ต้องการดำเนินงานกับคนญี่ปุ่นต้องรู้อะไรบ้าง?ช่วงนี้เป็นสมัยที่มีชาวต่างชาติจำนวนมาก นานาประการชนชาติที่ต่างก็เดินทางหลั่งไหลเข้ามาดำเนินการในประเทศไทยกันมหาศาล แทบทุกบริษัทที่จะต้องมีการจ้างแรงงานจากฝรั่ง อาจจะเกิดขึ้นได้ก็เพราะว่าปัจจุบันไม่ว่าจะธุรกิจไหนๆต่างก็ต้องค้าขายรวมทั้งติดต่อกับต่างถิ่นด้วยกันทั้งนั้น เป็นต้นว่า ธุรกิจที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ขายบ้าน รวมทั้งคอนโด นั้นจำเป็นมากที่จะต้องร่วมงานกับฝรั่ง เพราะเหตุว่าลูกค้ารวมทั้งนักลงทุนส่วนมากก็จะเป็นคนประเทศอื่นเชื้อชาติต่างๆเป็นต้น ก็เลยไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เราจำเป็นต้องร่วมงานกับคนต่างประเทศ แต่ว่าไม่ว่าจะเช่นไรพวกเราก็จำเป็นจะต้องดำเนินงานและร่วมงานกันในทุกวัน เราก็จำเป็นจะต้องเรียนรู้นิสัยใจคอ ขนบประเพณีต่างๆของเขาเหล่านั้นด้วย สำหรับวันนี้ พวกเราก็จะพาไปศึกษาเล่าเรียนทำความรู้จักกับรวมทั้งทำความเข้าใจ หากคุณจะต้องทำงานกับชาวญี่ปุ่น และเนื้อหานี้บางทีอาจจะมีประโยชน์สำหรับคุณก็ได้นะคะ
เงียบคือดี ชาวญี่ปุ่นจะให้คุณค่ากับความเงียบมากยิ่งกว่าการสนทนาพูดคุยที่มากเกินไป ในหนังสือเรื่อง การติดต่อสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม ที่เขียนโดย Larry Samovar, Richard Porter รวมทั้ง Edwin McDaniel ได้กล่าวไว้ว่า ความเงียบนั้นสมาคมสอดคล้องกับความน่าวางใจ ความเงียบยังสะท้อนถึงความสามารถในการคุมอารมณ์และก็การมีวุฒิภาวะที่ดี ซึ่งคุณประโยชน์นี้ที่ชาวญี่ปุ่นยึดมั่นนั้นบางทีอาจจะตรงกันข้ามกับประเทศในประเทศตะวันตกที่การเสวนา เจรจา อย่างกระฉับกระเฉงต่อเนื่องจะมีผลให้การสื่อสารเป็นได้ดีมากยิ่งกว่า ระหว่างการประชุมนั้นหากรายละเอียดการประชุมดำเนินไปอย่างเคร่งเครียด ชาวญี่ปุ่นจะใช้ความเงียบระงับความเครียดในห้องที่ใช้สำหรับการประชุม เพื่อผู้เข้าประชุมได้ออกมาจากข้อแย้งอันแสนเครียดนั้น และเพื่อให้ความสงบเงียบรวมถึงความสามัคคีคืนมา
สามัคคีคือพลัง การทำงานเป็นทีมนั้นสำคัญมากสำหรับชาวญี่ปุ่น โดยยิ่งไปกว่านั้นเมื่อตระหนักถึงข้อพิสูจน์ที่ว่า วัฒนธรรมญี่ปุ่นนั้นมิได้เป็นแบบปัจเจกนิยม ด้วยเหตุนั้นเมื่อต้องได้รับคำกล่าวชมหรือรางวัลจากการทำงานใดๆทั้งทีมงานจะได้รับรางวัลนั้นด้วยกัน และชอบไม่มีบุคคลใดคนหนึ่งในกรุ๊ปที่ได้รับคำกล่าวชมแต่เพียงผู้เดียว
นามบัตรนั้นสำคัญไฉน นามบัตรไม่ใช่เพียงกระดาษที่บอกชื่อสกุล ตำแหน่ง เนื้อหาการติดต่อของคนๆหนึ่งแค่นั้น สำหรับคนประเทศญี่ปุ่นนามบัตรเปรียบได้เสมือนดั่งตัวตนของคนนั้นๆอย่างยิ่งจริงๆ โดยเหตุนี้ควรจะให้ความเอาใจใส่รวมทั้งปฏิบัติกับนามบัตรของคนที่ให้ เปรียบดังกำลังปฏิบัติต่อคนๆนั้นอยู่ คนประเทศญี่ปุ่นจะมีขนบธรรมเนียมประเพณีการแลกนามบัตรซึ่งนับว่าเป็นมารยาทเบื้องต้นสำหรับการทำธุรกิจ นักศึกษาจบใหม่ที่เพิ่งเข้าทำงานจะได้รับการอบรมแล้วก็เทรนให้รู้จักการแลกนามบัตรที่ถูกแนวทาง ซึ่งก็คือ ใช้มือทั้งสองข้างสำหรับการยื่นและรับนามบัตร หันนามบัตรด้านที่ผู้รับสามารถอ่านเนื้อหาบนนามบัตรได้ให้คนรับ เมื่อรับนามบัตรของคู่ตรงกันข้ามแล้ว ให้อ่านเนื้อหา (ชื่อ สกุล ตำแหน่ง) บนนามบัตร กล่าวโดยย่อเป็นให้ “ตั้งใจ” กับนามบัตรนั้น พวกเราจะไม่ยัดนามบัตรเข้ากระเป๋าใส่สตางค์ หรือเก็บนามบัตรนั้นทันที และจะไม่เขียนใจความ หรือ ทำโน๊ตเล็กๆบนนามบัตรนั้นด้วย ถ้าต้องนั่งสัมมนา เราจะวางนามบัตรของคู่ค้าลงบนกระเป๋านามบัตรของเรา (เหมือนดังให้คู่ค้านั่งบประมาณนที่นอนนั่ง) แม้ได้รับนามบัตรหลายใบให้วางนามบัตรทั้งสิ้นตรงหน้าพวกเราโดยเรียงตามตำแหน่งนั่งของผูัที่ให้ แล้วก็เราจะวางนามบัตรของคนที่มีตำแหน่งสูงสุดไว้บนกระเป๋านามบัตรของพวกเรา
อายุ พอๆกับ วัยวุฒิ คนประเทศญี่ปุ่นให้เกียรติรวมทั้งให้ความเคารพนับถือต่อคนที่อาวุโสกว่า ไม่แปลกเลยที่ผลการสำรวจหลายๆสำนักจะพบว่าผู้บริหารระดับสูงสุดของบริษัทในญี่ปุ่น มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 62 ปี อายุที่สูงขึ้นของบุคลากรมักจะผันแปรตามตำแหน่งที่สูงขึ้นเช่นเดียวกัน ควรปฏิบัติต่อผู้ที่อาวุโสกว่าให้อ่อนน้อมถ่อมตนและก็อ่อนน้อมถ่อมตนกว่าผู้ที่มองเด็กกว่า รวมทั้งจงแลกเปลี่ยนนามบัตรกับคนที่มีตำแหน่งมากที่สุดก่อนเสมอ
ขายหนักมักจะขายไม่ออก อย่า hard-sell กับคนญี่ปุ่น อย่ามานะเน้นวิธีขายที่เร่งรัดให้คนซื้อตัดสินใจ หรือ พูดจาโน้มน้าวมากเกินความจำเป็น ในทางตรงกันข้ามการนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการแบบอ่อนน้อมถ่อมตน บ่งบอกถึงจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ โดยเอ๋ยถึงจุดเสียของสินค้าบ้าง จะมีผลให้คนซื้อเชื่อใจและก็ตกลงใจซื้อสินค้าหรือใช้บริการได้มากกว่าควรจำไว้ว่าการสร้างความไว้ใจ ความแน่ใจแล้วก็การสร้างความเกี่ยวเนื่องที่ดีกับลูกค้า ถือว่าสำคัญมากสำหรับเพื่อการทำธุรกิจกับชาวญี่ปุ่น
การมอบของขวัญ จารีตการแลกของขวัญนั้นก็สำคัญเหมือนกันในวัฒนธรรมญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเจอกับหนแรก (ทางธุรกิจ) อย่างไรก็ดี มีของขวัญบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ควรมอบให้คนญี่ปุ่น เช่น ดอกลิลลี่, ดอกบัว, ดอกคาไม่ลเลีย และก็ดอกไม้ที่มีสีขาวต่างๆเป็นดอกไม้ที่ใช้ในงานฌาปนกิจศพ ด้วยเหตุนี้ก็เลยไม่เหมาะสมถ้าหากจะมอบให้แขก แล้วก็ใดๆก็ตามที่เป็นเลขสี่หรือเลขเก้าซึ่งนับว่าเป็นเลขอัปมงคลของญี่ปุ่นก็ควรหลบหลีก นอกไปจากนี้ถ้าต้องส่งการ์ดคริสต์มาส มานะอย่าใช้สีแดง เพราะโดยธรรมดาการ์ดงานฌาปนกิจศพจะใช้สีนั้นฯลฯ
การแต่งกาย ประเทศญี่ปุ่นยังมีความอนุรักษ์นิยมอยู่มากโดยเฉพาะในเรื่องการแต่งกาย ผู้ชายจะสวมชุดสูทสีแก่และก็รองเท้าหนังสุภาพไปดำเนินงานเหมือนๆกัน ในขณะที่สตรีใส่ชุดสูทกระโปรงยาวประมาณหัวเข่า, ส้นสูงที่ไม่สูงเกินความจำเป็น เสริมสวยแบบที่ไม่เข้มเกินไป แล้วก็สวมเครื่องเพชรพลอยแต่ว่าน้อยไปทำงาน ดังนี้อีกทั้งชายและก็หญิงจะไม่ฉีดน้ำหอมหรือเปล่าใส่โลชั่นรวมทั้งเครื่องหอมอื่นๆที่มีกลิ่นไปทำงาน
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
ที่นี่Tags : อ่านต่อ