ผู้เขียน หัวข้อ: จะเลือกซื้อปลั๊กพ่วง มีแนวทาง อย่างไร  (อ่าน 67 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ spammer

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 139,825
  • พอยท์: 100
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่า “ปลั๊กไฟ” ถือว่าเป็นเครื่องใช้ไม้สอยไฟฟ้าที่ทุกที่อยู่อาศัยจะต้องมีติดบ้านเอาไว้ใช้งานซึ่งคนทั่วไปมักมองข้ามเรื่องความปลอดภัย คิดว่าเลือกแบบไหนก็ได้ แต่ความจริงแล้วการเลือกรางปลั๊กไฟที่ได้มาตรฐานมีความสำคัญมาก ฉะนั้นมาดูกันดีกว่า ว่ามีวิธีเลือกรางปลั๊กไฟที่ปลอดภัยได้มาตรฐานอย่างไรบ้าง



  • ต้องได้รับการรับประกันมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ มอก. หรือได้รับเกณฑ์สากล เช่น CE TUV CCC CQC ซึ่งรางปลั๊กไฟที่ได้รับ มอก. ส่วนใหญ่จะเป็นสายไฟ คือ มอก. 11-2531 โดยสายไฟหุ้มฉนวนทองแดง PVC ต้องรองรับอุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส
  • ดูว่ามีระบบคุ้มครองไฟกระชากหรือไม่ ซึ่งระบบนี้สามารถป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ต่อพ่วงในกรณีที่เกิดไฟกระชาก เช่น คอมพิวเตอร์ ได้
  • ดูม่านเปิด-ปิดรูปลั๊กไฟ โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็ก เพราะจะช่วยป้องกันอันตรายจากการที่เด็กเอานิ้วจิ้มลงไปในรูปลั๊กได้
  • ต้องดูสายไฟ สายไฟของชุดสายพ่วงหรือรางปลั๊กไฟต้องมีฉนวนหุ้ม 2 ชั้น รวมถึงเต้าเสียบและเต้ารับต้องมีแรงดันไฟฟ้าที่ไม่เกิน 250 โวลต์ ซึ่งในการคัดรางปลั๊กไฟควรดูความจุของสายไฟด้วย ถ้านำไปต่อพ่วงกับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้กำลังไฟมากควรเลือกรางปลั๊กไฟที่มีสายไฟขนาดใหญ่พอจะส่งกำลังไฟไปได้
  • ต้องดูที่วัสดุ รวมไปถึงความแข็งแรงของรางปลั๊กไฟ เบื้องต้นสามารถเขย่าเพื่อเช็กเสียงว่าไม่มีอุปกรณ์ภายในหลุดหรือทำไว้ไม่เรียบร้อย ถ้ามีวัสดุอุปกรณ์ชิ้นใดชิ้นหนึ่งหลุดอาจทำให้เกิดอันตรายในการใช้งานได้ สำหรับวัสดุที่ใช้นำไฟควรเป็นทองแดงหรือทองเหลืองเท่านั้น เพราะนำกระแสไฟฟ้าได้ดี ถ้าใช้วัสดุจำพวกเหล็กชุบสี หรือโลหะอื่นๆ อาจเกิดความร้อนสะสมและไฟฟ้าลัดวงจรได้ ในขณะที่ตัวรางปลั๊กไฟควรเลือกพลาสติก ABS หรือ โพลีคาร์บอเนต ซึ่งเป็นพลาสติกคุณภาพสูง สามารถทนความร้อนและป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี
  • ต้องมีสวิตซ์เปิด-ปิด เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน และเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานให้มากยิ่งขึ้น
  • ดูว่ามีสายดินหรือไม่ ในกรณีที่เกิดไฟช็อตหรือไฟรั่ว กระแสไฟฟ้าเหล่านั้นก็จะไหลผ่านไปที่สายดินแทน ทำให้ผู้ใช้ไม่ได้รับอันตราย ซึ่งรางปลั๊กไฟบางแบรนด์มีรูสำหรับสายดินแต่พอแกะดูจริงๆ กลับไม่มี อาจเป็นเพียงรูเปล่าที่สร้างขึ้นมาเฉยๆ เท่านั้น
  • ต้องดูระบบฟิวส์หรือเซอร์กิจเบรกเกอร์ ที่จะช่วยตัดไฟฟ้าถ้าใช้ไฟมากเกินขนาดที่ระบุไว้ โดยเซอร์กิตเบรกเกอร์จะตัดไฟฟ้า ออกจากระบบโดยโดยอัตโนมัติ หรือฟิวส์จะขาดเพื่อตัดกระแสไฟ

    การเลือกรางปลั๊กไฟที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่แนะนำด้านบนอาจจะมีราคาสูงสักหน่อย แต่เมื่อเปรียบเทียบกับความปลอดภัยสำหรับตัวผู้ใช้และทรัพย์สินภายในบ้าน นับว่าคุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นการเลือกรางปลั๊กไฟให้ดี เลือกให้โดน (ใจ) จะให้ความสบายใจในการใช้งานระยะยาวอย่างแน่นอน
     

    ขอบคุณบทความจาก : http://www.kumpangcity.go.th/bara/index.php/topic,1411907.new.html

    Tags : รางปลั๊กไฟ