ผู้เขียน หัวข้อ: น้ำมันพืช : ใช้เช่นไรให้เผงด้วยกันปทะลุทะลวงภัย  (อ่าน 64 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ spammer

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 139,825
  • พอยท์: 100
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
น้ำมันพืช : ใช้เช่นไรให้แน่เทียวและหนักแน่น

น้ำมันเพื่อที่จะนำมาใช้เตรียมอาหาร น้ำมันพืชนับเป็นส่วนหนึ่งของสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มของไขมัน เช่นไรก็ตาม ถึงสมมติว่าว่าน้ำมันใช่ไหมไขมันจะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่หากกินเกินกว่าที่ร่างกายพึงประสงค์ ก็ปฎิบัติงานให้เกิดโรคภัยตามมาได้หลายโรค ยิ่งในสมัยนี้ที่มีน้ำมันประดิษฐานจำหน่ายมากมายหลายจำพวกหลายจำพวก น้ำมันพืชหากเจาะจงเลือกซื้อหรือใช้อย่างปราศจากความศักย ก็จะยิ่งทำเอาเป็นโรคต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

พวกของน้ำมันปรุงอาหาร : น้ำมันที่ ใช้ประกอบอาหารทั่วๆไป มี ๒ พวก ตกว่า น้ำมันพืชและน้ำมันสัตว์ พอ ๓๐ กว่าปีก่อน น้ำมันที่ใช้ประกอบกิจอาหารในครัวเรือน มีเพียงแค่น้ำมันหมูกับน้ำมันมะพร้าวขนาดนั้น ต่อมาได้มีการผลิตน้ำมันจากถั่วลิสงออกมาเพิ่มอีกชนิดหนึ่ง สมัยนั้นคนที่มีสตางค์หน่อยมักจะนิยมใช้น้ำมันหมูที่ซื้อมาเจียวเอง ส่วนชาวบ้านเรือนทั่วไปก็อาจจะจะซื้อน้ำมันหมูที่เขาเจียวใส่ปี๊บจัดจำหน่ายเป็นกิโลกรัม หรอก็ใช้น้ำมันมะพร้าว ซึ่งยุคนั้น แบรนด์การซื้อขายที่รู้จักกันแพร่หลาย หมายความว่า น้ำมันพืชตราดอกบัว คนก็เลยเรียกน้ำมันมะพร้าว ตราดอกบัวกันติดปากว่าน้ำมันบัว ต่อมาเมื่ออุตสาหกรรมการผลิตล้ำหน้า ก็มีน้ำมันปรุงอาหารจากพืชนานาชนิดทยอยออกมาให้เราได้รู้จักพร้อมกับเลือกสรรใช้ มากมาย ประดุจ น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันงา น้ำมันจากดอกคำฝอย น้ำมันจากเมล็ดฝ้าย น้ำมันจากดอกด้วยกันเมล็ดทานตะวัน กับน้ำมันปาล์มโอเลอีน ฯลฯ

น้ำมันพืชพร้อมกับน้ำมันสัตว์ต่างกันเช่นไร : ผู้บริโภค ส่วนใหญ่จะเข้าใจผิดคิดว่า น้ำมันพืชต่างจากน้ำมันหมูหรือน้ำมันสัตว์ (เช่น เนย) ตรงที่ให้พลังงานน้อยกว่าน้ำมันสัตว์ ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด ข้อเท็จจริงแล้วไม่ว่าน้ำมันพืชหรือน้ำมันสัตว์ก็จะให้พลังงานต่อหน่วยความหนักเบา เท่าป้อง คือ ๑ กรัม จะให้แรงงานเท่ากับ ๙ แคลอรี โดยเหตุนั้นความเชื่อที่ว่ากินน้ำมันพืชแล้วไม่อ้วน จึงไม่เป็นข้อเท็จจริง ก็เพราะว่าไม่ว่าน้ำมันอะไร หากกิน มากเกินก็เป็นเหตุให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้เปรียบเสน้ำมือนกัน

น้ำมันทั้ง ๒ พรรค์ มีความผิดแผกแตกต่างกัน ลงความว่า

>> น้ำมันสัตว์ ราว น้ำมันหมูจะมีองค์ประกอบโดยมากเป็นกรดไขมันอิ่มตัว ซึ่งมีคุณลักษณะเป็นไขได้ง่ายเมื่ออากาศเย็นขึ้น ไขมันสัตว์มีกลิ่นเหม็นหืนได้ง่ายเมื่อทิ้งทันใจ้ที่อุณหภูมิธรรมดา ไขมันจากสัตว์น้ำมันพืชยิ่งไปว่านั้นมีไขมันอิ่มตัวแล้วแล้วก็มีโคเลสเตอรอลพร้อมด้วย การกินไขมันสัตว์มากอาจจะจะเป็นเหตุให้ระดับโคเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการเกิดโรคเกศใจขาดเลือด ผู้ที่มีไขมันในเลือดสูงควรหลบการใช้น้ำมันมะพร้าว เนื่องจากมีไขมันอิ่มตัวในเยอะมาก

>> น้ำมันพืช (เว้นแต่น้ำมันมะพร้าว กับน้ำมันเมล็ดปาล์ม) มีคุณลักษณะที่ตรงข้ามกับน้ำมันสัตว์ น้ำมันพืชส่วนใหญ่จะสร้างไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งมีส่วนผสมไส้ศึกเคมีที่เป็นผลประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าน้ำมันสัตว์ ไขมันไม่อิ่มตัวนี้จะไม่ค่อยเป็นไข แม้ว่าจะอยู่ในที่เย็น ดั่ง แช่ตู้เย็น แม้กระนั้นน้ำมันพืชจะทำปฏิกิริซับซ้อนับความร้อนพร้อมทั้งออกซิเจนได้ง่าย พร้อมด้วยค่อนข้างเป็นเหตุให้เกิดกลิ่นเหม็นหืนภายภายหลังจากใช้ประกอบภัตแล้ว

อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นน้ำมันพืชหรือน้ำมันสัตว์ ต่างก็มีส่วนประกอบของกรดไขมันทั้ง ๒ ชนิด แค่แต่สัดส่วนจะมากไม่ใช่หรือน้อยต่างกันไป แล้วไปแต่ชนิดของพืชไม่ก็สัตว์ที่นำมาดำรงฐานะน้ำมัน

มารู้จักกับไขมันกันสักนิดสักหน่อย ไขมันที่เราได้จากการกินภักษา แบ่งหมายความว่า ๓ ชนิด ถือเอาว่าน้ำมันพืช

๑. กรดไขมันอิ่มตัว (satu-rated fatty acid)
๒. กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (polyunsaturated fatty acid)
๓. กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (monounsaturated fatty acid)

มีคำเสนอแนะจากนักโภชนาการว่า ฉันควรกินไขมันชนิดไม่อิ่ม ตัวเชิงเดี่ยวมากกว่าไขมันชนิดอื่นๆ เพราะกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวมีคุณสมบัติเป็นตัวทำหลอมละลายเพื่อการเพ่งดซึมซาบ วิตามินบางชนิด เอาใจช่วยลดระดับ โคเลสเตอรอลชนิดห่วย (LDL-C) น้ำมันพืชเช่นเดียวกันยังเอาใจช่วยเพิ่มโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL-C) ได้ด้วย ตำบลกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนนั้น จะช่วยเหลือลดทั้งโคเลสเตอรอลชนิดดีด้วยกันแย่พร้อมกัน

เกี่ยวกับกรดไขมัน อิ่มตัว สมควรบริโภคในปท้ายาณน้อยๆ รวมความว่า ไม่เกิน ๒๐ กรัมใน ๑ วัน น้ำมันพืชการกินไขมันอิ่มตัวเป็นกิจวัตรหากพ้นความพึงประสงค์ของร่างกาย จะประกอบกิจให้เกิดสถานการณ์ไตรกลีเซอไรด์และโคเลสเตอรอลในเลือดสูง ทำให้หทะลุทะลวงเลือดตีบจนเลือดไหลเวียนไม่สบาย เป็นเหตุให้เกิดภาวการณ์หทะลุเลือดตีบด้วยกันแข็ง ทำเอาเกิดสถานการณ์กะบาลใจขาดเลือดไม่ก็เป็นอัมพาตได้ พร้อมด้วยในบางคนที่มีการไหลเวียนของน้ำมันพืชโคเลสเตอรอลสูงทุกที จะทำให้เกิดโรคนิ่วในถุงน้ำดีอีกด้วย

Tags : น้ำมันพืช ราคา

 

{}Login to chat