ผู้เขียน หัวข้อ: ผ้าไหมไทยพร้อมทั้งการออกแบบ  (อ่าน 65 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ spammer

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 139,825
  • พอยท์: 100
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
ผ้าไหมไทยพร้อมทั้งการออกแบบ
« เมื่อ: 21 ตุลาคม 2020, 12:15:32 »
ผ้าไหมไทยด้วยกันการออกแบบ
 
ผ้าไหม ถือเป็นมรดกอันมีคุณค่าเครื่องใช้เมืองไทย มีความงามของใช้จำพวกไหมที่เป็นลักษณะเฉพาะ แบบที่บ่งบอกถึงความเป็นไทย ทำเอาเป็นผ้าไทย ที่ได้รับความชื่นชม ด้วยกันมีชื่อสิ้นอายุขัยงไปทั่วโลก ขอถ่ายทอดเรื่องราวราวความเป็นไทยในเหตุการณ์สิ่ง ผ้าไหมไทย ด้วยกันงานดีไซน์มาให้คนรักใคร่การแต่งเติมภายใน นำไปประยุกต์ใช้หรือเป็นความรู้เพิ่มเติมเพื่อที่จะการเติมแต่งข้างในบ้าน  การทอผ้าไหมของใช้ไทย ในอดีตเป็นการทำกันในครัวเรือนเพื่อใช้เอง หรือทำขึ้นเพื่อใช้ในงานพิธี เช่น งานบุญ งานแต่งงาน หรืองานสังคมต่างๆ คนไทยมีการนำเอาศิลปะมาประยุกต์ใช้กับวัตถุที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาสร้างสรรค์ให้เกิดผลประโยชน์ พร้อมด้วยมากยิ่งกว่าการใช้งาน คือความงามตาและความมีเสน่ห์แบบไทย เป็นการแสดงถึงความระมัดระวังสิ่งคนไทยที่มีมาแต่ในอดีตและความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบซึ่งยังสืบต่อมาถึงปัจจุบันนี้ พร้อมทั้งยังคงสร้างสรรค์ผลงานจากผ้าไหมในสไตล์ต่างๆมากยิ่งขึ้น
 
ประวัติผ้าไหมไทย
ประวัติข้าวของเครื่องใช้ผ้าไหม ที่มีหลักฐานพร้อมด้วยการสืบหาพบคงทนถาวรมาก พข้อความี่ประเทศจีน ประมาณ 4,700 กว่าปีที่กระทำการน โดยมีหลักฐานที่สามารถอ้างถึงได้ คือ หนังสือจีนโบราณชื่อ "ไคเภ็ก" ที่กล่าวถึงราชวงศ์จีน พระนาง หนึ่งว่าเป็นผู้ริเริ่มค้นพบการทอผ้าจากแนวใยไหม ส่วนในไทยพบหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการทอผ้าไหมที่เก่าแก่ยิ่งราวๆ 3,000 กว่าปีที่ล่วงเลยมาแล้ว โดยพบเศษผ้าไหมสรรพสิ่งวัฒนธรรมบ้านเชียง ณ บ้านนาดี อำเภอหนองหาญ จังหวัดอุดร พร้อมกับถิ่นที่พื้นที่อื่นๆในมุมมองอีสาน ซึ่งจากการสันนิษฐาน พบว่า มีการเลี้ยงตัวไหม พร้อมด้วยนำมาทอเป็นผ้าไหมเป็น ใช้เป็นเครื่องนุ่งห่ม กระจายทั่วไปในแถบอย่างอีสาน สายพันธุ์ไหมที่ใช้เป็นสายพันธุ์พื้นเกรงที่มีการฟักตัวได้ตลอดทั้งปี มีลักษณะรูปร่างเรียวเล็กสีเหลือง ในส่วนหมู่อื่นๆ ข้าวของเครื่องใช้ประเทศมีหลักฐานตรวจพบถึงการทอผ้าไหมเป็นเครื่องนุ่งห่มปรากฏตามจารึกของพงศาวดารต่างๆ ตั้งแต่สมัยอยุธยา กรุงธนบุรี จนถึงรัชสมัยสมัยนี้ ต่อมาการทอผ้าไหมได้มีการแก้ พื้นฟู พร้อมกับได้อนุรักใคร่ษ์ไว้ในโครงการต่างๆ ด้วยกันหน่วยงานต่างๆ ทำเอามีการแก้ไขดัดเปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นทั้งในประเทศด้วยกันต่างประเทศ ซึ่งยังคงเป็นที่นิยมเพื่อแต่ละครอบครัวในการทอผ้าไหมสำหรับงานบุญ กับเป็นรายได้เสริมแก่ครอบครัวนั่นเอง
 
แบบ กับคุณสมบัติพิเศษสิ่งผ้าไหมไทย
เอกลักษณ์สิ่งของชาติไทย จะถูกถ่ายทอดให้ปรากฏเป็นรูปแบบต่าง ๆ เช่น ลายไทย ดอกไม้ส่วนสัดเรขาคณิต รูปสัตว์ สัญลักษณ์ประจำท้องถิ่นต่างๆหลายหลากมาถ่ายทอดโดยการทอลงบนผืนผ้า โดยฝีมือพร้อมด้วยองค์ความรู้สรรพสิ่งชาวบ้านเรือน ลวดลายดังกล่าวละเอียดอ่อน สวยงาม อ่อนช้อย ผู้สวมรู้สึกสบาย สง่างาม มีเสน่ห์ และยังคงเอกลักษณ์เครื่องใช้ความเป็นไทย เหตุปัจจัยสำคัญอีกข้อหนึ่งที่ทำให้ผ้าไทยได้รับความชื่นชมคือ คุณสมบัติพิเศษเฉพาะสิ่งถนนใย ผ้าไหม ทำจากไม่ทันเวลาใยธรรมชาติที่ได้จากสัตว์ประเภทหนอนไหม โดยคายจำพวกใยออกมาทางปากมีความยาวไม่ขาดสาย เมื่อนำมาทอเป็นผืนผ้าทำเอาอ่อนนุ่ม เป็นมัน เหนียว ยืดหยุ่นได้ดี ดูดซับความชื้น ย้อมสีง่ายและใส่ราบรื่นเนื่องจากมีความชื้นในตัวเอง (Moisture Regain) ยิ่งไปว่านั้นข้อดีต่างๆแล้วผ้าไหมสิ่งไทยยังคงมีข้อจำกัดคือ เลยเวลาใยไหมเสื่อมคุณภาพได้ง่าย ทั้งๆที่ถูกความร้อนสูงจากเตารีด แสงแดด ยิ่งไปว่านั้นนี้แมลงชื่นชอบกัดกินล่าช้าไหมเพราะเป็นพันธุ์ใยโปรตีน พร้อมทั้งสีที่ย้อมจะเสื่อมคุณภาพเมื่อถูกความชื้นมากเกินไป เพราะเช่นนั้นควรเก็บบำรุงมีใจษาไว้ในที่แห้งแล้ง จากความประณีตเป็นเหตุให้ผ้าไหมไทยมีมูลค่าที่สูงในระดับหนึ่ง คงคุณสมบัติเฉพาะ แต่โดยมากจะดูแลยาก ดังนี้ผ้าไหมจึงได้รับความนิยมยังไม่สูงมากนักในสังคม แต่จะนิยมแค่คนบางกลุ่ม
 
ผ้าไหมแท้ดูเช่นไร
เพราะว่าผ้าไหมไทยเป็นผ้าที่ทอจากเลยเวลาธรรมชาติ จึงมีเกร็ดที่พิสูจน์ที่ง่าย เหตุเพราะสายลับใยธรรมชาติจะมีความแตกต่างจากสปายใยสังเคราะห์อยู่มากโดยเฉพาะอย่างมากความโปร่งพร้อมทั้งความละเอียดสิ่งองค์ประกอบที่เป็นธรรมชาติ รวมไปถึงน้ำหนักจะเบากว่าผ้าในขนาดเท่า ๆ กัน
 
กรรมวิธีที่ 1
พินิจโดยรวม ถ้าเป็นไหมเนื้อละเอียดจะทอจากไหมแถวกระชับซึ่งมีความเงางามพร้อมกับอาจมีขี้ไหมหรือปริศนาไหมอยู่บ้างแต่ไม่มาก ซึ่งเป็นธรรมชาติแท้ ๆ ของใช้ไหม ส่วนผ้าไหมเนื้อหยาบจะมีความเงาน้อยลงมาก แต่มีขี้ไหมอยู่ทั่วทั้งผืนเป็นเอกลักษณ์ แต่ทั้งความเงาด้วยกันขี้ไหมในสมัยนี้นี้ เชี่ยวชาญเลียนแบบให้ใกล้เคียงได้มีเงาและมีขี้ไหมคล้ายกัน แต่เรื่องโครงสร้างและความโปร่ง ใส่คล่อง ยังไม่ทำเป็นเลียนแบบธรรมชาติได้
 
กระบวนการที่ 2
หากผ้าไหมที่เราซื้อมามีความเงากับมีขี้ไหมก็ยังไม่สมรรถวางใจได้ 100% เนื่องมาจากเทคโนโลยีนำสมัยอาจจะใช้แนวใยสังเคราะห์ทำเอาใกล้เคียงกันได้ แต่องค์ประกอบข้าวของไม่ทันเวลาใยต่างกัน
เคล็ดลับพิสูจน์ลำดับต่อไปก็คือ ดึงจารชนไหมจากผ้าทั้งในแนวตั้งพร้อมกับในแนวนอน เนื่องมาจากบางขณะจะมีการปลอมแค่ครึ่งเดียว คือ ปลอมเฉพาะทางทอหรือแนวนอนแค่นั้น แต่ทางยืนหรือแนวตั้งจะเป็นกลุ่มไหมจริง ดังนี้ การทดสอบจึงต้องควรดูทั้ง 2 แนวผ้า เมื่อดึงกลุ่มด้ายมาแล้วทดลองจุดไฟเพื่อทัศนะุ ถ้าเป็นแถวไหมแท้ ๆ เมื่อโดนไฟจะลุกเป็นเปลวเหลือง เถ้าเป็นก้อนสีดำ มีกลิ่นเสมอเหมือนทางผมหรือขนนกไหม้แล้วจะหดกระชับน้อย แต่ไม่รวมเป็นก้อนเหน้ำมือนถนนใยสังเคราะห์ ตรงนี้จะเป็นจุดผิดแผกแตกต่างที่สำคัญ กล่าวคือลักษณะข้าวของล่าใยสังเคราะห์ที่มีความเงาจะมีองค์ประกอบของพลาสติก ถ้าเป็นไหมเทืยมจะลุกไหม้อย่างทันทีทันใดเหลือเถ้าน้อยมาก มีกลิ่นเหน้ำมือนกับพลาสติกไหม้
 
กระบวนการที่ 3
มองดูที่ความเปราะสรรพสิ่งประเภทใยถ้าเป็นผ้าไหมแท้แถวใยจะเป็นธรรมชาติ มีองค์ประกอบที่กะทัดรัด เมื่อถูกไฟจะเปราะด้วยกันเมื่อใช้นิ้วขยี้ก็จะแตกเป็นเถ้า ส่วนกลิ่นก็จะไม่เหม็นมากกับเป็นกลิ่นธรรมชาติ แต่ถ้าเป็นไหมสังเคราะห์จะมีกลิ่นเหน้ำมือนกับพลาสติกไหม้พร้อมทั้งจะไม่เป็นเถ้าหรือผงแต่จะหดตัวด้วยกันเป็นก้อนติดกัน เพราะวิถีใยสังเคราะห์จะมีส่วนประกอบข้าวของพลาสติก
 
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ชุดผ้าไหม

Tags : ผ้าไหม,ชุดผ้าไหม