วิธีเลือกซื้อสายชาร์จใครที่ใช้สายชาร์จโทรศัพท์มือถือ ในการชาร์จไฟมือถือ และ PowerBank ด้วยแล้วสังเกตว่าชาร์จนาน 3-4 ชั่วโมงแล้วทำไมไม่เต็มซะที บางคนก็โทษว่าที่อยู่อาศัยนี้ปล่อยกระแสไฟฟ้าต่ำไปในบางร้าน เลยใช้เวลาชาร์จนาน หรือ PowerBank มาช่วยเหลือชาร์จแล้วก็ยังเป็นเปอร์เซ็นเท่าเดิม เผลอๆลดลงอีกไม่ช่วยเหลืออะไรเลย รู้มั้ยว่าความจริงแล้วอาจเป็นเนื่องด้วยปลั๊ก Adaptor จ่ายไฟ กับ
สายชาร์จมือถือคุณนั่นแหละ ไส้ในเสื่อมแล้ว แม้ดูภายนอกสายชาร์จไม่เปื่อยก็ตาม
ปัจจุบันนี้
สายชาร์จมือถือ ที่ขายในท้องตลาดมีถึง 3 แบบแล้วคือ
- สาย Lightning ที่ใช้ตั้งแต่ iPhone 5 จนมาถึงยุคปัจจุบัน รวมถึง iPod Touch และ iPad รุ่นยุคปัจจุบันด้วย
- สาย Micro USB ซึ่งยอดนิยมมากในมือถือ Android ทั่วไป , Windows Phone และตอนนี้เป็นพอร์ทที่ใช้กันแพร่หลายมากที่สุดด้วย
- สาย USB-C ( USB Type-c ) ที่ออกแบบเพื่อส่งข้อมูลได้เร็วแล้ว การชาร์จไฟก็เร็วด้วย รองรับไฟฟ้าได้ชั้นเลิศถึง 5 mAh เลยทีเดียว
คราวนี้มาถึง Adaptor หรือปลั๊กหัวชาร์จไฟบ้าง โดยสมาร์ทโฟน iPhone จะแถม Adaptor สำหรับ iPhone ซึ่ง Adaptor นั้นปล่อยกระแสไฟฟ้าที่ 1 mAh (ถ้าซื้อ iPad จะได้ Adaptor ชาร์จ 1.5 mAh ในการชาร์จไฟ)
การชาร์จเร็วไม่ได้ดูที่สาย ต้องดูที่สมาร์ทโฟนรองรับหรือไม่
ทั้งนี้ iPhone จำนวนมากทั้งหมด ไม่รองรับ Fast Charge เลย ซึ่งตอนนี้เพิ่งจะมาตอน iPhone 8 , iPhone 8 Plus และ iPhone X ที่เพิ่งเปิดตัวนี้เอง ดังนั้นการซื้อสาย iPhone ที่มีบอกกำหนดว่า Fast Charge นี้อย่าเชื่อ และถ้าซื้อแล้วก็ได้รับกระแสไฟฟ้าตามปกติตามที่ชาร์จทั่วไปนั่นเอง แต่จะชาร์จเร็วหรือชาร์จช้าของ iPhone นี้ขึ้นอยู่คู่กับ Adaptor ที่จะจ่ายไฟเท่าไหร่ ซึ่ง iPhone จะจ่ายแค่ 1 mAh เท่านั้น ถ้าอซับซ้อนให้ชาร์จเร็วขึ้น ต้องแปรเปลี่ยนหัว Adaptor ใหม่ ขนาด 1.5 mAh แต่การชาร์จไฟต้องปล่อยกระแสไฟไม่เกิน 2.1 mAh มิฉะนั้นอาจจะทำให้ iPhone ไหม้หรือระเบิดได้
ส่วนกรณี Android บางรุ่นมีนวัตกรรม Fast Charge ที่ชาร์จเพียง 30 นาที ได้ถึง 80% แล้ว ทั้งนี้ต้องตรวจว่ารุ่นสมาร์ทโฟนของท่านรองรับนวัตกรรม Fast Charge หรือเปล่า โดยส่วนใหญ่รุ่นที่รองรับการ Fast Charge นี้ได้แก่ สมาร์ทโฟนที่รองรับชาร์จแบบ USB Type-C กับ สมาร์ทโฟนชาร์จแบบ Micro USB ของบางแบรนด์ระดับเรือธงเช่น Samsung , Huawei , OPPO , SONY ทั้งนี้การที่จะ Fast Charge ได้นั้น มือถือต้องรองรับ สายต้องรองรับ และหัว Adaptor ต้องรองรับด้วย
ทั้งนี้สาย Micro USB สามารถรองรับการจ่ายไฟได้เต็มที่ระหว่าง 1 – 2.1 mAh บางสายก็รองรับถึง 5 mAh แล้วด้วย แต่ส่วนใหญ่และเหมาะสมสุดคือเต็มที่ไม่เกิน 2.1 mAh ทั้งนี้คุณภาพของสายชาร์จก็สำคัญด้วย เพราะว่าใส้ในเป็นอลูมิเนียมนี้ จ่ายไฟได้น้อยกว่าสายทองแดง ต่อจากนั้นการเลือกซื้อสาย USB ต้องซื้อแบบสายทองแดง ซึ่งสายแท้จะมาพร้อมสายทองแดงอยู่แล้ว แต่ถ้าเน้นจ่ายไฟฟ้าเร็วสุดต้องเป็นสายชาร์จ USB ที่ใส้ในเป็นสายเงินซึ่งจ่ายไฟได้เร็วกว่าสายทองแดง
อีกหัวข้อที่ท่านสงสัยว่า สายสั้นจะชาร์จเร็วกว่าสายยาวจริงหรือเปล่า
สายชาร์จสั้นจะสามารถชาร์จได้เร็วกว่าสายยาวจริง ได้รับกระแสไฟฟ้าที่สูงกว่าแบบสายยาว แต่หากเทียบระหว่างสายยาว 1 เมตร คู่กับ สายยาว 2 เมตร หากเป็นสายแบบมีคุณภาพดีพอ สาย 2 เมตรจะมีค่ากระแสไฟฟ้าพอๆคู่กับ สายยาว 1 เมตร
ทั้งนี้หากต้องการอยุ่งยากรู้ว่าขณะชาร์จไฟนั้นมีกระแสไฟฟ้าเข้าเครื่องมากน้อยแค่ไหน คุณภาพสายดีมั้ย สามารถทดสอบด้วยตนเองจากแอปนี้เลย Ampere สำหรับผู้ใช้ Android โหลดฟรีทาง Play Store
การเลือกซื้อสาย อย่าเน้นราคาถูก ด้วยเหตุว่าการเลือกราคาถูก อาจได้สายที่ลดคุณภาพหรือลดวัตถุด้านในของสายชาร์จด้วย แม้จ่ายสตางค์สะดวก แต่สายเสียเร็วเหมือนกับกันแค่งอสายก็เสียแล้ว ต่อจากนั้นเลือกสรรซื้อยี่ห้อดังๆในราคาปานกลางจะดีกว่า และดูว่าทนต่อการบิดงอหรือเปล่าด้วย
เกร็ดเรียบเรียงสายชาร์จมือถือ
ให้ใช้วิธีแบบม้วนรวบรวม อย่าหักสาย พับสาย หรือทำแบบขยำๆสายเด็ดขาดเพราะ จะทำให้สายทองแดงขาด และไม่สามารถใช้งานได้คงทน ต่อจากนั้นม้วนเรียบเรียงดีๆกว่า รวมทั้งอย่าไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิสูง และอีกพฤติกรรมที่ต้องหยุดคือ การชาร์จไปเล่นมือถือไป ด้วยเหตุว่าการทำแบบนี้ทำให้เครื่องร้อน ไฟกระชาก และทำให้สายชาร์จมือถือเสียหายได้
อย่างน้อยสวมใจเกี่ยวคู่กับคุณภาพของสายชาร์จ และดูแลสายชาร์จสมาร์ทโฟนกันสักนิด ทำแบบนี้ช่วยคุณใช้สายชาร์จของสมาร์ทโฟนได้ทนนาน และประหยัดเงินในกระเป๋าคุณด้วย
Tags : สายชาร์จ,สายชาร์จ,สายชาร์จ