ให้บริการงาน
ปั๊มไดคัท ห่อปก เย็บท้ายปฎิทิน บริการปั๊มนูน
บริการห่อปก ปั๊มไดคัท
ปั๊มเคทอง หลังการพิมพ์เสร็จ ทำบล็อคหนังสือ จัดรูปเล่ม โดย รวีวิริยะ
งานข้างหลังพิมพ์กับการเพิ่มค่าให้กับงานพิมพ์
การเคลือบลามิเนตเงาหรือด้านนั้น นอกเหนือจากฉาบเพื่อเพิ่มความงามให้กับกล่องหรือบรรจุภัณฑ์ในงานชิ้นนั้นๆแล้ว คุณประโยชน์ที่ได้รับในขั้นถัดมาคือ เพิ่มความคงทนให้กับชิ้นงานแล้วก็สามารถกันความชุ่มชื้นได้ในระดับนึงอีกด้วย เมื่อเราฉาบงานพิมพ์นั้นแล้ว ยังมีเทคนิคงานหลังพิมพ์อีกเพียบเลยแตกต่างกันไป อยู่ที่เราอยากได้งานในลักษณ์ใดและสื่ออารมณ์แบบไหน วันนี้จะมาเสนอแนะวิถีทาง เพื่อใช้เป็นโอกาสหรือเป็นไอเดียในการออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อเหมาะสมกับสินค้าที่มีอยู่
การเคลือบลามิเนตเงา/ด้าน ประโยชนที่ได้รับเป็นเพิ่มความสวยสดงดงามคงทนถาวรและก็กันความชื้น
ลามิเนตเงา เพิ่มความแจ่มใสให้กับงานพิมพ์ งานที่ได้ให้ความรู้สึกถึงความใหม่และก็ล้ำสมัย
ลามิเนตด้าน ลักษณะงานที่ได้มองเรียบง่าย ให้ความรู้สึกในการเข้าถึงได้ดี มองดูแล้วสบายตา
ลามิเนตเงา+ปั๊มฟอยล์ ลักษณะงานที่ได้ก็จะดูมีความสดใสส่วนการปั๊มฟอยล์ จะย้ำข้อดีที่ปรารถนา เป็นต้นว่า โลโก้
ลามิเนตด้าน+ปั๊มฟอยล์ ลักษณะงานที่ได้จะมองเรียบหรู เพราะลามิเนตด้านให้ความรู้ความเข้าใจสึกเรียบง่าย เมื่อปั๊มฟอยล์ที่มีความเงาลงไป งานจะดูสะดุดตาและสดุดตาขึ้นมาในทันที
ลามิเนตด้าน+spot uv spot uv จะให้ความเด่นของรูปภาพหรือเนื้อความที่อยากสื่อสารให้โดดเด่น
ปั๊มนูนหรือ
ปั๊มจม เพื่อเพิ่มความโดดเด่นสำหรับเพื่อการสัมผัส ให้งานมีมิติมากขึ้น เพิ่มTEXTURE ให้กับสินค้า และก็ยังรวมทั้งเป็นการกันเลียนแบบ
ตัดตก (Bleed) หรือครั้งคราวเรียกว่าระยะเผื่อเจียน คืออะไร รวมทั้งเพราะเหตุไรจะต้องมี มาว่ากันในบทความเดียวอันดับแรกจำเป็นต้องทำความเข้าใจในกรรมวิธีพิมพ์ก่อนน้อยครับผม ว่าในความเป็นจริงแล้วเวลาสถานที่พิมพ์ พิมพ์งานออกมาไม่ได้เป็นขนาดสำเร็จรูปเสมอครับแต่จะมีขอบกระดาษเพื่อเอาไว้ให้เครื่องพิมพ์จับกระดาษเวลาทำงาน รวมถึงไกด์สีรวมทั้งรายละเอียดต่างๆนอกเหนือจากนี้สำหรับช่างพิมพ์ เพราะฉะนั้นพิมพ์รายงานเสร็จแล้ว จะส่งให้ลูกค้า ก็จะต้องมีการตัดขอบกระดาษส่วนนี้ทิ้งไป
เมื่อทำตัดกระดาษแล้ว แน่นอนว่าพวกเราไม่อาจจะตัดตรงขอบงาน (ในภาพจะเป็นรอยต่อสีขาวและก็ม่วง) แบบเป๊ะๆได้ แถมงานที่พิมพ์ออกมาทั้งหลายแหล่พันหลายหมื่นแผ่น ก็มิได้ตรงกันเป๊ะทุกแผ่นนะครับ ไม่ว่าจะพิมพ์ด้วยระบบดิจิตอลหรือออฟเซ็ต หรือพิมพ์ด้วยเครื่องจักรทันสมัยขั้นเทวดาเท่าใด ก็ไม่อาจจะทำให้ตรงกันได้ทุกแผ่นนะครับ สิ่งนี้ต้องมีให้ได้ๆครับ และนักออกแบบส่วนมากที่ไม่เคยมีประสบการณ์ดำเนินงานกับสถานที่พิมพ์มาก่อนจะไม่เคยรู้ งานที่มิได้เผื่อตัดตก บางโอกาสจะมีผลให้มีขอบขาวๆเกิดขึ้นเวลาพิมพ์งานจริงกระดาษบางแผ่นอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีเนื้องานขอบขาวยื่นล้ำเข้าไปได้ดังนั้นเวลาดีไซน์กราฟฟิกอาร์ตเวิร์ค ดีไซน์เนอร์จำเป็นจะต้องเผื่อระยะตัดตกมาไว้เสมอ โดยธรรมดาแล้วทางโรงพิมพ์วัชรินทร์ พี.พี. กระจ่างลูกค้าก่อนว่างานที่ทำมามิได้เผื่อตัดตกไว้ หากลูกค้าไม่ได้เผื่อตัดตกมาให้ทางสถานที่พิมพ์ ในกรณีนี้อาจจะมีขอบงานสีขาวแลบเข้าไปในเนื้อโปสเตอร์ได้ครับ
ระยะตัดตกกับงานหนังสือเล่ม
ถ้าถามว่าระยะตัดตกนี้ ใช้กับงานอะไรบ้างก็ต้องตอบว่าใช้กับงานทุกชนิดที่พิมพ์โดยเครื่องพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นระบบออฟเซ็ทหรือระบบดิจิตอลก็ตาม ลองมาศึกษางานหนังสือกันบ้างนะครับว่าระยะตัดตกนี้ ส่งผลอย่างไรบ้างกับงานที่เป็นหนังสือรูปเล่ม เวลาโรงพิมพ์พิมพ์รายงานหนังสือจะไม่ได้พิมพ์ทีละหน้า แต่จะพิมพ์เป็นยกแล้วนำแต่ละชูมาพับเพื่อรอคอยทำเย็บเล่มอีกทีนึง รูปตัวอย่างที่นำมาแสดงนี้ เป็นการเข้าเล่มแบบเย็บมุงหลังคา ด้วยเหตุดังกล่าวเมื่อพับงานแต่ละยกมาเสร็จแล้ว ก็จะนำมาซ้อนกันเพื่อรอเข้าสู่กรรมวิธีการเย็บเล่มอีกครั้ง
เมื่อกระทำการเย็บเล่มแล้ว ก็จะต้องมีการตัดเจียนรูปเล่มรอบด้านให้เป็นงานสำเร็จ งานหนังสือที่พับมาถ้าเกิดไม่ตัดขอบ 3 ด้าน ก็จะเปิดอ่านเป็นหน้าไม่ได้น่ะนะครับ (แน่ล่ะ เพราะมีอย่างต่ำ 1-2 ด้านที่ถูกพับมา) ระยะตัดตกที่ลูกค้าเผื่อมานั้นจะมีผลให้งานที่ออกมามีความสมบูรณ์100% ไม่มีขอบขาวแลบเข้าไปในเนื้องาน เนื้องานรวมทั้งรูปภาพถูกพิมพ์เต็มพื้นที่ของกระดาษ ตรงนี้มีข้อควรไตร่ตรองสำหรับลูกค้าแล้วก็ดีไซน์เนอร์ทุกคนนิดหนึ่งครับผม ก็คือพวกเราไม่สมควรที่จะวางรายละเอียดสำคัญของหนังสือไว้ติดขอบกระดาษมากเกินความจำเป็น เนื่องจากมีโอกาสที่ตัวหนังสือรูปภาพ ข้อความสำคัญที่วางไว้ติดขอบกระดาษจะถูกเอาออกระหว่างการเจียนรูปเล่ม คำว่าได้โอกาสในที่นี้เป็น อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีบางเล่มโดนตัด บางเล่มไม่โดน โดนตัดทุกเล่ม ไหมโดนตัดซักเล่มเลยก็ได้ครับ ดังนั้นเพื่อให้มีความปลอดภัย วางรายละเอียดสำคัญห่างจากขอบงานไว้ซักหน่อยนะครับ กล่าวถึงประเด็นการวางงานนี้ เสนอแนะให้ลูกค้ารวมทั้งดีไซน์เนอร์ทุกคนอ่านบทความ เกี่ยวกับการวางงานบนหน้ากระดาษของทางสำนักพิมพ์มี
ระยะตัดตกควรจะเผื่อให้เท่าใดดี
โดยทั่วไปทั่วๆไปแล้ว ถ้าเกิดเป็นหนังสือไสกาว / เย็บกี่ไสกาว โดยธรรมดาระยะตัดตกน่าจะเว้นไว้ไม่ต่ำยิ่งกว่า 3 มม. เป็นอย่างน้อย แต่ว่าก็มีหลายกรณีที่ควรเว้นระยะตัดตกมาให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังสือที่เข้ารูปเล่มแบบเย็บมุงหลังคา เพราะอะไรถึงเป็นแบบนั้น ? ด้วยเหตุว่าหนังสือที่เย็บเล่มแบบเย็บมุงหลังคา ถ้าหนังสือมีความหนามาก เวลาพับเพื่อทำการเข้าเล่มแล้ว หน้าที่อยู่คู่ในสุดกับหน้าที่อยู่คู่นอกสุด (ปกหนังสือ) จะอยู่ห่างกันถึง 5-6 มม. เลยทีเดียวในกรณีนี้ ระยะตัดตกก็ต้องมีราวๆ 5-6 มม.เช่นกัน
สาเหตุจากจำนวนหน้าที่มากมายของหนังสือนี่เอง ทำให้การเข้าเล่มแบบเย็บมุงหลังคาไม่ควรใช้กับหนังสือที่มีความครึ้มเกิน 80 หน้าคร่าวๆ หากหนังสือที่มีความดกเกิน80 หน้า ทางสถานที่พิมพ์วัชรินทร์ พี.พี. ชี้แนะให้ลูกค้าเข้ารูปเล่มแบบไสกาวจะดีกว่าครับผม เนื่องจากว่าแม้พวกเรามีความรู้สึกว่าพวกเราดีไซน์ artwork มาดีแล้ว แต่ว่าด้วยความครึ้มของหนังสือ หน้าด้านในสุดก็ได้โอกาสที่เนื้อหาหรือใจความจะโดนเอาออกไปอยู่สูงทีเดียวครับ
#ปั๊มมกร์, #ปั๊มนูน, #ปั๊มจม#diecut, #embossing #รวีวิริยะ บริการราคาประหยัดถูก
วิธีการเลือกสถานที่พิมพ์ เพื่อตรงความจำเป็นของการใช้งาน สำนักพิมพ์เป็นสถานที่รับพิมพ์รายงานสื่อต่างๆไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสื่อพิมพ์แบบหนังสือ งานพิมพ์ใบปลิวต่างๆไวนิล หรือ โรงพิมพ์มีหลายชิ้นและมีหลายขนาด การเลือกใช้สถานที่พิมพ์ก็มิใช่ดูที่เป็นสำนักพิมพ์ขนาดใหญ่สิ่งเดียว พวกเราจำเป็นจะต้องคำนึงถึงหลักเกณฑ์สำหรับในการไตร่ตรองเลือกใช้โรงพิมพ์ด้วยนะคะ เนื้อหานี้ขอเสนอแนะหลักเกณฑ์สำหรับการเลือกสำนักพิมพ์ เพื่อให้ตรงความจำเป็นของการใช้งาน ซึ่งมีหลักเกณฑ์การพินิจพิเคราะห์ ดังต่อไปนี้
โรงพิมพ์
ประสิทธิภาพของงาน ประสิทธิภาพเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุดเลยล่ะจ้ะ แต่ลูกค้าส่วนใหญ่กลับไม่ให้ความเอาใจใส่กับส่วนนี้มากแค่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานพิมพ์เพื่อการโฆษณา ซึ่งมีผลโดยตรงต่อภาพพจน์และก็ยอดขายของผลิตภัณฑ์ที่โฆษณา จะเป็นที่น่าเสียดายอย่างมากหากมีผลิตภัณฑ์ที่ดี มีแผนการตลาดที่ดี แต่สื่อสิ่งพิมพ์มิได้ประสิทธิภาพ ซึ่งอาจจะก่อให้แนวทางการขายไม่ได้เป็นไปตามจุดมุ่งหมาย งานเอกสารที่มีคุณภาพย่อมสะท้อนถึงภาพพจน์ที่ดีขององค์กร ความน่านับถือ ตลอดจนความเป็นสากลขององค์กรสำหรับในการเลือกสรรสำนักพิมพ์จำเป็นต้องตรวจประสิทธิภาพงานพิมพ์ของโรงพิมพ์โดยดูได้จากตัวอย่างงานที่เคยทำรวมทั้งรายชื่อลูกค้าของสถานที่พิมพ์ค่ะ ด้วยเหตุนั้นสิ่งที่ลูกค้าควรพิจรณาประกอบกับการตัดสินใจคือการเลือกสถานที่พิมพ์ที่ดี มีคุณภาพ ใช้วัสดุที่ได้มาตรฐานและไม่ควรจะจุดโฟกัสที่ราคาเพียงอย่างเดียวจ้ะ
การบริการ การบริการเป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันด้วยเหตุว่า ใครๆก็ปรารถนาที่กำลังจะได้รับการบริการที่ดี เนื่องจากว่าจะรู้สึกถึงความซาบซึ้งสำหรับในการเป็นลูกค้า โรงพิมพ์ที่มีงานประจำอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว บางครั้งก็อาจจะสนใจในงานพิมพ์หลักก่อนงานพิมพ์อื่นๆโรงพิมพ์ที่รับแต่งานพิมพ์ที่มีปริมาณพิมพ์สูงอาจจะให้ความใส่ใจในงานพิมพ์เล็กไม่ดีเท่าที่ควร หรือพินิจกล้วยๆว่าถ้าหากสถานที่พิมพ์แห่งไหนที่มีการบริการที่ดีนั้น จะเป็นข้างโทรหาลูกค้าเพื่อแจ้งถึงความรุ่งโรจน์ในขั้นตอนงานพิมพ์ ว่าถึงขนาดตอนไหนแล้ว งานมีปัญหาหรือไหม่ และแนะแนววิธีแก้ไขในเรื่องที่งานมีปัญหาอีกด้วย
การส่งงาน การส่งงานพิมพ์เป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีความจำเป็นจะต้องใช้สิ่งพิมพ์เมื่อถึงเวลาเวลา เนื่องจากถ้าหากโรงพิมพ์กลับยังไม่สามารถที่จะพิมพ์รายงานให้พวกเราเสร็จได้ จะก่อให้เกิดความย่ำแย่อย่างมาก ด้วยเหตุนั้นสถานที่พิมพ์ต้องเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจของลูกค้าในเรื่องการมอบให้ตรงตามที่มีการกำหนดเวลา นอกจากเรื่องคุณภาพของงานพิมพ์
ราคา ลูกค้าโดยทั่วไปจะพิจารณาถึงเรื่องราคาเป็นสาเหตุแรกซึ่งก็ไม่ผิดอะไร ด้วยเหตุว่าใครๆก็ย่อมอยากได้สินค้าที่แพงถูกใช่ไหมล่ะค่ะ แล้วก็แน่นอนคำว่าถูกและก็ดี คงไม่ได้หากันง่ายๆนะคะ สถานที่พิมพ์ในยุคปัจจุบัน มีการชิงชัยกันสูงมาก ทำให้บางที่ปรารถนาที่กำลังจะได้งานพิมพ์ จะต้องกระทำตัดราคาลงมาเพื่อได้ตามความอยากของลูกค้า ซึ่งแน่ๆว่า สิ่งนี้นั้นส่งผลเสียต่อทั้งวงการพิมพ์อย่างแน่แท้จ้ะ เพราะเหตุว่าต่างก็จะำากันตัดราคาเพื่อได้ลูกค้า และเมื่อลดลงมาก็จะต้องจำเป็นจะต้องที่จะลดคุณภาพของกระดาษหรือวัสดุตามมาด้วยเพื่อให้มีผลกำไร ดำเนินธุรกิจต่อไปได้ สุดท้ายแล้วมีแม้กระนั้นผลกระทบต่อทั้งยังสถานที่พิมพ์แล้วก็ลูกค้าค่ะ เพราะเหตุว่าดรงพิมพ์อาจจะแทบไม่เหลือกำไร และลูกค้าก็ได้งานที่ไม่ค่อยมีคุณภาพนั่นเอง
งานพิมพ์เหมาะสมกับระบบการพิมพ์อะไร ก่อนที่จะเลือกสำนักพิมพ์ พวกเราต้องดูกรว่างานพิมพ์นั้นเหมาะสมกับระบบการพิมพ์แบบไหน ซึ่งงานพิมพ์นั้นก็จะมีหลายชนิด เพื่องานพิมพ์นั้นตรงกับสิ่งที่ต้องการของเราที่สุดนั่นเองค่ะ
ขนาดของโรงพิมพ์ ซึ่งขนาดของสำนักพิมพ์นั้นจะบ่งบอกถึงมาตรฐานสำหรับเพื่อการผลิต ยิ่งสถานที่พิมพ์ยิ่งใหญ่ ส่วนมากมาตรฐานสำหรับการผลิตก็จะยิ่งสูงขึ้น แต่ราคาก็จะสูงมากขึ้นเป็นเงาตามตัวเนื่องจากต้นทุนในการผลิตที่สูงกว่าสถานที่พิมพ์ขนาดเล็ก ซึ่งสำนักพิมพ์ขนาดเล็กมีข้อดีทางด้านราคา เนื่องจาก มีเครื่องจักร รวมทั้งจำนวนพนักงานน้อย แต่ว่ามีจุดด้วยที่ส่วนใหญ่งานจะมิได้มาตรฐานแล้วก็งานช้าด้วยเหตุว่าทรัพยากรมีจำกัด
ออกแบบบรรจุภัณฑ์ ให้เข้าตา! ด้วยองค์ประกอบการทำงานที่เป็นระบบ บรรจุภัณฑ์เป็นอีกหนึ่งลักษณะเด่นที่ช่วยผลักดันให้ผู้คนทั่วไปจำตัวสินค้าได้ง่ายรวมทั้งเร็วมากเพิ่มขึ้น การออกแบบเพื่อนำมาใช้งานจึงจำเป็นต้องผ่านกรรมวิธีคิดและก็ประดิษฐ์มาแล้วอย่างดีเยี่ยม เพื่อให้สินค้าเป็นคุณลักษณะเด่นแล้วก็สร้างยอดขายที่เพิ่มขึ้นได้ด้วยตัวเอง ด้วยเหตุว่าบรรจุภัณฑ์หรือแพคเกจจิ้งที่โโดเด่น สะดุดตานั้นย่อมเป็นที่น่าหลงใหลสายตาต่อผู้ใช้ ตัวบรรจุภัณฑ์มีความกลมกลืนกับผลิตภัณฑ์ เพิ่มความน่าดึงดูดใจและดึงดูดสายตาให้กับคนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่าเดิมซึ่งการคิดงานบรรจุภัณฑ์ในแต่ละครั้งจะเน้นไปที่การทำงานที่ใกล้เคียง และก็เป็นระบบWork Process ที่นับว่าเป็นส่วนประกอบการเตรียมงานก่อนลงมือทำที่นักออกแบบนำมาใช้กับการทำงานสูงที่สุดเพื่อให้วิธีการคิดเป็นระบบและก็จบงานได้เป็นอย่างดี ไม่กำเนิดปัญหา พร้อมทำให้ผลงานที่ออกมาสะดุดตาและตรงใจเจ้าของแบรนด์เยอะที่สุด
กรรมวิธีการในการดำเนินการหรือ Work Process ในงานบรรจุภัณฑ์คือกระบวนการทำงานที่ช่วยสร้างคุณประโยชน์ให้กับตัวงาน สนับสนุนให้แบรนด์เป็นที่นิยม จำง่าย ติดตา สร้างมูลค่าเพิ่มต่อผลิตภัณฑ์ รวมทั้งนำมาซึ่งยอดเยี่ยมขายที่สูงขึ้นได้ โดยเริ่มต้นแนวทางการนี้ตั้งแต่การเริ่มคุยกับลูกค้าดัง (Brief) เพื่อรับทราบความอยากได้ของผู้ครอบครองผลิตภัณท์ผู้ออกแบบจำเป็นต้องเก็บเกี่ยวสิ่งที่จำเป็นของลูกค้าให้ได้มากที่สุด แล้วนำมาตกผลึกเพื่อกลั่นออกมาเป็นรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ที่ตรงต่อความปรารถนาของลูกค้าและก็เป็นเอกลักษณ์ที่ติดตาคนซื้อสูงที่สุด เมื่อก่อนที่จะตกผลึกแล้วประดิษฐ์ออกมาเป็นบรรจุภัณฑ์ตัวจริง ควรจะมีการค้นคว้าสิ่งที่ต้องการของกลุ่มเป้าหมาย กำลังซื้อของกลุ่มเป้าหมาย (Research) เพื่อนำสิ่งที่มีความต้องการนี้มาประสานกับบรรจุภัณฑ์ โดยจะมีการนำต้นแบบออกพรีเซนเทชั่น แล้วนำต้นแบบบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดมาประยุกต์เข้ากับตัวผลิตภัณฑ์ให้สมควร ยิ่งกว่านั้นยังต้องมี Customer Mind ที่ผู้ออกแบบจะต้องจำลองความคิดและความรู้สึกตัวเองให้ราวกลุ่มเป้าหมาย ถ้าหากพวกเราอยากสินค้าชิ้นนี้แล้วพวกเราต้องการเห็นอะไร? และก็ต้องการบรรจุภัณฑ์แบบใดที่ดูแล้วสะดุดตาเราสูงที่สุด แล้วหลังจากนั้นก็ทำสัมมนา (Brainstroming) กับทีมงานและผู้ครอบครองแบรนด์จนกว่าจะได้รูปแบบที่น่าดึงดูดเยอะที่สุดออกมา พร้อมนำสิ่งที่ระดมสมองออกมาสร้างเป็น Concept ที่จะเปลี่ยนเป็นอัตลักษณ์ของแบรนด์ในอนาคต นำมาผลิตสรรค์บรรจุภัณฑ์ให้เป็น Design Direction เพิ่มโอกาสที่มากมายให้กับลูกค้า อาทิเช่น การออกแบบให้เลือกหลากสี, หลายตัวเขียน หรือหลายรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น เมื่อได้แบบที่ลูกค้าอยากแล้วหลังจากนั้นก็เพิ่มการDevelopment เข้าไปด้วยการพัฒนาตัวบรรจุภัณฑ์ให้ออกมาเป็นรูปร่างที่งาม สะดุดตาไม่ซ้ำแบบใคร และสร้างจุดขายที่ดีให้กับแบรนด์ต่อไปในอนาคต สิ่งหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ดีไซน์เนอร์ควรคิดถึงเว้นเสียแต่ความสวยงามสะดุดตาเมื่อวางบนชั้นวางขายแล้ว คงต้องพิจารณาถึงการขนส่งเพราะแพคเกจจิ้งนั้นควรมีลักษณะอย่างไร แข็งแรงหรือเปล่า จัดวางอย่างไรให้การขนส่งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพรวมทั้งประหยัดทุนของลูกค้าอีกด้วย
ตัวอย่างของงานวางแบบบรรจุภัณฑ์หมอนหนุนเพื่อสุขภาพ ที่ผ่านวิธีการคิดมาอย่างมีระบบตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนกระทั่งขั้นตอนสุดท้าย มีการออกแบบที่นานัปการเพื่อลูกค้าได้เลือกตามความพอใจ โลโก้แบรนด์ย้ำให้มองเห็นถึงความชอบธรรมชาติ เพื่อสื่อให้กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการหมอนคุณภาพได้มองเห็นถึงความบริสุทธิ์ นำเอาเล่ห์เหลี่ยมจากธรรมชาติที่เกี่ยวพันกับตัวสินค้ามาเป็นโลโก้ที่สร้างคุณลักษณะเด่น เสริมความราบเรียบหรูดูเป็นผลิตภัณฑ์สไตล์ออแกนิกเข้าไป ตัวโลโก้มีทั้งยังรูปทรงเลขาคณิตแบบสิ่งที่เป็นนามธรรมแล้วก็แบบภาพวาดลายเส้นงามมาเป็นโอกาส ทำให้ลูกค้าได้มองเห็นแบบที่กว้างมากยิ่งขึ้น ไม่ถูกจำกัดความคิดมากจนกระทั่งเกินไป ข้างในกล่องมีคำชี้แจงเล็กๆเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการสกรีนหน้ากล่องที่นำเอาภาพที่เกี่ยวโยงกับกรรมวิธีการผลิตมาเป็นคุณลักษณะเด่น ทำให้สินค้ามองมี Story telling ซึ่งสามารถพาให้ผู้ซื้อได้เข้าถึงตัวผลิตภัณฑ์มากเพิ่มขึ้นอีกด้วย
จากตัวอย่างที่เอามาฝากกันจะเห็นได้ว่าการดีไซน์บรรจุภัณฑ์หรือแพคเกจจิ้งนั้นเป็นสิ่งที่มีความหมายและส่งผลต่อยอดจำหน่ายของตัวสินค้าเป็นอย่างยิ่ง บรรจุภัณฑ์ที่ดีจะต้องสอดคล้องกับตัวสินค้าและสื่อให้ผู้บริโภคมองเห็นผลดีหรือเห็นค่าของผลิตภัณฑ์ข้างในได้ เพราะผู้บริโภคนั้นไม่ได้แกะกล่องสินค้าออกมาดู แนวทางในการเลือกซื้อสินค้าจำเป็นต้องใคร่ครวญจากด้านนอกหรือจากเพียงแค่บรรจุภัณฑ์ที่เห็นเท่านั้น เว้นเสียแต่ความสวยงามของบรรจุภัณฑ์แล้วอย่าลืมใส่รายละเอียดที่จำเป็นจะต้องเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ลงไปด้วย ยกตัวอย่างเช่นวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต วิธีการใช้ วันผลิต และวันหมดอายุ รวมทั้งเครื่องหมายรับประกันต่างๆยกตัวอย่างเช่น ฮาลาล สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเป็นต้น เพื่อไม่ยุ่งยากต่อการตัดสินใจซื้อสินค้ามากขึ้นเรื่อยๆ
ที่มา :
https://rvydiecut.com/Tags : ปั๊มไดคัท, ปั๊มมกร์, เย็บหัว