เมื่อพูดถึงแบบการพัฒนา
OTOP แบบเดิมมีผลิตภัณฑ์ ที่เข้าหลักเกณฑ์มาตรฐานตามหน่วยงานรัฐได้ตั้งมาตรฐานไว้เพียง 15,000 สินค้า จากทั้งหมด 83.538 รายการ ทำให้สินค้าอีกราวๆ เจ็ดหมื่นรายการที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ขาดโอกาสในการเข้าร่วมการดำเนินการ รูปแบบเดิมภาครัฐช่วยในการสร้างช่องทางตลาด จัดให้มีการสินค้าโอทอปตามงาน Event ต่างๆ ผู้ผลิตที่ผ่านเกณฑ์ได้มีโอกาสไปขายตามงาน Event ต่างๆ นอกจากนี้ภาครัฐยังให้ความช่วยเหลือผลักดันในด้านต่างๆ
โอทอป นวัตวิถี รูปแบบใหมีแต่การพัฒนา โอทอป ในสมัยใหม่จะเปลี่ยนไปจากเดิมโดยผลักดันให้ซื้อขายสินค้าอยู่ภายในท้องถิ่น เพื่อเป็นการทำรายได้ให้กับท้องถิ่น นำนำภูมิปัญญา วิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณี และความคิดสร้างสรรค์ ที่เป็นเสน่ห์ของแต่ละชุมชน มาทำการเปลี่ยนให้เป็นเงินรายได้ภายในชุมชน และเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับแต่ละชุมชน คนในท้องถิ่นไม่จำเป็นต้องไปจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตามงานแสดงผลิตภัณฑ์สินค้า ต่างๆ ที่หน่วยงานรัฐจัดโปรโมตขึ้นเหมือนแต่ก่อน
แต่ยังไงก็ตามชุมชนที่จะเข้าร่วม โอทอป นวัตวิถี ก็ยังต้องผ่านกฏเกณฑ์ดังนี้
- มีความน่าสนใจด้านศิลปวัฒนธรรมของชุมชน
- ส่งเสริมจำหน่ายสินค้าโอทอปของชุมชน ที่เป็นเสน่ห์และเอกลักษณ์ของท้องถิ่น
- มีความน่าสนใจสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติภายในชุมชน
- มีปริมาณนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่ชุมชน ออกจะตายพอประมาณ
- ชุมชนมีความพร้อม คือมีศักยภาพความพร้อมของที่ส่วนรวมในด้านต่างๆ
- มีการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว ตามที่หน่วยงานรัฐกำหนด เช่น เช่น แหล่งท่องเที่ยวหลัก คือ 22 เมืองหลัก แหล่งท่องเที่ยวรอง คือ 55 เมืองรอง ส่วนแหล่งท่องเที่ยวเล็ก ก็คือ ชุมชนท่องเที่ยวที่มีกิจกรรม สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ โดยสามารถต่อยอดจากหมู่บ้าน OTOP
- มีการจัดการใช้งบประมาณอย่างมีหลักการ
- ต้องมีความเข้มแข็งของชุมชน ภายในชุมชนมีความพร้อม
- มีการจัดทำแผนธุรกิจ ปฏิทินท่องเที่ยวของชุมชน
เครดิต :
http://magalhaes-network.net/index.php?topic=274189.new#newTags : OTOP,ข้าวตัง