ยุโรปแกรนด์อิตาลีใต้ (2020)GRAND SOUTH ITALY (2020)

สายการบินไทย

9 วัน 6 คืน

30 กิโลกรัม

มาตรฐานยุโรป

4 ดาว หรือเทียบเท่า โรม – ปอมเปอี – ซอร์เรนโต – โพสิตาโน่ – นาโปลี
อมัลฟี – ราเวลโล – มาเทรา – บารี – อัลเบอโรเบลโล – ออสทูนี อิตาลีตอนใต้ ดินแดนใต้สุดแห่งหนึ่งของทวีปยุโรป ดินแดนแห่งหน้าผาริมทะเล และเกาะแก่งที่สวยงามในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
พร้อมด้วยศิลปะและประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 2500 ปี อีกทั้งอากาศที่อบอุ่นตลอดปี
จึงเป็นสถานที่ตากอากาศที่มีชื่อเสียงของจักรพรรดิ เศรษฐี และผู้มีอำนาจมาตั้งแต่ยุคโรมัน จวบจนทุกวันนี้มนต์เสน่ห์และความงามก็ยังมีอยู่เต็มเปี่ยม
ผู้นำและอดีตผู้นำทั่วโลก เหล่าเศรษฐี ดารา ผู้มีชื่อเสียงและมั่งมีเงินทองยังใช้เป็นแหล่งพักผ่อนตากอากาศยอดนิยมทุกฤดูกาล
**โปรแกรมเพื่อการพักผ่อน พักโรงแรมละ 2 คืน 3 ครั้ง

วันแรก กรุงเทพฯ
เวลา 21.00 น. : พร้อมคณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ (ทางเข้าประตู 3) เคาน์เตอร์ D – E สายการบินไทย พนักงานจากบริษัทให้การต้อนรับ วันที่สอง กรุงเทพฯ – โรม – ปอมเปอี – ซอร์เรนโต้
เวลา 00.20 น. : บินตรงสู่กรุงโรม โดยเที่ยวบินที่ TG 944
เวลา 06.50 น. : ถึงสนามบินกรุงโรม (ROME) หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว จากนั้นออกเดินทางสู่เมืองปอมเปอี (POMPEII / 3 ชม. 15 นาที)
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย : นำชมเมืองปอมเปอี เมืองโรมันโบราณที่ถูกขนานนามว่าเมืองแห่งบาป และถูกพระเจ้าลงโทษโดยให้ภูเขาไฟวิซุเวียสระเบิดลาวาไหลท่วมเมืองภายในเวลาช่ัวข้ามคืน ชมเมืองเก่าที่นักโบราณคดีได้ขุดค้น โดยสภาพภายในตัวเมืองยังสมบูรณ์อย่างน่าอัศจรรย์ทั้งๆที่ถูกฝังมาเกือบ 2000 ปี แล้วออกเดินทางสู่ซอร์เรนโต้ (SORRENTO / 1 ชม. 30 นาที) เมืองโรแมนติคเจ้าของเพลงรักอมตะ “คัมแบ็ค ทู ซอร์เรนโต้” เป็นเมืองตากอากาศที่อบอุ่นด้วยแสงแดดตลอดปี เป็นแหล่งปลูกองุ่น ส้ม มะกอก มะนาวที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของยุโรป
นำท่านเข้าที่พักโรงแรม PARCO DEI PRINCIPI หรือระดับเดียวกัน (2 คืน)
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

วันที่สาม ซอร์เรนโต้ – ราเวลโล – อมัลฟี – โพสิตาโน่ – ซอร์เรนโต้
เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านสู่เมืองราเวลโล่ (RAVELLO / 1 ชม. 30 นาที) เมืองตากอากาศบนเขาสูง ด้านหน้าเป็นวิวทะเลสวยมากถึงมากที่สุด ด้านหลังเป็นวิวภูเขาสูง เมืองนี้สวยสุดยอดจริงๆ ตัวเมืองเป็นบ้านเก่าๆ เล็กๆ อยู่ข้างๆ จัตุรัส มีร้านกาแฟน่ารักอยู่รอบๆ นำท่านเดินชมตัวเมืองเริ่มจากจัตุรัสกลางเมืองเวสโควาโด (PIAZZA VESCOVADO) โบสถ์ประจำเมืองที่มีอายุกว่า 800 ปี ชมประตูสัมฤทธิ์ (THE BRONZE DOOR) ที่มีภาพสลักเรื่องราวของพระคริสต์ถึง 54 ช่อง ชมวิวสวยรอบจัตุรัสและวิลล่า รูโฟโล (VILLA RUFOLO) คฤหาสน์บนหน้าผาริมทะเลที่สวยงาม ภายในมีสวนดอกไม้ริมหน้าผาที่งดงามยิ่ง จุดชมวิวตรงนี้เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองราเวลโล่ แล้วนำท่านสู่เมืองอามัลฟี (AMALFI / 20 นาที) เลาะเลียบชมเส้นทางริมทะเลที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อามัลฟี่โคสท์ (AMALFI COAST) โดยเส้นทางจะคดเคี้ยวไปบนหน้าผาริมทะเลสูงบ้างต่ำบ้าง ผ่านไร่ส้ม ไร่มะนาว ไร่มะกอก หมู่บ้านริมหน้าผาที่สร้างเป็นชั้นๆ เรียงรายตลอดทาง ไม่มีที่ไหนในโลกจะสร้างบ้านริมทะเลได้สวยงามและน่าหวาดเสียวกว่านี้อีกแล้ว ชมเมืองอามัลฟี่ และโบสถ์ซานอันเดรีย หรือเซนต์แอนดรู โบสถ์ประจำเมืองที่สวยงามและเก่าแก่กว่า 900 ปี
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย : นำท่านนั่งเรือเฟอร์รี่สู่เมืองโพสิตาโน่ (POSITANO / 15 นาที) เมืองแสนสวยที่สร้างบ้านเรียงรายจากหน้าผาสูงชันลงมาเรื่อยๆ จนถึงริมทะเลข้างอ่าวที่เป็นที่พักผ่อน และศูนย์กลางของที่ระลึกต่างๆ ชมโบสถ์ประจำเมือง และหาดทรายแสนสวย จากนั้นนั่งเรือกลับสู่อามัลฟี แล้วเดินทางกลับซอร์เรนโต้ (1 ชม. 20 นาที)
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
หมายเหตุ ตัวเมืองหรืออ่าวเมืองโพสิตาโน หากเข้าทางบกต้องใช้รถเล็กเท่านั้น และถนนอยู่บนเนินสูงชัน วันที่สี่ ซอร์เรนโต้ – มาเทรา – บารี
เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่มาเทรา (MATERA / 3 ชม. 30 นาที) เมืองสวยงามแปลกตาของแคว้นบาสิลิก้าคาต้า (BASILICATA) ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันออกของด้านใต้อิตาลี
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย : นำชมตัวเมืองมาเทรา ซึ่งเมืองนี้เป็นชุมชนมาตั้งแต่ 300 ปีก่อนคริสต์ศตวรรษ สร้างอยู่ในหินภูเขาไฟ บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างที่มีลักษณะเหมือนถ้ำที่เรียกกันว่า ซาสซี (SASSI) และโบสถ์รูเปสเตรียนที่ขุดไว้ตามโขดหินในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ที่พักอาศัยเหล่านี้เดิมเป็นที่อยู่ของพระที่ครองตนตามกฎของเซนต์ เบเนดิก และเซนต์ บาซิล ชมห้องพัก, ห้องสวดมนต์ ที่ประดับประดาด้วยของตกแต่งในยุคไบแซนไทน์และจิตรกรรมฝาผนังปูนเปียกมากมาย เมืองนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี 1993 (พ.ศ. 2536)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองบารี (BARI / 1 ชม.) เมืองใหญ่อันดับสองของอิตาลีทางตอนใต้ ในอดีตนั้นเป็นศูนย์กลางการเกษตร อุตสาหกรรม และการพาณิชย์ และยังเป็นท่าเรือที่สําคัญ โดยเฉพาะในยุคกลาง ชมโบสถ์เซนต์นิโคลัส (ปี ค.ศ. 1087 ชาวบารีได้นํากระดูกของเซนต์นิโคลัสมาจากโบสถ์แห่งเมืองไมร่า / Myra ในประเทศตุรกี) ปัจจุบันจึงได้ดัดแปลงอาคารแห่งนี้เป็นโบสถ์ และประดิษฐานกระดูกของเซนต์ นิโคลัสไว้ภายใน ซึ่งเชื่อกันว่า เซนต์นิโคลัสก็คือที่มาของซานตาคลอสนั่นเอง (เซนต์, แซงต์, ซาน, ซานต้า เป็นคำเดียวกัน)
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร / นำท่านเข้าที่พักโรงแรม BARI หรือระดับเดียวกัน (2 คืน)

วันที่ห้า บารี – อัลเบอโรเบลโล – ออสทูนี – บารี
เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ถ้ำคาสเทลลานา (GROTTE DI CASTELLANA) ซึ่งมีการบันทึกการค้นพบอย่างเป็นทางการเมื่อปี 1872 (พ.ศ. 2415) แต่ถ้ำนี้เป็นที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยกลาง เป็นถ้ำที่เกิดจากการกัดเซาะโดยแม่น้ำที่ไหลผ่านชั้นหินทรายใต้ผิวดิน มีหินงอกหินย้อยที่งดงาม โดยเฉพาะห้องโถงสีขาวขนาดใหญ่ที่อยู่ลึกลงใต้ผิวดินถึง 70 เมตร จากนั้นนำท่านสู่เมืองอัลเบอโรเบลโล (ALBEROBELLO) แคว้นปูลย่า เมืองนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี 1996 (พ.ศ. 2539) นําชมหมู่บ้าน TRUILLY VALLEY บ้านเรือนในสมัยศตวรรษที่ 16 ที่ก่อขึ้นมาจากหินปูนและหลังคาทรงกรวย ด้วยวิธีการสร้างบ้านแบบโบราณ กําแพงและผนังของบ้านก่อด้วยหิน DRY STONE ทีละก้อนๆ ให้แน่นหนาตามธรรมชาติโดยไม่ต้องใช้ปูนซีเมนต์เลย หินที่ใช้ในการก่อสร้างเป็นหินปูนที่สามารถหาได้ในพื้นที่นั้นนั่นเอง ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้อยู่ผ่านยุคสมัยต่างๆ มาได้กว่า 600 ปี เดินชมบ้านเรือน ซอกซอยที่สวยแปลกตา ถนนและร้านค้าขายของที่ระลึก
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย : ออกเดินทางสู่ออสทูนี (OSTUNI) เมืองน่ารักที่มีอาคารบ้านเรือนสีขาวทั้งเมือง เดินชมเมืองออสทูนีที่ถือเป็นอัญมณีทางด้านสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่ง ชมความน่ารักของบ้านเรือนสีขาวทั้งเมือง จนได้รับการยกย่องเป็น WHITE CITY แล้วเดินทางกลับบารี
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

วันที่หก บารี – นาโปลี – โรม
เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
ออกเดินทางสู่เมืองนาโปลี (NAPOLI / 3 ชม. 30 นาที) เมืองท่าใหญ่อันดับสองของอิตาลีริมอ่าวเนเปิ้ล อดีตเมืองพักตากอากาศอันเลื่องชื่อในต้นศตวรรษที่ 20 ที่มาของเพลงซานตาลูเซีย แวะบันทึกภาพปราสาทคาสเซิลนูโวที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย : นำท่านช้อปปิ้งสินค้าภายใน LA REGGIA DESIGNER OUTLET ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมจากทั่วโลกมากมาย รวมทั้งแบรนด์เนมจากอิตาลี อาทิ ARMANI, BAGATEELE, CALVIN KLEIN, CAMPER, GUCCI, GUESS, LEVI’S, MOSCHINO, NIKE, PRADA, TIMBERLAND, VERSACE และอื่นๆ อีกมากมาย แล้วเดินทางสู่กรุงโรม (ROME /3 ชม.) นครหลวงของอิตาลี และอาณาจักรโรมันอันเกรียงไกรทั้งยังเป็นศูนย์กลางการปกครองวัฒนธรรมและวิทยาการต่างๆ ในอดีต
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร / นำท่านเข้าที่พักโรงแรม H10 หรือระดับเดียวกัน (2 คืน)

วันที่เจ็ด โรม
เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านชมกรุงโรม นำท่านเข้าชมภายในโคลีเซียม (COLOSSEUM) สนามประลองยุทธทั้งคนและสัตว์ ประตูชัยพระเจ้าคอนสแตนติน ชมโรมัน ฟอรั่ม ลานชุมนุมของเหล่านักปราชญ์ เซอร์คัสแม็กซิมุส สนามแข่งรถม้า ศึกเบนเฮอร์ เยือนนครรัฐอิสระวาติกัน ศูนย์กลางศาสนาคริสต์นิกายโรมันแคทอลิก ชมความยิ่งใหญ่และงดงามตระการตาภายในโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ (ST PETER’S BASILIGA) ในนครวาติกันที่ใหญ่ที่สุดในโลก ชมเพียต้า รูปแกะสลักหินอ่อนรูปพระแม่มาเรียประคองพระเยซูหลังถูกตรึงกางเขน ฝีมือไมเคิล แองเจโร และแท่นบูชา ฝีมือเบอร์นินี่
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารแบบเอเชีย
บ่าย : นำท่านชมน้ำพุเทรวี่ที่มาของบทเพลงอมตะ “ทรี คอยน์ อิน เดอะ ฟาวน์เท่น / THREE COINS IN THE FOUNTAIN” ชมจัตุรัสนาโวนา จัตุรัสยอดนิยมของกรุงโรม ที่ตั้งของน้ำพุแห่งแม่น้ำ 4 สาย ได้แก่ แม่น้ำคงคา, ดานู๊บ, ไนล์, พลาต้า ผลงานของ เบอร์นินี่ ผ่านชมเพียซซ่าเวนิเซีย จัตุรัสวีรบุรุษ, โรมันฟอรั่ม, สนามแข่งม้าแบบโรมัน, ศาลาว่าการกรุงโรม, ปราสาท เซนต์แองเจโร ฯลฯ แล้วช้อปปิ้งสินค้าเครื่องหนังและแฟชั่นชั้นนำย่านบันไดสเปน จุดนัดหมายของหนุ่มสาวชาวโรม่า และยังเป็นย่านช้อปปิ้งหลักของบรรดาร้านแฟชั่นดีไซเนอร์ชั้นนำต่างๆ มากมาย
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง วันที่แปด โรม – กรุงเทพฯ
เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
อิสระพักผ่อนเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย / นำท่านสู่สนามบิน
เวลา 13.55 น. : ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ TG 945 วันที่เก้า กรุงเทพฯ
เวลา 05.35 น. : ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ (ชั้น 2 ผู้โดยสารขาเข้า) กำหนดการเดินทาง 5-13, 12-20 ก.ย. // 3-11, 17-25 ต.ค., 24 ต.ค.-1 พ.ย., 7-15 พ.ย.
อัตราค่าบริการ **กรุณารีบจอง และส่งสำเนาพาสปอร์ต เพื่อจองคิววีซ่า เพราะคิวแน่นมาก **
รายการ | ก.ย. | ต.ค.,พ.ย. |
ผู้ใหญ่ พักห้องคู่ ราคาท่านละ | | |
เด็กอายุ 2-11 ปี พักกับผู้ใหญ่ (มีเตียงเสริม) ราคาท่านละ | | |
เด็กอายุ 2-5 ปี พักกับผู้ใหญ่ (ไม่มีเตียงเสริม) ราคาท่านละ | | |
พักเดี่ยวเพิ่มท่านละ ราคาท่านละ | | |
หมายเหตุ
*บางโรงแรมเท่านั้นที่มีห้อง 3 เตียง หากเป็นผู้ใหญ่ 3 ท่าน เรียนแนะนำว่าเปิด 2 ห้องจะสะดวกกว่า
**ท่านที่จะไม่ใช้ตั๋วกรุ๊ป กรุณาแจ้งก่อนเดินทางอย่างน้อย 25 – 30 วัน มิฉะนั้นอาจมีค่าใช้จ่ายท่านละ 3,000 บาท (เทศกาล 5,000) / ตั๋วกรุ๊ปเมื่อออกตั๋วแล้วเลื่อนไม่ได้ทุกกรณี หมายเหตุ (เกี่ยวกับประเทศอิตาลี)
– คิววีซ่ายื่นอิตาลีค่อนข้างน้อย ต้องใช้ชื่อและนามสกุลจริงตามหนังสือเดินทาง (PASSPORT) เท่านั้นจึงจะจองได้ (ช่วงเทศกาลคิวหมดก่อนเป็นเดือนๆ) กรุณาจองทัวร์แต่เนิ่นๆ
– ในเขตเมืองเก่าของทุกเมืองในอิตาลี ไม่อนุญาตให้รถทัศนาจรเข้าไปและทางราชการได้กำหนดจุดรับ – ส่ง ไว้เฉพาะแห่ง ซึ่งอาจจะไกลบ้าง หากท่านจะชมของดี – ของสวยงามที่มีชื่อเสียงของประเทศนี้จึงหลีกเลี่ยงการเดินไม่ได้ (อากาศดี เดินเพลินๆ)
– เนื่องจากความหนาแน่นของประชากรมีมาก หากเปรียบเทียบกับพื้นที่ของประเทศอิตาลี ดังนั้น โรงแรมและห้องอาหารอาจจะคับแคบบ้างในความรู้สึกของคนไทย และอาจดูเก่าๆ ไม่เหมือนในเอเชีย โปรดทำความเข้าใจ
– อาหารเช้าในโรงแรมของอิตาลีไม่มีให้เลือกมากมายเหมือนในเมืองไทย โปรดทำความเข้าใจ (โรงแรมระดับ 4 ดาว+)* หากท่านเข้าใจและอยากไป กรุณาส่งใบจองและมัดจำ ** หากท่านยังไม่เข้าใจ กรุณาพิจารณาโปรแกรมทัวร์อื่น
* บริษัทต้องกราบขออภัยท่านที่จะต้องแจ้งข้อมูลอย่างตรงไป – ตรงมาแก่ท่าน เพื่อความชัดเจนและถูกต้องอัตราค่าบริการนี้รวม
– ค่าตั๋วเครื่องบินไป – กลับเป็นหมู่คณะสายการบินไทย
– ค่าน้ำหนักกระเป๋าขึ้นเครื่องบิน 1 ใบไม่เกิน 30 กิโลกรัม (เฉพาะการบินไทย)
– ค่าโรงแรมที่พักตามรายการ และค่าขนกระเป๋าขึ้น – ลงท่านละ 1 ใบ
– ค่าอาหารตามรายการ
– ค่าเข้าชมโคลีเซียม 12 ยูโร
– ค่าธรรมเนียมวีซ่า
– ค่าเข้าชมสถานที่ตามรายการ
– ค่ารถ – รับส่งและนำเที่ยวตามรายการ
– ค่ามัคคุเทศก์ชำนาญงานอำนวยความสะดวก
– ค่าทิปคนขับรถ 2 ยูโร/คน/วัน
– น้ำดื่มท่านละ 1 ขวด/วัน (ยกเว้นวันสุดท้ายจากโรงแรม – ไปสนามบิน)
– ค่าประกันอุบัติเหตุ ในวงเงินประกันท่านละ 1,000,000 บาท, ค่ารักษาพยาบาล 1,500,000 บาท (ไม่คุ้มครองโรคประจำตัว)**ปกติแล้วทัวร์ทั่วไปจะใช้ประกันของตัวแทนที่ยุโรป ซึ่งคุ้มครองแต่อุบัติเหตุ เป็นประกันกลุ่มแบบเหมาเป็นหมื่นหัว และเบี้ยประกันประมาณคนละ 50 – 60 บาท แต่ของยูนิตี้เรามีซื้อประกัน ALLIANZ เพิ่มให้ลูกค้าทุกท่านอีก 1 ฉบับ เจ็บป่วยจากการเดินทางจากอุบัติเหตุหรือสาเหตุอื่น ถ้าเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจะคุ้มครองได้มากกว่าทัวร์ทั่วไป ยกเว้นโรคประจำตัวหรือโรคร้ายแรงที่แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นมาก่อนเดินทาง
https://www.unity2000tour.com/