ใช้
แล้วตกลงเครื่องเขียน[/url]จะได้เสียไหม?
ล่วงลับหรือเปล่ายากมากที่จะตอบ เพียงนั้นที่ตอบได้ฉับพลันเลยคือ ถ้ามันจะมีชีวิตอยู่ มันต้องไม่เป็นแบบเดิม อันนั้นคือจุดที่เราจะต้องคิด บางอย่างเราควบคุมทำไมได้ แต่สิ่งที่เราสั่งการได้คือ ความเป็นอยู่วันนี้ เราจะฟื้นฟูยังไง สำหรับให้มันอยู่ได้ในวันพรุ่งนี้ อยู่ได้วันมะรืนนี้ เพราะอย่างนั้นไม่มองว่าสิ้นเปลืองหรือไม่ก็ ผมจะมองว่า "จะอยู่เช่นไรให้ช้านานที่สุด" อันนี้จะเป็นตัวกระตุกภูมิปัญญา ถ้าทุกคนปลดเปลื้องรับว่าเครื่องเขียนสิ้นแน่ จะปรับสภาพทำไม? จะพัฒนาทำไม? เท่านั้นถ้าเราคิดว่าจะอยู่เช่นใดให้คงกระพัน เราจะเริ่มคิดอีกแบบ มันจะไม่มีความสิ้นเปลืองเข้ามา มันจะไม่มีความเฉื่อยชาเข้ามา มันจะฟื้นฟูไปเรื่อย ๆ จะปรับอีก จะพลิกฟื้นอีก เพราะว่าจะอยู่แบบคงกระพันได้อย่างไร ขนาดนั้นจะอยู่ด้วยปริมาณเดิมไม่ใช่หรือ อีกเหตุการณ์หนึ่ง ตกลงคำว่าเสีย เฉยๆ ผมจะคิดว่าจะอยู่เช่นไรให้คงกระพัน จะอยู่เช่นไรให้เป็นอีกต่อจากนั้น
Tags : เครื่องเขียน,เครื่องเขียน
