ชุดนอนเชิ้ตขาว เนื้อผ้าดี บราลูกไม้ ตัดเย็บดี ใส่นอนสบาย
ชุดนอนไม่ได้นอน,ชุดนอนแบบอื่นๆ อาทิ
ชุดหนัง Polyester ราคาถูก ส่งไปรษณีย์ไทย
การสั่งซื้อสินค้า มี 3 ช่องทาง
3 สั่งซื้อทางหน้าเวปไซต์ โดย ติดต่อทางเวปบอร์ด
==> กดสั่งซื้อที่ตระกร้าสินค้า พร้อมกรอกชื่อที่อยู่ วิธีสำหรับซัก ตาก รีด และก็รักษาเสื้อผ้าชนิดต่างๆมีวิธีการ
๑. วิธีซักเสื้อผ้าไหม โดยมากนิยมส่งร้านรับซักผ้า ด้วยเหตุว่ามีแนวทางการซักที่ยุ่งยาก รวมทั้งต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ แม้กระนั้นถ้าหากจะซักเองควรซักด้วยมือ ห้ามใช้เครื่องซักผ้า เพราะว่าแรงเสียดสีของ เครื่องซักผ้าจะก่อให้เส้นใยพัง โดยการซักเสื้อผ้าไหมด้วยมือมีขั้นตอน ดังนี้
๑) ใส่นํ้าลงในกะละมังพอเพียงท่วมผ้าที่จะซัก นำนํ้ายาซักแห้งเทใส่นํ้าในกะละมัง ใช้มือ แกว่งนํ้าจนกระทั่งนํ้ายาซักแห้งแตกฟอง
๒) นำผ้าไหมลงแช่ในนํ้าสักประเดี๋ยว ใช้มือกดผ้าให้เปียกรวมทั้งจมนํ้า ใช้มือขยี้เบาๆตรงที่สกปรก ดังเช่น ปกเสื้อ ปลายแขนเสื้อ รวมทั้งส่วนอื่นๆขยี้กระทั่งคราบเปื้อนเหงื่อไคล ฝุ่นผง และก็สิ่งสกปรกออกกระทั่งหมด ห้ามใช้แปรงถูผ้าไหมเด็ดขาดและผ้าไหมบางจำพวกห้ามซักด้วยสารซักฟอก เพราะเหตุว่าจะทำลายความมันของเส้นไหม จำนวนการใช้นํ้ายาซักแห้งให้มองตามคำแนะนำบนฉลากสินค้า
๓) นำผ้าไหมที่ซักสะอาดแล้วขึ้นจากนํ้า ใช้มือบีบเบาๆให้นํ้ารวมทั้งนํ้ายาซักแห้งออกจนถึงหมด
๔) นำผ้าที่ยกขึ้นจากนํ้าแล้ว ไปล้างในนํ้าสะอาด ๒ ครั้ง จากนั้นแช่ในอ่างนํ้าที่ผสม
นํ้ายาปรับผ้านุ่มไว้สักครู่ จำนวนการใช้นํ้ายาปรับผ้านุ่มให้มองตามคำแนะนำบนฉลากสินค้า
๒. การตากผ้าไหม ทำได้ดังต่อไปนี้
๑) ชูผ้าไหมขึ้นจากนํ้ายาปรับผ้านุ่ม แล้วบีบเบาๆไล่นํ้าออก ห้ามบิดผ้าเนื่องจากว่าจะมีผลให้ผ้าเป็นรอยยับ ผิดรูปร่าง
๒) สลัดผ้าเบาๆคลี่ออกใส่ไม้แขวน
๓) นำเสื้อผ้าใส่ไม้ห้อย ไปแขวนกับราวตากผ้าในที่ร่ม ที่มีลมพัดผ่าน
๓. การรีดเสื้อผ้าไหม มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
๑) นำผ้าไหมที่ซักตากแห้งเพียงพอหมาดๆมาประพรมนํ้าหรือฉีดพ่นนํ้ายารีดผ้าเรียบให้ทั่ว ม้วนพับเก็บไว้ภายในช่องที่มีไว้แช่แข็งของตู้เย็น นานโดยประมาณ ๑-๒ ชั่วโมง เพื่อให้นํ้าหรือนํ้ายาที่ฉีดไว้ กระจัดกระจายเข้าเนื้อผ้าจนทั่วดี ไม่ควรนำไปรีดหลังพรมนํ้าทันทีจะก่อให้ผ้าด่างและไม่เรียบ
๒) นำผ้าไหมที่ม้วนเก็บเอาไว้ภายในตู้เย็นมารีด โดยใช้ผ้าฝ้ายขนาดผ้าที่มีไว้เช็ดหน้าวางทับบน ผ้าไหม แล้วจึงใช้เตารีด รีดบนผ้าฝ้าย แม้ไม่วางผ้าฝ้ายทับบนผ้าไหมก่อน ความร้อนจากเตารีด จะก่อให้ผ้าไหมสีไม่สดใส เป็นรอยเหลืองแล้วก็เก่าเร็ว นอกจากนี้ถ้าหากไม่รีดบนผ้าฝ้ายให้รีดด้วย อุณหภูมิตํ่า หรือใช้เตารีดไอนํ้า และไม่ควรรีดผ้าไหมช่วงเวลาที่ผ้าแห้ง เนื่องจากว่าจะก่อให้ผ้ากระด้างเป็นเงาลื่น
๔. การรักษาผ้าไหม ทำได้ดังนี้
๑) หลังจากรีดผ้าไหมเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ควรห้อยไว้กับไม้แขวนเสื้อ แล้วก็ค่อยนำไปแขวน เก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า
๒) หากเป็นเสื้อผ้าไหมที่ใช้แล้ว รวมทั้งยังไม่เลอะเทอะ ควรจะห้อยกับไม้แขวนและก็นำไปผึ่งไว้ ในที่ร่ม ที่มีอากาศระบายดีถ้าเสื้อผ้าไหมเปรอะเปื้อนน้อย ควรทำความสะอาดเฉพาะจุดนั้นในทันที ใส่ไม้แขวนนำไปผึ่งจนกว่าจะแห้ง รีดให้เรียบก่อนนำไปเก็บ
เสื้อผ้าฝ้าย๑. วิธีซักเสื้อผ้าฝ้ายเสื้อผ้าฝ้ายซักได้ด้วยมือหรือเครื่องซักผ้า แต่ว่าแนวทางซักด้วยมือจะถนอมเนื้อผ้ามากกว่า นอกเหนือจากนี้วิธีสำหรับซักผ้าอย่างถูกทางจะช่วยป้องกันราขึ้นเสื้อผ้าได้ โดยมีขั้นตอนดังนี้
๑) แช่ผ้าฝ้ายในนํ้าเกลือ หรือนํ้าส้มสายยก ๑ คืน แล้วนำขึ้นบีบนํ้าออก
๒) ใส่สารซักฟอก ๑ ช้อน ต่อนํ้า ๑ กะละมัง ใช้มือแกว่งจนเกิดฟอง นำผ้าลงซักขยี้เบาๆยกขึ้นบีบนํ้าออกเบาๆนำไปล้างนํ้าสะอาด ๒ ครั้ง
๓) แช่ผ้าฝ้ายในอ่างนํ้าที่ผสมนํ้ายาปรับผ้านุ่มไว้สักครู่ยกขึ้นบีบนํ้าออก ถ้าหากเป็นผ้าฝ้ายสีขาวให้ซักในนํ้าสบู่หรือนํ้ายาฟอกขาว แต่ควรเป็นนํ้ายาฟอกขาวจำพวกอ่อน ล้างด้วยนํ้าสะอาด จะปั่นให้แห้งด้วยเครื่องซักผ้าก็ได้
๒. การตากเสื้อผ้าฝ้าย ทำได้โดยนำเสื้อผ้าฝ้ายที่ซักเสร็จแล้ว ผึ่งแล้วก็สะบัดให้แผ่ออก ใส่ไม้ห้อยผึ่งแดดจัดได้แต่ไม่สมควรนานเหลือเกิน เนื่องจากว่าจะทำให้เส้นใยหย่อนคุณภาพรวมทั้งผ้าสีจางถ้าเกิดเป็นผ้าสีนําไปแขวนในที่ร่ม มีลมพัดผ่าน ใช้มือดึงผ้าให้ตึง อย่าให้มีรอยยับ จะช่วยให้รีดง่าย
๓. การรีดผ้าฝ้าย ทำได้โดยนำผ้าที่ตากไว้พอเพียงหมาดๆนำไปรีด ไม่ต้องประพรมนํ้า หรือจะใช้นํ้ายารีดผ้าเรียบก็ได้ แล้วก็รีดด้วยอุณหภูมิสูง ผ้าก็เลยจะเรียบ
๔. การรักษาผ้าฝ้าย ผ้าฝ้ายจะขึ้นราได้ง่ายเมื่ออยู่ในที่อับเปียกชื้น การดูแลรักษาเสื้อผ้าฝ้าย ภายหลังจากซักแล้ว ควรใส่ไม้ห้อยห้อยไว้ภายในตู้ที่มีไว้สำหรับเก็บเสื้อผ้า ซึ่งวางไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทดี แห้งและก็เย็นไม่ควรห้อยเสื้อผ้าในตู้ที่มีไว้สำหรับใส่เสื้อผ้าให้แน่นมากสักเท่าไรนัก ควรจะแขวนหลวมๆอีกทั้งก่อนเก็บเอาไว้ภายในตู้ควรให้เสื้อผ้าแห้งให้สนิทก่อน
เสื้อผ้าลินิน๑. การซักเสื้อผ้าลินิน ซักด้วยมือ เพราะว่าไม่ทำให้ผ้ายับ รีดง่าย และก็การซักผ้าลินินสีขาว ควรจะซักในนํ้าอุ่น ผ้าลินินสีให้ซักในนํ้าเย็น แล้วก็ใช้สารซักฟอกที่มีส่วนผสมของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีเพื่อช่วยกำจัดคราบเลอะเทอะ
แนวทางในการซักผ้าลินินด้วยมือมีขั้นตอน ดังต่อไปนี้
๑) นำผ้าลินินแช่นํ้าสักครู่ยกขึ้นบีบเบาๆนำผ้าไปแช่ในนํ้าสารซักฟอกที่ตระเตรียมไว้แช่ไว้ชั่วประเดี๋ยวเพื่อสารซักฟอกจัดการสิ่งสกปรก แล้วใช้มือขยี้ให้สิ่งสกปรกออกให้หมด แล้วเอาขึ้น จากนํ้าสารซักฟอก บีบนํ้าออกเบาๆไม่ควรบิดผ้าแรงๆเพราะเหตุว่าจะก่อให้เกิดรอยยับ นอกจากนั้นยังใช้สารฟอกขาวคลอรีนได้
๒) นำผ้าไปล้างในนํ้าสะอาด ๒-๓ ครั้งจนกระทั่งหมดสารซักฟอก นำไปแช่ลงในอ่างนํ้าผสม นํ้ายาปรับผ้านุ่มสักครู่ยกขึ้นไล่นํ้าออก
๒. การตากเสื้อผ้าลินิน ทำเป็นโดยนำผ้าลินินที่ซักเสร็จแล้วใส่ไม้แขวน ผึ่งแดดจัด แต่ไม่นานเกินความจำเป็น แล้วตากลมไว้เพียงพอหมาดก็เลยนำไปรีด
๓. การรีดเสื้อผ้าลินิน ทำเป็นโดยนำเสื้อผ้าลินินที่ห่อไว้ หรือผึ่งลมพอเพียงหมาดๆไปรีด โดยใช้ความร้อนสูง และก็ให้รีดภายใน เพื่อให้ภายนอกวาว
๔. การรักษาเสื้อผ้าลินิน ภายหลังรีดเสร็จแล้วให้ห้อยกับไม้แขวน แล้วค่อยนำไปเก็บไว้ภายในตู้ที่มีไว้ใส่เสื้อผ้า
เสื้อผ้าขนสัตว์เสื้อผ้าขนสัตว์ รักษายาก เพราะว่าเมื่อถูกความร้อนและก็ชื้น ผู้ที่ทำขึ้นมาจากขนสัตว์จะเชื่อมติดกันเป็นแผ่น รวมทั้งหดตัวทุกครั้งเมื่อแฉะ จำเป็นที่จะต้องส่งร้านรับซักผ้าที่มีความชำนิชำนาญในการซักรีดจะดีกว่า
สำหรับวิธีการรักษาเสื้อผ้าขนสัตว์อย่างง่ายซึ่งสามารถทำได้ด้วยตนเอง มีดังนี้
๑. ใช้แปรงนุ่มๆแปรงฝุ่นละอองออกทุกหนข้างหลังการใช้ ถ้าเกิดถูกนํ้าให้สะบัดออก อย่าแปรงขณะผ้าเปียก
๒. ห้อยเสื้อผ้าขนสัตว์ในที่อากาศโปร่ง แห้ง รวมทั้งเย็น หรือใส่ลงในถุงพลาสติกแล้วห้อยในตู้เสื้อผ้า
๓. ห้ามใช้เสื้อผ้าชุดเดียวติดต่อกันนานนับเป็นเวลาหลายวัน เนื่องจากว่าเมื่อขนสัตว์มีการเสียดสีหรือถูไปมานานๆจะแข็งเป็นมัน บางจำพวกขนจะหลุด
เสื้อผ้าใยสังเคราะห์๑. การซักเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ สามารถซักได้ด้วยมือและก็เครื่องซักผ้า แต่ว่าซักมือจะถนอมเนื้อผ้ามากกว่า โดยการซักเสื้อผ้าใย สังเคราะห์มีวิธีการ ดังนี้
๑) ควรจะแยกผ้าสี แล้วก็ผ้าขาวออกมาจากกัน ไม่ควรซักรวมกัน เพื่อป้องกันสีจาง
๒) ซักในนํ้าปกติหรือน้ำอุ่น ด้วยสารซักฟอกหรือสารซักฟอกชนิดอ่อนอย่างเบามือ แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด ๒-๓ ครั้งแล้วบีบให้น้ำแห้ง
๓) ถ้ามีความจำเป็นจะต้องฟอกขาว ควรใช้สารฟอกขาวอย่างอ่อน
๒. การตากเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ ผึ่งแดดได้แต่จำต้องกลับเอาภายในออก เพื่อป้องกันไม่ให้สีซีดจาง และไม่ควรจะตากนาน เพียงพอหมาดเก็บ เข้าที่เข้าทางร่ม
๓. การรีดเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ เสื้อผ้าใยสังเคราะห์เนื้อผ้าไม่ยับ จึงไม่มีความจำเป็นต้องรีดแต่แม้จะรีด ควรใช้อุณหภูมิตํ่า
๔. การเก็บเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ ควรห้อยด้วยไม้แขวนแล้วเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าเสื้อผ้าใยกึ่งสังเคราะห์
เสื้อผ้าใยครึ่งหนึ่งสังเคราะห์๑. การซักเสื้อผ้าใยครึ่งสังเคราะห์ เสื้อผ้าใยกึ่งสังเคราะห์เมื่อถูกนํ้าจะลดความเหนียวรวมทั้งคงทนถาวรไม่ทนกรด ถ้าหากเปรอะยางผลไม้หรือนํ้าผลไม้จะต้องซักทันที ควรจะซักแห้งหรืออาจซักนํ้าได้แต่ว่าผ้าจะยับมากมาย เสียเวลาซักนาน อย่าแช่นํ้าหรือทิ้งเอาไว้ในนํ้านาน แล้วก็ควรที่จะใช้สารซักฟอกประเภทอ่อน ขณะซักไม่สมควรขยี้หรือบิดมากมาย หลังจากนั้นล้างนํ้าสะอาด ๒-๓ ครั้ง แล้วบีบนํ้าให้หมาด
๒. การตากเสื้อผ้าใยครึ่งหนึ่งสังเคราะห์ ควรจะแขวนตากในที่ร่ม
๓. การรีดเสื้อผ้าใยครึ่งสังเคราะห์ ควรจะรีดด้วยอุณหภูมิต่ำเพราะว่าไม่ทนความร้อน ถ้าเกิดความร้อนสูงจะละลาย
๔. การเก็บเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ ควรแขวนด้วยไม้แขวนแล้วเก็บในตู้สำหรับใส่เสื้อผ้า นอกจากเสื้อผ้าใยธรรมชาติ ใยสังเคราะห์ รวมทั้งใยครึ่งสังเคราะห์แล้ว ยังมีเสื้อผ้าไหมพรม รวมทั้งเสื้อผ้าที่ตกแต่งด้วยเลื่อมรวมทั้งลูกปัด ซึ่งควรมีกรรมวิธีดูแลอย่างประณีต ดังนี้
เสื้อผ้าไหมพรมเสื้อผ้าไหมพรม เป็นผ้าที่ถักทอจากเส้นไหมพรม มีลักษณะนุ่ม ไม่ยับ ยืดหยุ่นเจริญ สวมอบอุ่น ป้องกันความหนาวเจริญ
๑. วิธีสำหรับซักเสื้อผ้าไหมพรมทำได้โดยซักมือหรือซักด้วยเครื่องซักผ้าได้ทั้งสองแนวทางควรใช้นํ้ายาซักแห้งซัก ขยำเบาๆเมื่อสะอาด หมดสิ่งสกปรก นำไปล้างนํ้าให้สะอาด ๒-๓ นํ้า นำไปแช่นํ้ายาปรับผ้านุ่มชั่วประเดี๋ยว ไม่สมควรนำเสื้อผ้าไหมพรมต่างสีซักรวมกันสีจะตกได้เสื้อผ้าไหมพรมที่เปื้อนนํ้ามัน มีแนวทางซักโดยใช้นํ้าอุ่นๆผสมนํ้าสบู่หรือผงซักฟอก ตีจนกระทั่งขึ้นฟอง นำเสื้อผ้าไหมพรมที่มีรอยเปื้อนแช่ลงไปโดยประมาณ ๓๐ นาทีแล้วขยำเบาๆกระทั่งสิ่งสกปรก นํ้ามันหลุดออกหมด เอาไปล้างในนํ้าอุ่น ๒-๓ ครั้ง จนถึงสะอาด นำไปตาก ภายหลังจากซักเสื้อผ้าไหมพรม ปูเสื้อไหมพรมลงบนพื้นโต๊ะ นำผ้าขนหนูแห้งๆปูทาบกับตัวเสื้อ แล้วม้วนไปพร้อมเพียงกัน ผ้าขนหนูจะดูดซับนํ้าในเสื้อไหมพรมให้แห้งโดยไม่ต้องบิดเพราะว่าถ้าหากบิดจะทำให้เส้นไหมพรมยับแล้วก็ยืด
๒. การตากเสื้อผ้าไหมพรม ทำเป็นโดยนำเสื้อผ้าไหมพรมที่ซึมซับนํ้ากระทั่งแห้งแล้ว วางราบบนแผ่นกระดานยาว ผึ่งให้แห้งในที่ร่ม ไม่สมควรนำเสื้อไหมพรมตากบนราวตากผ้า เนื่องจากผ้าไหมประพรมเป็นผ้าที่มีนํ้าหนักและก็ทิ้งตัว จะทำให้ยืดย้วย ผิดรูปร่าง
๓. การรักษาเสื้อผ้าไหมพรม ทำได้โดยพับเก็บเอาไว้ในตู้เสื้อผ้า ไม่ควรห้อยด้วยเหตุว่าจะทำให้ยืดย้วย ผิดรูปร่าง
เสื้อผ้าที่ปักเลื่อมและก็ลูกปัดเสื้อผ้าที่ปักเลื่อมแล้วก็ลูกปัด โดยมากจะตัดเย็บโดยใช้ผ้าไหม ผ้าป่านหรือผ้าลินิน ซึ่งซักรีดได้ยาก และก็ต้องระวังไม่ให้เลื่อมหรือลูกปัดหลุดอีกด้วย ก็เลยจะต้องดูแลอย่างถูกทางดังนี้
๑. แนวทางในการซักเสื้อผ้าที่ปักเลื่อมรวมทั้งลูกปัด ทำได้โดยก่อนซักให้ตรวจค้นจุดเปรอะเปื้อนก่อน ก็เลยนำไปแช่ชั่วประเดี๋ยว ยกขึ้นบีบนํ้าออกโดยไม่บิด หลังจากนั้นนำไปลงซักในกะละมังที่มีนํ้าแฟ้บที่ตีจนกระทั่งขึ้นฟอง ขยี้ส่วนเลอะเทอะออกให้หมด ถ้าถูกจุดเลอะเทอะเป็นที่ปักเลื่อมหรือลูกปัด ให้ขยี้เบาๆแล้ว ยกขึ้น นำเสื้อผ้าลงแช่ในอ่างนํ้าที่ผสมนํ้ายาซักแห้งสักครู่ รวมทั้งขยี้ตรงที่ไม่มีลูกปัดล้างนํ้า ๑-๒ ครั้ง เอาขึ้นไล่นํ้าออก ห้ามบิด แล้วนำเสื้อผ้าลงแช่ในอ่างนํ้าผสมนํ้ายาปรับผ้านุ่มสักครู่ เอาขึ้นไล่นํ้าออกโดยไม่บิด
๒. การตากเสื้อผ้าปักเลื่อมและก็ลูกปัด ทำเป็นโดยนำไปใส่ไม้แขวน ผึ่งในที่ร่มที่มีอากาศระบายดี อย่านำไปผึ่งแดด ด้วยเหตุว่าจะทำให้ลูกปัดบิดและก็แตกหักง่าย
๓. การรีดเสื้อผ้าปักเลื่อมแล้วก็ลูกปัด ทำเป็นดังต่อไปนี้
๑) ฉีดพ่นนํ้าให้ทั่วเพียงพอหมาดๆม้วนพักไว้ชั่วประเดี๋ยว นำไปฉีดนํ้ายาเพื่อให้ผ้าเรียบ ม้วนให้นํ้ายารีดผ้าเรียบซึมกระทั่งทั่วจึงนำไปรีด
๒) การรีดผ้าปักเลื่อมและก็ลูกปัด ให้กลับหัวในออกนอก วางลงบนโต๊ะรีด ใช้ผ้าสาลูหรือผ้าลินินขนาดเท่าผ้าที่มีไว้สำหรับเช็ดหน้าชุบนํ้าจนถึงทั่วเพียงพอหมาด วางทาบตรงปักเลื่อมและก็ลูกปัดรีดเบาๆจนเสื้อผ้าปักเลื่อมลูกปัดแห้ง ภายหลังให้พลิกด้านใช้ปลายเตารีดค่อยๆรีดผ้าที่อยู่ใกล้กับเลื่อมและลูกปัดเพื่อเรียบยิ่งขึ้น ส่วนตรงอื่นๆก็ใช้ผ้าสาลูหรือผ้าลินินชุบนํ้าพอเพียงหมาดวางทับรวมทั้งรีดจนกระทั่งทั่วทั้งตัว โดยรีดตรงปกรวมทั้งตัวเสื้อ สำหรับแขนเสื้อรีดเป็นส่วนในที่สุด
-------------------------------------------------------------------------------------------วิธีสำหรับในการดูแลเสื้อยืดสกรีนรวมทั้ง เสื้อโปโล
เสื้อโปโล จะได้รับผลกระทบในแบบที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับคุณภาพเนื้อผ้าของเสื้อผ้าของคุณไม่ว่าจะคือเรื่องของช่วงเวลาของลายปริ๊นบนเสื้อแล้วก็ระยะเวลาของเสื้อกับการตอบสนองต่อน้ำและก็สบู่ ถ้าประสิทธิภาพของสิ่งของยิ่งดี ช่วงเวลาสำหรับการใช้ก็จะยิ่งแข็งแรง รวมทั้งนานมากขึ้นจ้ะ
1. กลับหัวกลับหางเสื้อของคุณก่อนจะโยนมันเข้าไปในเครื่องซักผ้าแต่ว่าทริคนี้ไม่ได้ใช้ได้เพียงแค่กับเสื้อยืดสกรีน, เสื้อโปโล หรือยีนส์
สามารถใช้ได้กับทุกผ้าเลยค่ะ คุณประโยชน์ซึ่งมาจากการกลับด้านเส้อผ้าของคุณก่อนนำมาซักจะปกป้องให้สีจากเสื้อของคุณจางไว
2. แยกผ้าที่ราวกับๆกันออกมาซักทีละก้อนคุณอาจจะกำลังคิดอยู่สินะว่าคุณรู้อยู่แล้วล่ะประเด็นนั้น คือแบบคุณอาจคิดใช่ไหมว่ามนุษย์เรานี่ควรจะเป็นคนประเภทไหนกันที่จะเอาผ้าทุกๆสีทุกๆแบบมาซักรวมกันนะ? ใช่ไหมล่ะ? และเราก็ต้องการจะบอกกับคุณอีกว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องสีหรอกนะ มันคือเรื่องของเนื้อผ้า คุณควรที่จะแยกผ้าที่มีเนื้อผ้าคล้ายๆกันแล้วซักมันร่วมกัน ผ้าเดนิมและอื่นๆที่มีซิปกระดุมควรจะที่จะจับแยกกับผ้าอื่นๆอยางเป็นต้นว่า เสื้อยืด หรือ เสื้อโปโล ออกมาจากกันเลยจ้ะ เพราะว่าถ้าผ้าที่แข็งกว่ามันเสียดสีกับผ้าที่มีเนื้อบางมากยิ่งกว่า นุ่มกว่า มันจะสามารถทำให้เกิดการฉีกขาดได้เลย
3. ซักผ้ากับน้ำเย็นถ้าหากพูดถึงประเด็นการซักผ้า น้ำเย็นมักจะเป็นตัวเลือกที่ดีเสมอส่วนน้ำอุ่นน่ะไม่สมควรเป็นตัวเลือกแต่ก่อนเลยล่ะ ทดลองทศไว้ภายในดวงใจนะคะเนื่องจากพวกเราจะกลับมาบอกหัวข้อนี้กันอีกภายหลังจากนี้ นอกเสียจากว่าเสื้อยืด หรือ เสื้อโปโลของคุณไปโดนดินโดนโคลนจนสกปรกมามันก็ไม่สำคัญเลยที่คุณจึงควรใช้น้ำร้อนซักเสื้อผ้าของคุณ เพราะเหตุว่าน้ำเย็นก็ปฏิบัติภารกิจได้ดิบได้ดีพอที่จะชำระล้างเสื้อของคุณ ไม่ใช่แค่มันคุ้มครองกลั่นหมึกออกจากเสื้อของคุณนะ แต่ว่าเป็นการประหยัดไฟด้วยอีกต่างหาก
4. เพียรพยายามอย่าย้อมเสื้อไม่ใช่แค่การย้อมสี หรือการกัดสีนะ แต่ว่าการใช้แฟ้บแรงๆอย่างน้ำยาปรับผ้านุ่มเองก็สามารถทำให้ความแน่น ความคงทนถาวรของ เสื้อย่อยสลายลง ตรงข้าม ลองพากเพียรเลือกใช้สบู่ที่อ่อนลงที่จะสามารถดูแลเสื้อผ้าชองคุณได้เสียดีกว่าค่ะ
5. หลีกเลี่ยงการอบผ้า สำคัญสุดๆเลย! เครื่องอบผ้าก็เยี่ยมดีอ่ะเพราะเหตุว่าทุ่นเวลาของเรา แม้กระนั้นมันถูกออกแบบมาให้ทำลายผ้าพวกเราสุดๆเลยรู้ไหม คิดออกไหมขาที่เราบอกคุณก่อนหน้านี้ในเรื่องของความร้อนกับผ้า? แนวความคิดนี้ถูกใช้ในข้อนี้เหมือนกันเลยนะ ความร้อนจะมีผลให้ผ้าหด และก็ทำให้รอยปริ๊น หรือรอบสรีนเป็นรอยแตก เก็บเครื่องอบผ้าไว้ใช้กับผ้าเช็ดตัว หรือผ้าที่มีไว้ปูที่นอนดีมากกว่าจ้ะ แล้วตากผ้าในแบบที่พวกเราทำกันมาแสนจะนานมากๆดังเดิม และก็อย่าลืมพยายามเลี่ยงการปั่นแห้ง ทฤษฎีคล้ายๆกันเลยจ้ะ
6. ปลดปล่อยผ้าให้แห้งในที่ร่ม ห้อยผ้าในที่ร่มที่แดดไม่สามารถที่จะเข้าถึงได้โดยตรงสิขา (โดยยิ่งไปกว่านั้นแสงที่มาจากดวงตะวัน) จะทำให้เป็นอันตรายต่อเสื้อผ้ารวมทั้งสีของเสื้อผ้าคุณแน่นอน แต่คุณอาจจะสงสัยสินะ เพราะว่าคุณก็สวมเสื้อยืดสกรีนหรือ เสื้อโปโล ของคุณออกไปไหนมาไหนข้างนอกตลอด ซึ่งก็ไม่เห็นจะมีอะไรผิดปกติเลยนี่? หัวข้อนั้นก็จริงค่ะ แต่ว่าหากว่าคุณจะออกไปข้างนอก คุณก็มิได้ใช้เวลาภายใต้แดดติดต่อกันตรงเวลาหลายชั่วโมงอยู่ดี
7. เลี่ยงการรีดผ้า ความร้อนเป็นสิ่งต้องห้าม! แต่ถ้าเกิดว่าคุณต้องจริงๆที่จะจำต้องรีดเสื้อยืดสกรีน หรือ เสื้อโปโล ของคุณ เราก็ต้องการจะเสนอแนะให้คุณใช้ความร้อนในระดับที่ต่ำที่สุดของเตารีด รีดเสื้อผ้าของคุณในแบบพลิกด้าน
เครดิต :
http://www.igetsee2.com/Tags : ชุดเซ็กซี่,ชุดนอนซีทรู,ชุดคอสเพลย์
