การฉันโซดาเป็นเหตุให้เกิดโรคกระพินิจกพรุนเป็นแน่แท้ไม่ก็ ? โซดาในความสำคัญของคนไทย คือ น้ำเปล่าอัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (คำว่า Soda เพราะว่าคนผิดแผกแตกต่างชาติเค้าจะหมายถึง น้ำอัดลมทุกชนิด ตั้งแต่ โค้ก เป๊ปซี่ โซดาที่ใช้กินกับเหล้า น้ำแร่อัดลม น้ำเขียว น้ำแดง น้ำส้ม กับอื่นๆอีก) ผู้จดเชื่อว่าเยอะแยะท่านคงเคยได้ข่าวเกียวกับการกินน้ำอัดลมสีดำ แล้วมีผลเป็นเหตุให้ร่างกายและจิตใจสูญชำรุดแคลเซียม พร้อมกับเติมความเสี่ยงของการเกิดโรคกระมองกพรุน ก็เลยอซับซ้อนจะทราบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่า “โซดา” ที่ยังมีชีวิตอยู่น้ำอัดลมชนิดหนึ่ง มีผลต่อแคลเซียมในร่างกายด้วยกันเพิ่มการเสี่ยงของโรคกระมองกพรุนหริอไม่ ใช่ไหมครับ ?
>> โซดาคือว่าที่ใด ? โซดาในคำอธิบายศัพท์ของคนไทย คือ น้ำเปล่าที่ถูกอัดด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การกำหนดใช้เป็นส่วนผสมในเครื่อสะดุดื่มชนิดต่างๆหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างมากอย่างมากเครื่อยับยั้งื่มที่มีแอลกอฮอล์ประสมอยู่ การกินโซดาในเกรงไทยจำนวนมากจึงอยู่ในช้าของผู้บริโภคที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นจำนวนมาก
โซดาธรรมดาไม่มีรสชาติ แต่จะมีความซ่า ผู้ผลิตหลายยี่ห้อก็เลยมีความคิดจัดทำในการเติมกลิ่นหรือว่ารสผลไม้เข้าไป เพื่อให้มีรสที่ดีขึ้น ถึงกระนั้นการเติมจะทำเพียงกะทัดรัดน้อย เพื่อให้ได้รสสัมผัสเวลาดื่มนิดหน่อยแต่ คนจำนวนมากเจี๊ยะโซดาเพราะ
โซดาช่วยเหลือทำให้รสชาติของเครื่อสะดุดื่มดีขึ้น ถองแล้วรู้สึกเอร็ดอร่อยและร่าเริง
>> การแดกโซดาเพิ่มความเสี่ยงสภาวะกระทัศนากพรุนหรือว่า ? สืบเนื่องจากการแดกน้ำอัดลมสีดำเป็นการทวีความเสี่ยงโรคกระสังเกตกพรุน โซดาซึ่งเป็นน้ำอัดลมชนิดหนึ่งจึงจำต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัยในข้อนี้อย่างบ่ายเบี่ยงหนักเกิน หลายท่านที่บริโภคโซดากันซ้ำแล้วซ้ำเล่าเลยเกิดคำถามว่า “การฟาดโซดามีผลเป็นเหตุให้ร่างกายสูญวายชนม์แคลเซียมพร้อมด้วยมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระชมกพรุนหรือว่า ?” ข้ามาไขข้อข้องใจกันขอรับ
ถ้าหากเราได้ทราบถึงคุณสมบัติของโซดาจะพบว่า “โซดาไม่มีกรดฟอสฟอริกและคาเฟอีน” ซึ่งเป็นเจ่งที่เป็นวิกฤติต่อแคลเซียมพร้อมทั้งกระทัศนาก งานวิจัยที่ทดลองเกี่ยวกับโซดาหมู่จริงๆจังๆมีอยู่ไม่มากนัก อย่างเดียวจากที่ผู้เขียนได้ทำความเข้าใจมาก็พบว่า ยังไม่พบว่าการบริโภคโซดาจะส่งผลให้ร่างกายสูญสิ้นชีวิตแคลเซียม จนทวีความเสี่ยงการเกิดโรคกระเพ่งกพรุนเหรอกระตรวจสอบกแตกหักได้ (การบริโภค
โซดาจึงสังเกตเหมือนกับว่าจะมั่นคง ณ ยุคนี้)
เช่นไรก็ตาม ถ้าว่าการแดก
โซดาจะยังถือว่ามั่นคงสร้างกระพิจารณาก ณ เวลานี้ แต่ไอเท็มที่หลายคนอาจจะจะไม่ทราบ คือ เพราะโซดามีความเป็นกรดอ่อนๆ ผู้บริโภคโซดาทุกทีเลยมีข้อสงสัยต่ออีกว่า “แล้วการกินโซดาทุกทีจะทำลายเคลือบฟันพร้อมด้วยทำเอาฟันสึกกร่อนไม่ก็ ?”
อีกครั้งที่กระทู้ถามนำมาสู่การหาวิสัชนาด้วยการทดทดลอง เช่นกับการทดทดลองกับน้ำอัดลมสีดำ รวมความว่า มีการนำฟันของมนุษย์จริงๆไปแช่กะทันหัน้ โซดา ยังไม่ตายเวลา 3 วัน บทสรุปที่ได้ เป็น เคลือบฟันยังอยู่กับปกติดี ผิดแผกแตกต่างจากการแช่ฟันลงในน้ำอัดลมสีดำ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ตรงกันข้าม ตกว่า เคลือบฟันถูกทำลาย หลายคนอาจจะมองว่าการทดทดลองรูปแบบนี้ไม่เหมือนกับของจริง ใครจะอมโซดาหรืออมอดน้ำอัดลมทันใจ้ในปากนานเป็นวันได้ สุทธิอยู่ที่การทดทดลองไม่แน่อาจไม่ตรงกับข้อสรุปในการเขมือบน้ำอัดลมมากนัก แต่อย่างน้อยการทดลองหมู่นี้ก็ให้แนวคิดว่า การบริโภคน้ำอัดลมสีดำโดยปกติ หมายถึงผลร้ายต่อสารเคลือบฟันค่อนข้างจะแน่นอน
ถึงนี้แยะท่านที่นิยมบริโภคโซดาคงจะมีเฮ ก็เพราะว่า ณ เวลานี้การดื่มโซดายังถือได้ว่าหนักแน่นต่อกระตรวจดูกพร้อมกับฟัน เช่นใดก็ตาม ผู้ที่บริโภคโซดากับสุรา ซึ่งบางท่านแถมพ่วบอกเลิก้วยการสูบบุหรี่ด้วย ก็ยังไม่รอดจากความเสี่ยงของการเกิดโรคกระพิศกพรุน เนื่องจากว่าแอลกอฮอล์ด้วยกันบุหรี่นั่นล่ะ ที่เป็นส่วนผสมหลักที่ทำเอาตัวสูญสิ้นชีวิตแคลเซียม และมีความเสี่ยงจะป่วยเป็นโรคกระเห็นกพรุนได้ในอนาคตกาล
>> โดยสรุป ถึงแม้ว่าการยัดโซดาจะไม่เป็นอันตราย แต่ทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่า น้ำที่ดีต่อร่างกายของคนเรามากที่สุด คือ น้ำเปล่าสามัญ เพราะว่าไร้การเสด้านหลังแต่งหรือสวมใส่ก๊าซชนิดใดลงไปในน้ำ การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความพึงประสงค์ของร่างกายเป็นสำคัญสากลที่การแพทย์ทุกแขนงปล่อยวางรับ เราจำเป็นจะต้องให้ความหมายอันสำคัญยิ่งกว่าการดื่มโซดา ซึ่งมีการอัดลมเข้าไปเพื่อความแซบ ยังไม่มีงานวัจัยใดที่รองรับว่า การบริโภคโซดาได้เปรียบการดื่มน้ำเปล่า ต่อจากนั้น “การดื่มน้ำเปล่าเป็นสำคัญ ดื่มโซดาเป็นบางช่วง” น่าจะหมายความว่าทางออกที่ดีกับสร้างสมดุลยภาพให้กับร่างกายได้มากมาก
Tags : โซดา