คุ้มหรือไม่ก็ที่จะใช้หูฟังตัดเสียงรบกวน Noise Cancelling? ท่ามกลางกระแสหูฟังปลอดจารชน (รวมทั้งแบบมีไส้ศึกบางรุ่น) ที่ล้วนแล้วเพียงนั้นหูฟังตัดเสียงรบกวนแถมฟังค์ชั่นตัดเสียงก่อกวน หรือที่นิยมเรียกกันว่า Noise Cancelling มาให้กันทั้งนั้น ทำให้เกิดกระทู้ถามว่าความอาจจะนี้มันควรค่าแก่การเป็นช้อยส์ในการตกลงใจซื้อหูฟังสักอันหรอ? เพราะหูฟัง in-ear ปกติก็สนับสนุนลดเสียงรบกวนข้างนอกอยู่แล้วนี่นา? เฉพาะข้าวของหยั่งงี้ถ้าไม่ดีจริงเค้าคงไม่แห่กันผลิตออกมาหรอกน่า เพื่อความชัวร์เราก็มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องข้าวของเครื่องใช้หูฟัง Noise Cancelling กันเลยดีกว่าครับ
ถ้าลองย้อนกลับไปซักสี่หรือห้าปีที่ทะลวงมา คำตอบเครื่องใช้ผมคงบอกได้เลยว่าไม่คุ้มซักมากน้อยแค่ไหน เนื่อวางมือ้วยหูฟังที่มีระบบตัดเสียงกวนใจสมัยก่อน ค่อนข้างจะจะพาลทำเอาคุณภาพเพลงที่เราฟังอยู่เส็งเคร็งตามไปด้วยหูฟังตัดเสียงรบกวน เรียกว่าระบบมันยังไม่ฉลาดพอที่จะแยกแยะได้อย่าง 100% ในการบาลานซ์ระหว่างเสียงกวนใจภายนอก กับคุณภาพเพลงที่เราฟังอยู่ บางหนก็มีอุปสรรคเกี่ยวกับเรื่องราวสรรพสิ่งแรติดขัดันอากาศรอบตัวเราซึ่งส่งผลให้ระบข้อความสำคัญำงานผิดพลาด
แค่นั้นมาถึงทุกเมื่อเชื่อวันนี้ปี 2018 บอกได้เลยว่า
หูฟังตัดเสียงรบกวน Noise Cancelling เป็นหูฟังที่ควรค่าแก่การลงทุน (ถ้าตรงกับจุดประสงค์การใช้งาน) ถึงข้อด้อยจะพอมี เท่านั้นข้อดีก็มีมากหูฟังตัดเสียงรบกวน เดี๋ยวจะหาว่าเป็นการขายสิ่งจนเกินไป เพราะฉะนี้ทดลองมามองรายละเอียดด้วยกันข้เท็จจริงสิ่งของฟูฟังชนิดนี้กันดีกว่าครับ ว่าเพื่ออะไรมันถึงควรค่าแก่การเสียสตางค์นัก
>> หูฟังตัดเสียงรบกวน Noise Cancelling ทำงานเช่นไร? ก่อนอื่นผมขอเรียกหูฟังประเภทนี้ย่อๆว่า NC แล้วกันนะครับ จะได้ไม่เมื่อยนิ้วเวลาพิมพ์ ฮ่าๆ เพื่อให้เข้าใจถึงเรื่องสิ่งหูฟัง NC อย่างแท้จริงจำเป็นจะต้องเข้าใจก่อนว่า โดยทั่วๆ ไปแล้วเมื่อพูดถึงหูฟัง NC เราสามารถแบ่งได้เป็น 2 จำพวกซึ่งแบบแรกคือ
Passive noise-canceling headphone :
หูฟังตัดเสียงรบกวน ก็คือหูฟังทั่วๆไปที่เราใช้นั่นแหละครับ เหตุเพราะคุณลักษณะทางกายภาพเครื่องใช้ตัวหูฟังเอง ทำให้มันมีทักษะที่จะลดเสียงกวนใจข้างนอกได้อยู่แล้ว แต่ก็ขึ้นอยู่กับวัสดุหรือร่างแบบข้าวของหูฟังนั้นๆด้วย ยกต้นแบบเช่นหูฟังแบบ in-ear ก็มีฟีเจอร์ที่จะลดเสียงรบกวนได้กีว่าหูฟังแบบ headphone เพราะมันแนบสนิทกับช่องหูได้ดีกว่า หรือหูฟัง Headphone แบบ closed-back ก็จะป้องกันเสียงก่อกวนได้ดีกว่าแบบ open-back เป็นต้นครับ
ถ้าเคยเห็นพวก Earplug หรือหูฟังป้องกันเสียงรบกวนที่ใช้ในโรงงาน นั่นล่ะครับคือหูฟัง NC แบบ Passive ชนิดนึง เท่านั้นหูฟังตัดเสียงรบกวนชนิดนี้ก็ต้องแลกมาด้วยขนาดที่ใหญ่และน้ำหนักที่มากเนื่อยกเลิก้วยต้องยัดวัสดุที่ทำอาชีวะทัศนะดซับเสียงสวมด่วน้ข้างใน Earcup
>> แล้วจะเลือกใช้อะไรดี? จากประเภทของหูฟัง NC ทั้งสองแบกรณีำให้เราพอเห็นความสามารถที่ผิดแผกแตกต่างกัน จนไม่น่ายากเกินไปที่จะเลือกว่าหูฟังแบบไหนเข้ารูปกับเราใช่มั้ยครับ ถ้าคุณเน้นความประหยัด หูฟังตัดเสียงรบกวนทำไมได้ท่องเที่ยวท่องเที่ยวสม่ำเสมอนัก เน้นการใช้ฟังในที่ทำงานซะส่วนใหญ่ เพียงแค่ประสงค์ลดเสียงนินทาจากเพื่อนร่วมงาน หรือไม่ประสงค์ยากเรื่องราวชาร์จแบตเตอรี่ หูฟัง NC แบบ Passive น่าจะตรงใจความพึงประสงค์ข้าวของเครื่องใช้คุณได้เพียงครบแล้ว
ถ้าเรานึกถึงหูฟังตัดเสียงรบกวน NC แบบ Passive ลักษณะที่เวิร์คหนักหนาด้วยการใช้งานก็คงจะเป็นหูฟังแบบ in-ear ใช่มั้ยครับ เนื่องมาจากมันสามารถบล็อคเสียงจากภายนอกได้ชะงัดนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอบข่ายความถี่กลางด้วยกันสูง เพียงนั้นถ้าเพื่อจะบางคนที่ไม่ถนัดในการสวมใส่หูฟัง in-ear เป็นเวลานานๆล่ะ? เพราะหูฟัง Headphone แบบ Closed-back ถึงจะสวมใส่คล่องกว่าเท่านั้นก็ไม่สามารถปกป้องเสียงรบกวนได้ดีซักเท่าไหน เนี่ยล่ะครับจึงเป็นอีกจุดที่หูฟัง NC ชนิด Active ได้เปรียบ พร้อมทั้งกำลังเติบโตในตลาดมากขึ้นประจำวันๆ
มาถึงจุดนี้ถ้าท่านใดคิดว่าจิตใจเบี่ยงเบนที่จะเสียตังค์ให้กับหูฟังตัดเสียงรบกวน Active NC แล้วล่ะก็ ทดลองตามไปตรวจดูรายละเอียดของใช้หูฟังประเภทนี้กันเพิ่มเติมต่อเลยดีกว่าครับ
Tags : หูฟังตัดเสียงรบกวน, หูฟังตัดเสียง