ผู้เขียน หัวข้อ: เกร็ดคัดเลือก จักรยาน คู่ใจ ปั่นแบบไหนเข้ารูปกับคุณยิ่ง  (อ่าน 90 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ spammer

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 139,825
  • พอยท์: 100
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
วิธีเลือก จักรยาน คู่ใจ ปั่นแบบไหนเข้าทีกับคุณหนักหนา
 
ช่องทางนี้เชื่อว่าคงมีหลายคนมีความประสงค์สัมผัสวิถีลมแสงแดด โดยการหาจักรยานเท่ๆ สักคัน ปั่นไปเที่ยวให้สมใจอยาก นอกต่อจากนั้นแล้วยังได้บริหารร่างกาย กับเอาใจช่วยลดโลกร้อนไปในคราวเดียวกัน แรกเริ่มจะคัดเลือกจักรยานสักคันไว้เป็นยานพาหนะคู่ใจ ก็ต้องมาทดลองทำความเข้าใจจักกันซะลงมือน ว่าแบบไหนถึงจะใช่กับรูปแบบคุณ ไหนๆ จะสิ้นลมสตางค์แล้วก็ต้องให้คุ้มค่าล่ะ จัดทำนอื่นเราก็ต้องรู้ก่อนว่า จักรยานนั้นมีกี่จำพวก แล้วค่อยคัดเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน หลักๆ แล้วก็จะมีเพราะฉะนี้


  • จักรยานทั่วๆ ไป bicycles

    ว่ากันเรียบง่ายมันคือจักรยานจ่ายตลาด ส่วนใหญ่โดยมากไร้เกียร์ (ก็ปั่นไปแค่ปากซอยนี่เอง) หรือถ้าซื้อดีๆ หน่อยเดี๋ยวนี้ก็มักจะมีติดมาให้อยู่แล้ว ทั้ง 3 เกียร์, 6 เกียร์ แต่สิ่งที่ยังไงก็ขาดไม่ไหวก็คือ ‘ตะแกรงหน้า’ ไว้ใส่กับข้าวนั่นแหละ จักรยานแบบนี้มักมีน้ำหนักมาก แต่ค่าก็ถูกมากเพราะด้วย รุ่นแพงหน่อยก็จะมีวัสดุอุปกรณ์ประกอบมาให้แบบครบครัน เช่น ไฟหน้า บังโคลน บังโซ่ อานซ้อนท้าย เป็นต้น


  • จักรยานพับ (Folding Bike)

    จักรยานที่เหมาะสมกับวิถีคนเมืองสุดๆ เน้นพกพาไปใช้งานตามที่ผิดแผกแตกต่างๆ พาขึ้นรถโดยสารได้คล่อง สวมไว้ท้ายรถก็ได้ มักจะใช้ปั่นในระยะทางใกล้ๆ แต่ด้วยส่วนประกอบที่ต้องพับเก็บได้จึงทำเอาความอยู่ยืดคงทนห่วยไป รวมทั้งค่าที่แพงลิบลิ่ว (เนื่องด้วยของมือหนึ่ง)


  • จักรยานฟิกซ์เกียร์ (Fixed Gear)

    สูงสุดความเท่ของวัยรุ่นยุคนี้ เริ่มฮิตกันมากขึ้นในช่วง 4 ปีที่ข้ามมา เนื่องจากทัศนาแลบำรุงมีใจษาง่าย สีสันตรงใจ โครงทำจากวัสดุอย่างดี มีตั้งแต่เหล็กไฮเทนเกรดดี ไปจนถึงคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมทั้งองค์ประกอบที่ไม่ซับซ้อน แต่จุดดีจริงๆ นั้นอยู่ที่เฟืองหลังซึ่งเป็นแบบตาย (Fixed) ติดกับล้อหลัง ไม่เก่งหมุนฟรีได้เท่าเทียมจักรยานแบบอื่น การขี่จึงจำต้องหมุนขาอยู่ทุกเวลา วางมือคือบอกเลิก การเบรคต้องใช้เท้าฝืนหรือการรั้งล้อหลังแค่นั้นรถจึงจะวางมือ ฉะนั้นคนที่ขี่จักรยานชนิดนี้ต้องมีการฝึกฝน พร้อมทั้งใช้ความรอบคอบมากเป็นพิเศษ


  • จักรยาน[/url]เสือภูเขา (Mountain Bike)

    สมบุกสมบันต้องคันนี้ ดีไซน์มาเพื่อการขี่ขึ้นเขาลงห้วยเป็นพิเศษ มีระบบกันสะเทือนหรือ ‘โช้คอัพ’ โครงสร้างทน ยางล้อใหญ่ พร้อมกับหนา มีระบบเกียร์ให้เจาะจงเลือกตั้งแต่ 10-27 สปีด นอกจากนั้นจะใช้งานสมบุกสมบันแล้วยังใช้เป็นจักรยานท่องเที่ยวได้ด้วยความอเนกปรารถนาของมัน จึงมีจักรยานลูกผสมอีกแบบออกมา ชื่อว่า ‘ซิตี้ไบค์'(City Bike) เพราะว่าขี่ในเมืองโดยเฉพาะ รูปร่างคล้ายเสือภูเขา แต่ยางล้อจะเล็กกว่า ดอกยางไม่ลึก เปลืองแรงน้อยกว่า
     

  • จักรยานเสือหมอบ (Road Bike)

    ร่างโครงมาเพื่อการขับขี่ทางเรียบโดยเฉพาะ ทนทาน น้ำหนักเบา หน้าตาคล้ายจักรยานแข่งขัน ข้อดีอยู่ที่การแทรกตัวข้ามอากาศด้วยลักษณะท่าทางการขี่ ที่ต้องก้มตัวต่ำเพื่อเพิ่มความทันที แบส่วนี่เราเห็นในการแข่งขันรายการระดับโลกอย่างตูร์ เดอ ฟรองซ์ (Tour De France) ใช้เป็นจักรยานออกกำลังหรือขี่ท่องเที่ยวก็ได้ แต่เหมาะสมกัประเด็นางเรียบอย่างเดียว


  • จักรยานไฮบริด (Hybrid Bike)

    ดึงเไม่แน่อาจุดเด่นของจักรยานเสือภูเขา พร้อมทั้งจักรยานเสือหมอบเข้าด้วยกัน โดยใช้ท่านั่งที่สบายแบบเสือภูเขา ใช้ล้อปริมาตรเดียวกับเสือหมอบ มีความคล่องตัวสูง ทนคงทนถาวร เก่งนำชุดเกียร์ของเสือหมอบ และเสือภูเขามาสวมด้วยกันได้ แล้วแต่ลักษณะการใช้งาน

    อุปกรณ์สำคัญเพื่อจะจักรยาน
    หลังจากรู้จักกับจักรยานแต่ละจำพวกกันไปแล้ว ต่อไปนี้คืออุปกรณ์สำคัญเพื่อจะสิงห์นักปั่นทั้งหลาย ทั้งมือใหม่หรือมือโปร เพื่อการขับรถที่ปลอดภัยทุกวิถีทาง

  • ไฟส่องสว่าง หรือแผ่นสะท้อนแสง ในเวลาออกเดินทางบางโอกาสการกินเวลาจนถึงมืดค่ำ ลำพังแค่แสงบนท้องถนนไม่แน่อาจไม่เพียงพอ ไฟส่องสว่าง หรือแผ่นสะท้อนแสงจึงเป็นสิ่งของจำเป็นอย่างมากมาย เพื่อบอกให้ผู้ใช้รถใช้ถนนรู้ว่ามีจักรยานปั่นอยู่
  • แว่นตา เศษหิน ดิน ทราย ตามท้องถนนนั้นอันตรายกว่าที่เราคิดมาก แม้ปลิวเข้าตาอาจจะเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้ การใส่แว่นจึงสนับสนุนเพิ่มความมั่นคง ให้เลือกสรรซื้อแว่นตาขี่จักรยานเป็นพิเศษ เหตุเพราะมีการออกแบบให้มีความคงทนถาวร เลนส์ทำจากพลาสติกเหนียว ป้องกันรังสีอัลตร้าไวโอเล็ต ลดอาการล้าทางจารชนตาเมื่อต้องปั่นกลางแจ้งเป็นเวลานาน
  • หมวกกันน็อค มีความสลักสำคัญมากยิ่งนัก ช่วยลดแรงกระแทกเนื้อที่กระโหลกให้น้อยยิ่งขึ้นไป โดยมีให้เลือกหลายชนิดตามการใช้งาน เช่น ถ้าแม้เราขี่จักรยานที่ไม่ต้องสมบุกสมบันนักก็ควรใช้หมวกนิรภัยแบบ sport หรือสมมติว่าเราขี่เสือหมอบ ก็ต้องใช้แบบ Road Bike ที่มีน้ำหนักเบา รูปทรงเพรียวลม ส่วนใครที่ชื่นชอบขับแบบลุยป่าก็ต้องเป็นแบบ Mountain Bike เนื่องด้วยอาจจะป้องกันได้ทุกรูปทรง การเจาะจงเลือกหมวกกันน็อคจะต้องเลือกสรรที่พอดีกะบาล ไม่คับ ไม่กดเกศ พร้อมทั้งไม่หลวมจนคลอนไปริศนาา



Tags : จักรยาน,จักรยาน