แดกกันความเจ็บไข้พร้อมทั้งน้ำมันพืช :: น้ำมันพร้อมทั้งไขมันเป็นอาหารที่ให้พลังงานพร้อมทั้งความอบอุ่นแก่ร่างกาย พร้อมทั้งเป็นตัวพาวิตามินที่ละลายในไขมัน หมายความว่า วิตามินเอ ดี อี พร้อมด้วยเค เพื่อให้ร่างกายอาจจะชมดแทรกซึมไปใช้ได้ น้ำมันที่ใช้ในการกอปรอาหารทั่วไป มี 2 ชนิดคือ น้ำมันพืช และน้ำมันสัตว์ เมื่อ30 กว่าปีปฎิบัติงานนน้ำมันที่ใช้ในการทำอาหารในครัวเรือน มีเพียงแค่น้ำมันหมู และน้ำมันมะพร้าวเท่านั้น ต่อมา ได้มีการผลิตน้ำมันจากถั่วลิสงออกมาเพิ่มอีกชนิดหนึ่ง เมื่ออุตสาหกรรมการผลิตก้าวหน้าก็มีน้ำมันปรุงอาหารจากพืชนานาชนิดทยอยออกมา ให้เรารู้จักกับเลือกสรรใช้มากมาย เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว น้ำมันงา น้ำมันจากดอกคำฝอย น้ำมันจากเมล็ดฝ้าย น้ำมันจากดอก พร้อมด้วยเมล็ดทานตะวัน พร้อมกับน้ำมันปาล์มโอเลอิน ฯลฯน้ำมัน พืชพร้อมด้วยน้ำมันสัตว์มีความแตกต่างกัน คือ น้ำมันพืช (ยกเว้นน้ำมันมะพร้าวพร้อมด้วยน้ำมันเมล็ดปาล์ม) จะมีองค์ประกอบจำนวนมากเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งมีส่วนผสมทางผ่านเคมีที่เป็นคุณประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าน้ำมันสัตว์ ไขมันไม่อิ่มตัวนี้จะไม่ค่อยเป็นไขถ้าหากจะอยู่ในตู้เย็น เช่น แช่ตู้เย็น แต่จะทำปฏิกิริซับซ้อนับความร้อนกับออกซิเจนได้ พร้อมทั้งมักเป็นเหตุให้เกิดกลิ่นเหม็นหืนภายภายหลังจากใช้ประกอบกระยาหารแล้ว
:: น้ำมันสัตว์ เหมือนกับ น้ำมันหมู มีส่วนผสมจำนวนมากเป็นกรดไขมันอิ่มตัว น้ำมันพืชซึ่งมีฟีเจอร์เป็นไขได้คล่องเมื่ออากาศหนาวเหน็บชื้น ไขมันสัตว์มีกลิ่นเหม็นหืนได้ง่ายเมื่อทิ้งไว้ที่อุณหภูมิธรรมดา ไขมันจากสัตว์นอกจากมีไขมันอิ่มตัวแล้วแล้วก็มีโคเลสเตอรอลด้วย การกินไขสัตว์มากอาจจะทำเอาระดับโคเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด
:: ในการใช้น้ำมันปรุงอาหารจะต้องนึกถึงความร้อนที่ใช้ประกอบอาหารเป็นสำคัญ ด้วยกันควรเลือกสรรใช้น้ำมันให้เหมาะสมกับชนิดพร้อมกับจำพวกข้าวของเครื่องใช้การปรุงอาหารจะเป็นเหตุให้เกิดคุณประโยชน์ต่อตัวตน เช่นว่า การผัด ซึ่งใช้
น้ำมันแค่เล็กน้อยหรือขลุกขลิกจะใช้น้ำมันชนิดใดก็ได้ เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันทานตะวัน
น้ำมันข้าวโพด น้ำมันรำข้าว น้ำมันเมล็ดฝ้าย น้ำมันมะกอก หรือไม่น้ำมันปาล์มโอเลอิน การทอดอาหารที่ใช้น้ำมันมากพร้อมด้วยใช้ความร้อนสูงในการประกอบอาหาร เช่น ทอดไก่ ทอดปลา ทอดกล้วยแขก ทอดปาท่องโก๋ หรือทอดโดนัท ไม่ควรใช้น้ำมันพืชที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง ก็เพราะว่าจะทำเอาเกิดควันได้คล่อง น้ำมันเหม็นหืน พร้อมทั้งทำเอาเกิดความหนืดเนื่องมาจากมีสาร "โพลีเมอร์" เกิดขึ้น น้ำมันที่เหมาะเพื่อการทอดอาหารในลักษณะนี้ คือน้ำมันชนิดที่มีกรดไขมันอิ่มตัวสูง เช่น น้ำมันปาล์ม หรือน้ำมันหมู เพราะนอกจากนั้นจะไม่เป็นอันตรายจากสารพิษที่จะเกิดขึ้นจากการใช้น้ำมันผิดชนิดแล้ว ก็ยังได้อาหารที่มีรสชาติดี กรอบ ถูกปาก การทำน้ำสลัดประเภทต่างๆ ต้องใช้
น้ำมันพืชที่ไม่แข็งตัวในอุณหภูมิต่ำ ยังมีชีวิตอยู่น้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง เช่น น้ำมันข้าวโพด น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันมะกอก
:: เพื่อจะน้ำมันปาล์มโอเลอินซึ่งยังมีชีวิตอยู่น้ำมันที่ใช้ปรุงอาหารกันอย่างแพร่หลายในยุคปัจจุบันนั้น แม้เป็นน้ำมันพืชที่จัดอยู่ในชนิดที่มีกรดไขมันอิ่มตัว แต่ถ้าใช้อย่างเข้ารูปก็จะเป็นผลดีต่อร่างกาย ทั้งนี้ จากการศึกษาวิจัยพบว่าน้ำมันปาล์มดิบนั้นเป็นแหล่งของแคโรทีนอยด์ซึ่งมีมากกว่าแครอทถึง15 เท่า แคโรทีนอยด์นี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยผู้ป่วยเพื่อโรคศรีษะใจพร้อมด้วยหลอดเลือดศรีษะใจ (cardiovascular health) ในน้ำมันปาล์มมีกรดไลโนเลอิก จัดเป็นเส้นทางโอเมก้า 6 (omega-6 fatty acid) กรดไลโนเลอิกนี้เป็นกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายประสงค์พร้อมด้วยจะได้จากอาหารเพียงนั้น ปาล์มน้ำมันยังเป็นพืชที่มีวิตามินอีมากยิ่งนักในจำพวกพืชน้ำมันด้วยกัน นอกจากนี้ น้ำมันปาล์มยังศักยเก่าแก่ความร้อนได้สูงถึง220 °Cน้ำมันพืช เหมาะสำหรับการทำอาหารประเภททอด มีความปราศจากภัยต่อสุขภาพมากกว่าน้ำมันที่มีจุดเกิดควันต่ำอีกด้วย
:: มีกรณีแนะนำเกี่ยวกับการใช้น้ำมันปรุงอาหารว่าควรประมวลน้ำมันพืชกะทันหัน้ในที่เย็นพร้อมด้วยพ้นจากแสงเพื่อบำรุงชอบพอษาบำรุงรักษาวิตามินอี น้ำมันพืชที่มีวิตามินอีมากโดยเฉพาะอย่างมากมาย ได้แก่ น้ำมันทานตะวัน น้ำมันนาสาข้าวสาลี การใช้น้ำมันสถานที่ไฟร้อนจัด (โดยประมาณ 180 องศาเซลเซียส) จะสนับสนุนให้อาหารที่ทอดนั้นชมดซึมไขมันน้อยเยี่ยม ควรหนีหน้าการใช้น้ำมันทอดข้าวมากเกินไปเพราะน้ำมันที่ใช้ทอดหลายทีจะเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง ยิ่งไปว่านั้นนี้ ก็ควรเลือกสรรซื้อน้ำมันพืชสลับยี่ห้อและสลับขนานกันบ้างเพื่อจะลดการเสี่ยงในการรับสารเคมีที่อาจตกค้างเข้ามาสะสมในสกนธ์
:: การเจาะจงเลือกใช้นามันให้พอเหมาะกับการปรุงข้าวปลาอาหารเป็นหนึ่งในหนทางของใช้การสร้างเสเชิงน้ำมันพืชสุขภาพที่ดี ด้วยกันจะเอาใจช่วยให้เราพ้นจากพิษภัยสิ่งโรคที่ไม่พึงมุ่ง
Tags : น้ำมันพืช,น้ำมัน,น้ำมันพืช ราคา