เทรนด์ลดท้องลดโรค
ทุกวันนี้สิ่งที่ผู้คนให้ความสำคัญเยอะที่สุดในชีวิตอันดับหนึ่งเลยก็คือ สุขภาพ เทรนด์การดูแลสุขภาพ ยกตัวอย่างเช่น การกินอาหารดีเป็นประโยชน์ พักนอนให้พอเพียง การบริหารร่างกาย ไปไกลถึงการทำสุขภาพทางร่างกายให้สวยสดงดงาม ฟิตเฟิร์มอยู่เสมอ อย่างเคยได้ยินการรณรงค์ ลดท้องลดโรค หรือ แผนการ คนประเทศไทยไร้พุง เทรนด์การออกกำลังกายจึงแปลงเป็นสิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปให้ความใส่ใจมากที่สุดกิจกรรมหนึ่ง
เครื่องมือเเพทย์ผู้คนล้วนหันมาเอาใจใส่ดูแลร่างกาย โดยยิ่งไปกว่านั้นการดูแลรูปร่าง น้ำหนักตัว ให้มีน้ำหนักที่เหมาะสม ปราศจากไขมันส่วนเกิน โดยการออกกำลังกาย ได้ประโยชน์อีกทั้งหุ่นงามรวมทั้งปกป้องโรคร้ายนานัปการ โดยการออกกำลังกายให้เห็นผลควรออกอย่างต่ำ 3 วันต่อสัปดาห์ ให้ได้วันละ 30 นาทีขึ้นไปเพราะว่าภายหลัง 30 นาที ร่างกายถึงจะเริ่มดึงพลังงานสำรองมาใช้ซึ่งร่างกายเก็บเอาไว้ภายในรูปของไขมันนั่นเอง
ติดตามพวกเราได้ที่เว็บไซต์ เครื่องชั่งน้ำหนักวัดไขมัน
https://www.thaihos.com ออกกำลังกายเพื่อลดไขมัน
หลายท่านที่มีเป้าหมายในการบริหารร่างกายเพื่อต้องการลดน้ำหนักรวมทั้งไขมันส่วนเกิน เพื่อได้รูปร่างที่สวย ใส่เสื้อผ้าได้ไม่อึดอัด ปราศจากพุงห้อยห้อย มักจะชั่งน้ำหนักอยู่เป็นประจำ เรามักใช้เครื่องชั่งน้ำหนักเป็นตัวชี้วัดว่าน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นหรือต่ำลง แต่ว่าตามความจริง จำนวนบนตาชั่งพวกนี้ไม่สามารถวัดความอ้วนที่จริงจริง บางคนเป็นกังวลขนาดที่ว่าชั่งน้ำหนัก รุ่งเช้า กลางวัน เย็น ซึ่งก็มักจะพบว่า น้ำหนักไม่น้อยลงเลย หนำซ้ำเปลี่ยนเป็นว่าพอน้ำหนักตัวไม่ลดลงก็เกิดความเคร่งเครียด กลับไปกินมากยิ่งกว่าเดิม
ออกกำลังกายแล้วน้ำหนักไม่ลด เครื่องมือเเพทย์
วันนี้พวกเราจะมาหาเหตุผลที่ว่าทำไม ถึงแม้ว่าเราเพียรพยายามออกกำลังกายอย่างมากแม้กระนั้นน้ำหนักตัวกลับไม่ลดน้อยลงอย่างที่เราหวัง อันที่จริงแล้วเมื่อพวกเราออกกำลังกายโดยยิ่งไปกว่านั้นการบริหารร่างกายแบบ weight training ที่กำลังได้รับความนิยมนั้น เป็นการที่ร่างกายสร้างกล้ามมากเพิ่มขึ้นโดยกล้ามนอกเหนือจากที่จะทำให้ร่างกายมีความสมบูรณ์แข็งแรงยังเป็นตัวช่วยหลักสำหรับในการเผาผลาญไขมันแม้ในเวลาที่พวกเรามิได้บริหารร่างกาย เมื่อออกลังกายแล้วถึงจุดที่เบิร์นไขมันออกไปได้ร่างกายของเราจึงบางลง ร่างกายลีนมากขึ้น สวมเสื้อผ้าแล้วหละหลวมสบาย แม้กระนั้นน้ำหนักตัวยังเหมือนเดิม หรือเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ หลายท่านบางทีอาจเคยได้ยินคำชี้แจงสำหรับสถานะการณ์นี้ว่า “ไขมันเบากว่ากล้าม” คำบอกเล่านี้ฟังดูแปลกๆเนื่องจากไขมัน 1 kg ก็หนักเท่ากับกล้ามเนื้อ 1 kg
แต่ว่าสิ่งที่ถูกก็คือ “ไขมันมีความหนาแน่นน้อยกว่ากล้ามเนื้อ” ซึ่งจากสูตรความหนาแน่นตามความรู้เบื้องต้นที่พวกเราเคยเรียนนั้นคือ
ความหนาแน่น = มวล/ปริมาตร
อาจตีความหมายได้ว่ามวล 1 kg เท่ากันนั้น ไขมันที่มีความหนาแน่นน้อยกว่านั้นจะมีความจุมากกว่า (กินพื้นที่มากกว่า) กล้ามที่มีความหนาแน่นน้อยกว่า ยกตัวอย่าง ไขมันที่หนัก 1 lb (ราวๆ 0.45 kg) ก็มีขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือได้ ดังนั้นถ้าเกิดเป็นการลดหุ่นที่ถูกทางที่เน้นการลดไขมันเป็นหลักนั้น แม้จะลดได้น้ำหนักน้อยจนเกือบจะไม่เห็นความต่างบนเครื่องชั่งก็ตาม แต่ปริมาณไขมันที่หายไปนั้นก็บางครั้งอาจจะเยอะพอที่จะมีผลให้สัดส่วนเปลี่ยนแปลงได้ การลดน้ำหนักที่ดีเป็นการลดส่วนของไขมัน (ไม่ใช่ส่วนของกล้ามเนื้อ) ด้วยเหตุดังกล่าวถ้าเกิดรูปร่าง %ไขมันในร่างกายลดลงก็ถือว่าการลดหุ่นนั้นสำเร็จ
เลิกพึงพอใจน้ำหนักตัวกันเหอะ
แล้วพวกเราจะทราบได้เช่นไรว่าร่างกายของเราสามารถกำจัดไขมันออกไปได้ นั่นคือพวกเราจำต้องวัดจำนวนไขมัน ด้วย ที่วัดไขมัน ดังเช่นว่า caliper , สายวัด และก็ทางนึงที่วัดไขมันในร่างกายได้อย่างมีคุณภาพมาก ก็คือการประมาณด้วย เครื่องชั่งน้ำหนักวัดไขมัน หรือ
เครื่องวิเคราะห์องค์ประกอบในร่างกาย ที่สามารถวัด เปอร์เซ็นไขมัน มวลไขมัน (kg) มวลกล้าม (kg) เปอร์เซ็นต์น้ำในร่างกาย ไขมันที่เกาะตามรอบๆอวัยวะภายในช่องท้อง อัตราการเผาเทียบอายุ อัตราการเผาไหม้พลังงานขั้นต้น ( bmr) รวมทั้ง มวลกระดูก (kg) เมื่อวัดด้วย เครื่องชั่งน้ำหนักวัดไขมัน จะมีผลให้พวกเรารู้ถึงมวลไขมันของเราว่าน้อยลงไหม โดยเลิกให้ความใส่ใจกับน้ำหนักตัว เป็นการดูแลรูปร่างที่ถูกอย่างแท้จริง ซึ่งหลังจากที่พวกเราออกกำลังกายอย่างแม่นยำ จะพบว่ามวลไขมันของพวกเราจะน้อยลงอย่างแน่นอน จะทำให้พวกเราวัดผลการดูแลรูปร่างของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้วก็เกิดกำลังใจสำหรับการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายด้วยการบริหารร่างกายต่อไป
เครดิตบทความ บทความ
เครื่องชั่งน้ำหนักวัดไขมัน https://www.thaihos.comTags : เครื่องวิเคราะห์องค์ประกอบในร่างกาย,เครื่องชั่งน้ำหนักวัดไขมัน
