แจกของฟรี

เมื่อวันเวลาผ่านไปจากวัยวัยสาวเข้าสู่วัยกลางคน ผิวที่เคยเต่งตึงมีน้ำมีนวลก็จะเริ่มแห้งหยาบกร้านและรูขุมขนกว้าง นั่นเป็นเพราะคอลลาเจนใต้ผิวหนังฝ่อลงจนก่อให้เกิดร่องลึก หากจะใช้วิธีนวด หรือทาครีมบำรุงต่างๆ ก็ได้ผลช้า ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์จึงเป็นวิธีที่ตอบโจทย์สำหรับผู้มีปัญหา และยังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน

การฉีดฟิลเลอร์งานฉีดฟิลเลอร์คือว่าอะไร วิธีการบริหาร ข้อดี ข้อเสีย ข้อควรระวัง พอเหมาะกับใคร วิธีการคุมตัวเองก่อนและหลังอะไร

การฉีดฟิลเลอร์คือ การฉีดสารเติมเต็มเพื่อทำให้ริ้วรอย ร่องลึกตามจุดต่างๆ บนใบหน้า เช่น หน้าผาก รอบดวงตา ร่องลึกริมฝีปาก ตื้นขึ้น หรือใช้แก้ไขปรับแต่งรูปหน้า เช่น เติมริมฝีปากหรือร่องแก้มให้ดูอวบอิ่ม ปรับโทษแต่งจมูกให้โด่งขึ้น ตลอดจนใช้ฟื้นฟูผิวพรรณให้กลับมากระชับเปล่งปลั่งอีกครั้ง

ฟิลเลอร์ (Filler) คือสารเติมเต็ม มีสรรพคุณช่วยทำให้ใบหน้าเต่งตึง มีน้ำมีนวล ริ้วรอยร่องลึกที่เคยเป็นจะตื้นขึ้น อีกทั้งฟิลเลอร์บางชนิดที่เลือกใช้ยังช่วยเติมใยคอลลาเจนที่หายไปให้กลับมาริดูอิ่มเอิบ แลดูอ่อนเยาว์กว่าวัยด้วยเวลาอันรวดเร็ว

ชนิดของฟิลเลอร์แบ่งตามเรื่องคงตัวหลังฉีด
แบ่งได้ 3 ชนิด ดังต่อไปนี้

การฉีดสารเติมเต็มวิธชั่วคราว (Temporary Filler) เช่น สารไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) สารคอลลาเจน (Collagen) ซึ่งเป็นสารที่สังเคราะห์ขึ้นมาให้ใกล้เคียงกับที่มีอยู่แล้วในผิวหนัง ที่ใช้ในปัจจุบันเป็นชนิดที่ไม่ทำให้เกิดการแพ้หรือแพ้น้อยมาก เมื่อฉีดเข้าบริเวณที่ต้องการแก้ไขแล้วจะคงอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน จัดว่ามีความปลอดภัยสูงและสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ
การฉีดสารเติมเต็มแบบกึ่งถาวร (Semi-Permanent Filler) เช่น สาร PMMA (Polymethyl-methacrylate) สารโพลีอัลคิลลิไมด์ (Polyakylimide)
สารเหล่านี้เป็นสารที่สังเคราะห์ขึ้น แต่มีความเข้ากันได้กับเนื้อเยื่อ ไม่ก่อให้กำเนิดอาการแพ้ จะมีอายุยาวกว่าการฉีดฟิลเลอร์แบบชั่วคราว อาจอยู่ได้นานถึง 2 ปี ขึ้นกับชนิดของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ มีความปลอดภัยในระดับปานกลาง และสารที่ให้ผลยาวนานกว่ามีแนวโน้มจะเกิดผลข้างเคียงมากกว่า
การฉีดสารเติมเต็มแบบถาวร (Permanent Filler) เช่น ซิลิโคนเหลว หรือน้ำมันพาราฟิน จะให้บทสรุปแบบถาวรโดยไม่สามารถสลายออกเองได้ การฉีดสารประเภทนี้ระบุผลข้างเคียงในระยะยาวไม่ได้ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรง มีการอักเสบ หรือถึงขั้นทำให้บริเวณที่ฉีดเปลี่ยนรูปไป จึงไม่แนะนำให้ฉีดสารชนิดนี้

แบบยี่ห้อฟิลเลอร์ที่มีให้บริการในไทย
Restylane, Juvederm, Belotero, Perfectha และ Neuramis

ฟิลเลอร์แต่ละชนิดเหมาะกับปัญหาผิวที่แตกต่างกัน ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ควรเลือกทำกับแพทย์ผิวหนังที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในด้านนี้โดยเฉพาะสำหรับความปลอดภัย

ระยะเวลาในการฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์จะใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที โดยเมื่อฟิลเลอร์อยู่ในที่ที่ต้องการแก้ไขแล้วก็จะเห็นผลทันที และจะยิ่งเห็นผลชัดที่สุดในวันที่ 5

ปกติแล้ว ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์สามารถอยู่ได้นานสองนานถึง 6 เดือน ถึง 2 ปี หรือนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสารฟิลเลอร์ที่ฉีด ความเหมาะสมของชนิดฟิลเลอร์และปัญหาของผิว ด้วยกันการดูแลหลังการฉีด ซึ่งผลที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วย

อย่างไรก็ตาม ฟิลเลอร์บางชนิดอาจไม่พิศผลในทันทีหลังฉีด แต่จะค่อยๆ กระตุ้นให้ผิวหนังสร้างคอลลาเจนขึ้นมาเอง สารฟิลเลอร์ประเภทนี้ เช่น สารโพลีอัลคิลลิไมด์ (Polyalkylimide) สารโพลีแลคติกแอซิด (Poly lactic acid)

งานฉีดฟิลเลอร์ควรสำหรับใคร
การฉีดฟิลเลอร์เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอย มีร่องลึกรอบดวงตา มุมปาก หรือบริเวณอื่นๆ และผู้ที่ต้องการปรับแต่งรูปหน้า รวมถึงช่วยเติมเต็มแก้มที่ตอบให้เปล่งปลั่ง และเต่งตึง ทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ไสวยิ่งขึ้น

ข้อเยี่ยมของการฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันใจ ใช้เวลาน้อย ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
การฉีดฟิลเลอร์สามารถทำให้เสมอโครงสร้างใบหน้าให้ได้รูป
การฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มจุดบกพร่องที่ทำให้ดูสูงวัย เช่น ริ้วรอย ร่องลึกรอบดวงตา มุมปาก แก้มตอบ หลุมสิว ให้เต่งตึงมากยิ่งขึ้น ทำยื่นให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ในทันทีที่ฉีด แก้ปัญหารอยแผลเป็น และยังช่วยเสริมโหงวเฮ้งตามความเชื่อได้อีกด้วย
การฉีดฟิลเลอร์ชนิดชั่วคราวที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา มีความปลอดภัยสูง เพราะเป็นสารจากธรรมชาติที่สามารถสลายได้เอง ไม่มีคำถามตกค้างในร่างกาย และมักไม่ทำให้เกิดอาการแพ้อีกด้วย

ประเด็นสิ้นอายุขัยของการฉีดฟิลเลอร์
สมมุติใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ หรือมีความเสี่ยงโอกาสในบริเวณที่ฉีดได้
หากคุณฉีดฟิลเลอร์แบบถาวร เช่น ซิลิโคนเหลว หรือน้ำมันพาราฟิน ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ที่ไม่สามารถสลายออกเองได้ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เพียง ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนจนเกิดพังผืด ซึ่งจะต้องไปให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแก้ไขเท่านั้น
การฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ หรือเลือกสถานพยาบาลที่ไม่น่าเชื่อถือ เป็นเรื่องอันตรายมาก เพราะตำแหน่งที่ฉีดถือว่ามีความสำคัญไม่แพ้คุณภาพของสารฟิลเลอร์ หากไม่ใช่แพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านกายวิภาค อาจฉีดในจุดที่ไม่ควรฉีดและทำให้เกิดผลข้างเคียงได้

แบบดูแลตนเองเพรงฉีดฟิลเลอร์
ห้ามรับประทานโอสถหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิด เช่น แอสไพริน (Aspirin) วิตามินอี สารสกัดใบแปะก๊วย ที่ทำให้เลือดหยุดไหลช้า

ผิกำลังรับประทานยา หรือมีประวัติการแพ้ยาใดๆ ก็ตาม จะต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบล่วงหน้า

วิธีเอาใจใส่ตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์
บางรายอาจมีท่าทีบวมแดงในบริเวณที่ฉีด แต่จะหายไปได้เองภายใน 2 วัน
หลีกเฉไฉการใช้ยากลุ่มแอสไพริน หรือยาแก้ปวดข้อบางชนิด เป็นเวลา 2 วันส่วนหลังฉีดฟิลเลอร์
สกัดกั้นนอนราบหลังการฉีดฟิลเลอร์ 3-4 ชั่วโมง
ยับยั้งแต่งหน้า หรือใช้ครีมบำรุงทุกชนิดหลังการฉีดฟิลเลอร์ 12 ชั่วโมง
ห้ามออกกำลังกายภายใน 48 ชั่วโมงแรก
ปลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อน เช่น ทำเลเซอร์ การใช้ไดร์เป่าผม ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์เสื่อมสลายได้เร็ว รวมทั้งห้ามถูหน้าแรงๆ ด้วย
ถูกดื่มน้ำให้เพียงพอกับปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน
ทาครีมกันแดดทุกวัน
หัวข้อควรคอยดูในการฉีดฟิลเลอร์
ปัจจุบันมีสารที่มีลักษณะคล้ายฟิลเลอร์ออกมามากมาย ซึ่งไม่ได้ถูกรับรองตามมาตรฐานขององค์การอาหารและยา แล้วจึงควรขอแพทย์ตรวจสอบฟิลเลอร์ทุกครั้งก่อนฉีด เพื่อลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้น
สมควรใช้บริการจากแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ รวมถึงเลือกสถานให้บริการที่ได้มาตรฐาน พร้อมด้วยเชื่อถือได้
ห้ามฉีดฟิลเลอร์ในสตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร และผู้ที่มีปัญหาเลือดออกแล้วหยุดยาก
ทำนองตรวจสอบฟิลเลอร์อย่างสะดวกๆ
ปกติแล้วแพทย์จะแกะกล่องฟิลเลอร์ต่อหน้าคนไข้ เพื่อให้คนไข้สามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเอง
ฟิลเลอร์ทั้งปวงยี่ห้อจะมี Lot Serial No. รวมถึงหมายเลขอ้างอิงต่างๆ ซึ่งจะตรงกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหน้ากล่อง ในกล่อง หรือตัวเข็ม
สามารถเช็กฟิลเลอร์แท้ได้ โดยนำเลข Serial No. ไปสอบถามบริษัทที่นำเข้าหรือผลิต
ค่าของการฉีดฟิลเลอร์
ราคาการฉีดในแต่ละครั้งจะคิดจากปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องการฉีด มีหน่วยวัดคือ “ซีซี (CC)”
ท่อนใหญมักเริ่มจากราคาซีซีละ 2,500 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละสถานที่ที่ให้บริการด้วย
1 ซีซี สามารถฉีดได้ 1 จุด โดยสามารถเลือกจุดใดจุดหนึ่งบริเวณใบหน้า เช่น ปาก ใต้ตา ร่องแก้ม หรือขมับ เป็นต้น
ในท้องตลาดมีบริการฉีดฟิลเลอร์หลากหลายราคา เราไม่ควรเห็นแก่ราคาถูกเท่านั้น แต่ควรเลือกคลินิก หรือโรงพยาบาลที่สามารถพิจารณาสอบได้ว่า สารที่นำมาฉีดเป็นสารชนิดใด เพราะหากเป็นสารที่ไม่ได้มาตรฐานอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงได้

ไงก็ตาม สมมตใช้บริการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง การฉีดฟิลเลอร์ถือว่าเป็นการรักษาที่ไม่อันตรายและมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง
 

Tags : ฟิลเลอร์,ฟิลเลอร